Date: Sun, 03 Nov 1996 23:52:20 +0700 From: Panot Hoonwan Subject: Politic อันนี้เป็นบทความของ นสพ.ที่มีผู้คัดลอกเอามาให้อ่านใน BBS ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 78 Rec'd Date: 29 Oct 96 14:26:00 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(1) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ"การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2539 ********************************************************** .......เมื่อไม่มีการยอมรับ ก็มีทางเดียว ก็คือการทำลาย นักการเมืองในปัจจุบันจะมีศัตรูอยู่ 4 จำพวก จำพวกแรกก็คือ พวกที่เสียผลประโยชน์และไม่ได้รับผลประโยชน์ที่ตนหวังจะได้ คนจำพวกนี้ในปัจจุบันเปลี่ยนมาในรูปของนักธุรกิจกลุ่มทุนนักปั่นหุ้น หรือกลุ่มสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวง การคลัง ทำเป็นหลับหูหลับตาให้พวกโกงชาวบ้านไปได้เป็นพันล้าน หมื่นล้านอย่างบีบีซีอันลือลั่น กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มผู้รับเหมาที่ต้องการเหมาทุกสิ่งที่เป็นโครงการของรัฐ กลุ่มที่เข้าเกาะผู้บริหารได้ก็กำหนดเป็นเปอร์เซ็นที่จะต้องจ่ายกันอย่างมี กฎมีเกณฑ์ตรงข้ามกับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ใช่พวกเดียวกันหรือพวกที่เข้าไป ไม่ถึงกลุ่มผู้มีอำนาจ ทั้งสองกลุ่มนี้จะห่ำหั่นและเชือดเฉือนกันทุกอย่าง แม้แต่จะต้องยกความผิด ทั้งหลายให้แก่บ้านเมืองและผู้ปกครองบ้านเมือง เพื่อแสดงให้เห็นว่าบ้าน เมืองนั้นสกปรกเลวทรามอย่างถึงที่สุดที่ไม่สามารถจะยอมให้ปกครองกัน ต่อไปได้ เพื่อที่ตนจะมีทางหาประโยชน์ได้ กลุ่มที่สามก็คือกลุ่มนักการเมืองด้วยกันได้แก่นักการเมืองฝ่ายค้านที่พากันอด อยากหิวโหยอยู่นอกคณะรัฐบาล ใครมาเป็นฝ่ายค้านทุกฝ่ายจะต้องทำลาย รัฐบาลลงให้ได้เพื่อจะหาทางเข้าไปกินเสียเอง เมืองไทยนั้นมีธรรมเนียม ว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เข้าไปกินด้วยไม่ถูกต้อง เพราะฉนั้นแต่ละคนที่ขึ้นมาบริหารบ้านเมืองหรือเป็นนายกรัฐมนตรีจะอยู่กัน ได้เพียงไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ และไม่มีที่ใครจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองใดๆ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว คนพวกนี้จะต้องให้คนอย่างจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีปัญหานี้ขึ้นก็จะทำแต่เพียงอย่างเดียว คือใช้คำถาม ว่า "มึงจะเอายังไงกับกูวะ ?" เท่านั้นแหละเมืองไทยจะราบรื่นไปหมด! ทุกคนกลัวอำนาจ นักก่อกวนและสัตว์เลี้ยงทุกชนิดในชาติจะกลัวอำนาจอย่างเดียว กลุ่มสุดท้ายคือหนังสือพิมพ์หรือสื่อต่างๆที่ต่างผูกขาดการมีอำนาจอิทธิพลในการ บ่อนทำลายใครโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่ได้ประโยชน์ใดๆแก่บ้าน เมืองแม้แต่น้อย เฉพาะหนังสือพิมพ์จะใช้การโน้มน้าวผู้อ่านด้วยการใช้ภาษาอาชญา กรทุกชนิดมาพาดหัว เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวถึง"ฉิบหายวายวอด"ให้ได้ แม้ว่าเรื่องที่พูด ถึงจะมีหลักฐานข้อเท็จจริงหรือฟังได้ไม่ได้เพียงใดหรือไม่ก็ตาม ขอแต่ให้เกิดความ มันและสามารถปลดปล่อยอารมณ์ SADISM ของตนให้ได้ก็จะทำและทำซ้ำๆซากกัน จนกว่าจะสมปรารถนากันทีเดียว มีตัวอย่างอยู่สองตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายถึงวิธีการทำลายของหนังสือพิมพ์ดัง กล่าวนี้ คือการพยายามทำลาย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีซึ่งเป็นคน หนึ่งที่มีการศึกษาดีและมีความรู้เป็นที่วางใจได้ การเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลังของเขา มีความบกพร่องเพียงสามประการเท่านั้นคือ เขาไม่ได้จบปริญญาทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งมีหนังสือที่จะต้องอ่าน ต้องศึกษากันจริงๆไม่กี่เล่ม เป็นเหตุผลแรกที่ไม่ทำให้ เขาได้รับการยอมรับ ประการต่อมาก็คือ เขาไม่ได้เป็นนายธนาคารและไม่ได้เข้า ร่วมในกลุ่มทุนทำลายชาติบ้านเมืองอย่างที่คนในกลุ่มทุนเหล่านี้จะร่วมกันทำ ประการ สุดท้ายก็คือ เขาไม่ใช่นักปั่นหุ้นและไม่รวมอยู่ในกลุ่มผู้วางแผน และบงการปั่นหุ้น ซึ่งในระบบธุรกิจทุนนิยมชั่วร้ายนี้นิยมทำกันนั่นทำให้เขากลายเป็นรัฐมนตรีที่โดด เดี่ยว และขาดพรรคขาดพวกที่ไม่สามารถจะหาเกราะป้องกันตัวเองได้ ถูกติดตาม ทำลายโจมตีในทุกรูปแบบ จนกระทั่งต้องยอมจำนนต่อระบบการเมืองของไทยไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเราเคยมีรัฐมนตรีหลายคนหลายกระทรวงที่ไม่มีความรู้ความสามารถ อะไรเลยมาบริหารบ้านเมืองก็สามารถจะอยู่ได้ คนที่สองที่เกิดปัญหามาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็คือ นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งผมไม่เคยรู้ จักและไม่เคยพบเห็นคนผู้นี้มาก่อน เขาถูกขนานนามว่าเป็นรัฐมนตรียี้ทุกวันทุกคืน เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่ไปขุดค้นคดีสปก.4-01เข้า เขาเข้าไปกระชากหน้ากาก กลุ่มเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์และความเหลวแหลกในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เขา ต้องเกิดศัตรูตัวใหญ่ในวงการธุรกิจการเงินของชาติ และที่ร้ายที่สุดเขาพยายาม ขัดขวางพรรคการเมืองบางพรรคที่พยายามแสวงหาผลประโยชน์จากการสร้างทาง ด่วนสายต่างๆที่พรรคการเมืองต้องการเขมือบสบายเป็นพันๆล้านบาทนั่น เลยเป็น บาปกรรมที่ทำให้เขาถูกทำลายโดยศัตรูเหล่านั้น โดยมีหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนที่ ทรงอำนาจในปัจจุบันรับลูกสับโขกทำลายต่อมา ในความผิดหรือความชั่วของนายเนวิน ชิดชอบที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหนังสือ พิมพ์ระดับไหนชั้นไหน ให้เหตุผลแต่เพียงว่าการทำลายทั้งหมดนั้นเป็น"กระแส" ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากระแสอะไรมาจากไหน นอกจากกระแสทำลายที่โหมกันไปกันมา ความ ผิดที่มองเห็นชัดๆ แม้แต่ขนาดจิ้งจกตุ๊กแกสักตัวหนึ่งจะไปแทะเอามาดูกันเล่นๆก็ยัง ไม่มี "ในความคิดความเห็นของผม ผมถือว่ามันไม่ยุติธรรมและไม่เป็นธรรม!" มันไม่เกี่ยวอะไรกับปัญหาของประเทศชาติประชาชนหรือปัญหาของบ้านเมืองโดยส่วนรวม และถ้าพูดถึงนักการเมืองชั่ว ก็มีอีกเต็มเมืองที่ชั่วกว่านายเนวิน ชิดชอบ หลายรัฐ บาลมาแล้วเรามีรัฐมนตรีประเภทโง่ๆและไม่เอาไหนกันมากมาย ความรู้ความเฉลียว ฉลาดที่ไม่เป็นสับประรดมากกว่านายเนวิน ชิดชอบก็มากต่อมาก จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เชื่อกันว่าเป็นพรรคการเมืองที่รวมเอาผู้วิเศษทั้งหมดมาปกครองประเทศ ยังเคยมี เรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับการหากินกับการอนุมัติโรงงานยางพาราให้กับเสี่ยตันหยงมัส ยับเยินมาจนบัดนี้กลิ่นสกปรกและความสกปรกก็ยังไม่จางไปไหน และเฉพาะอย่างยิ่ง ในการแทรกแซงราคายางในรัฐบาลนั้น ปรากฎว่าถูกต้มไป 2,000 ล้านบาท เพราะ ความโง่ของรัฐมนตรีของพรรค ถ้าพูดถึงความ "ชุ่ย,เพียบพูนด้วยเล่ห์,โง่และแสนทราม" ก็น่าจะมากกว่านายเนวิน ชิดชอบ แต่กรรมาธิการของสภาที่มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบ เรื่องนี้ ก็พากันเงียบเฉยหรือมองเห็นนักการเมืองที่รับผิดชอบเรื่องทำนองนี้เป็น วีรบุรุษไป นี่คือปัญหาของการเมืองไทยกับหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆที่เรามีกันอยู่ ในประเทศเวลานี้ ........................................................ยังมีต่อ.. ... A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 79 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:21:01 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(2) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ "การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2539 ******************************************************** ผมโตขึ้นมาในยุคหนังสิอพิมพ์และสื่อของเรายังทำน้าที่หนังสือพิมพ์กันอยู่ ไม่ว่าจะ เป็น สุภาพบุรุษประชามิตร ของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ สุสรรณภูมิ ของคุณสนิท เจริญรัฐ เสาร์รีวิว ของคุณฉอ้อน อำพล เสียงกรุงและประชาชาติหนังสือพิมพ์ เหล่านี้ในยุคนั้น จะไม่เสียเวลาเสียหน้ากระดาษไปขุดโครตเหง้าเหล่ากอใครมา พูดถึง วันหนึ่งๆเขาจะพูดกันถึงปัญหาของบ้านเมืองว่ามันมีอะไร เราจะไปกันตรง ไหน อะไรมันถูกและอะไรมันผิด โลกอื่นเมืองอื่นเขาทำกันยังไง และเขาจะไม่ ระยำตำบอนกันถึงขนาดอย่างทุกวันนี้ ซึ่งมุ่งหน้าเข้าไปทำที่ตนไม่ชอบ สบประมาท และทำลายคนอื่นอย่างไม่มีหลักฐาน กักขฬะ สามหาวโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ เขาจะสรุปทุกสิ่งทุกเรื่องเอาตามความเห็นชอบของเขา ไม่ว่ามันจะมีพื้นฐานหรือ ไม่มีพื้นฐาน ความถูกต้องทั้งหมด ในการเสนอความคิดเห็น การโน้มน้าว และชี้นำ ประชาชนจะเป็นของเขาทั้งสิ้น ท้ายที่สุดเขาจะใช้ความเป็นตัวเมียรุมขยำขยี่ใคร คนหนึ่งคนใดที่ไม่มีทางสู้อย่างนายเนวิน ชิดชอบหรือนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความผิดของดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความจริงไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เป็น ความผิดของบรรพบุรุษของเขาที่มาทำให้เขาเกิดเป็นคนไทยและไม่ได้ทำหนังสือพิมพ์ เช่นเดียวกับนายเนวิน ชิดชอบ การเข้ามาเป็นนักการเมืองของเขานั้น เป็นความ ผิดของคนบุรีรัมย์ทั้งหมดที่เลือกเขาเข้ามา ถ้าหากว่าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆถือ ว่าเป็นความผิดก็น่าจะไปลงโทษเอาที่คนบุรีรัมย์ที่เลือกเขาเข้ามา นั่นดูเหมือนว่า จะถูกต้องและยุติธรรมกว่า หรือเราอาจจะมองไปว่านายเนวิน ชิดชอบถูกเลือก มาเพราะการซื้อเสียง แต่การซื้อเสียงนั้นมีกันทุกจังหวัด จังหวัดที่ซื้อเสียงกัน หนักที่สุดเมื่อเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีอยู่สองแห่ง คือจังหวัดนครราชสีมาและ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งซื้อกันในราคาสูงมากกว่าทุกจังหวัด "ใครเป็นผู้แทนมาจากสองจังหวัดนั้น?" ทำไมผู้รักชาติและมีอิทธิพลทั้งหลายไม่ไปทำลายล้างนักการเมืองชั่วๆเหล่านั้นอย่าง ที่ทำกันอยู่กับคนอย่างนายเนวิน ชิดชอบ เพียงแต่เข้าไปฉีกหน้าพวกนักปั่นหุ้นและพวก สัมปทานผูกขาดในการกินบ้านกินเมืองในการสร้างทางด่วนไม่กี่คนเท่านั้น ? ถ้าหาก เราต้องการประณามว่านักการเมืองอย่างนายเนวิน ชิดชอบ มันชั่ว ปัญหาก็มีอยู่ว่า นักการเมืองเมืองไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้มีคนไหนที่มันชั่วน้อยที่สุดบ้าง? ถ้าหากว่าเราจะเป็นกันอยู่อย่างนี้ ผมก็อยากสงสัยว่าเราจะอยู่กันได้อย่างไร ? ทำไมความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมเราไม่ยอมใช้กันบ้าง เมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวเล็กๆข่าวหนึ่งเขียนว่า "บัณฑิต นิตยถาวร ผอ.ฝ่ายการธนา คารของแบงค์ชาติบอกว่าเวลานี้ ตลาดเงินบ้านเราอยู่ในภาวะปกติ" ก็ต้องเชื่อกัน ผอ.ยัณฑิตบอกว่า"เงินที่ออกจากตลาดหุ้นยังไม่ได้ออกนอกประเทศ ส่วนหนึ่งเปลี่ยนไป ลงทุนในตลาดเงินซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบและสร้างความผันผวน ส่วนข่าวลือในตลาดเงิน สิงคโปร์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องนั้น เกลียวทอง เหตระกูล ผอ.ฝ่ายวิชาการของแบงค์ ชาติยืนยันจากการที่แบงค์ชาติจับตามาตลอดว่าเป็นการสร้างข่าวของนักค้าเงินใน สิงคโปร์เพื่อเก็งกำไรจากความตื่นตระหนก โยงใยมาถึงนักค้าเงินไทย" (กระสุนทอง : ไทยรัฐ.12 ตุลาคม 2539) นี่เป็นข้อเท็จจริง แต่ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจของบ้านเมืองที่พยายามโหมกันเข้ามาว่าบ้านเมืองจะ "ฉิบหายวายวอด"ลงไปเพราะเศรษฐกิจไปไม่ไหว ที่พูดกันมาตลอดในสมัยรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา โดย"คนกลุ่มหนึ่ง" คือกลุ่มนักวิชาการหรือที่อ้างตัวว่าเป็น นักวิชาการ คนพวกนี้ในยามที่ไม่มีการจัดแสดงอภินิหารจากสังคมแล้ว ก็จะพากันนั่ง หุบปากเงียบ ไม่บอกไม่กล่าวและไม่แสดงความเห็นอะไร แต่พอทางสื่อต่างๆหรือ กลุ่มต่างๆจะตั้งหน้าทำลายกันแล้ว ก็จะออกมารับลูกผสมโรงทันที ที่ธรรมศาสตร์ครั้ง หนึ่งหนังสือพิมพ์พูดถึงคนพวกนี้ไว้ว่า "อาจารย์มธ.ชี้ตปท.ถอนทุนหนี "เติ้ง"ต้นตอ ทำเศรษฐกิจพัง"(มติชน : 13 กันยายน 2539) นั่นคือข่าวและวิธีการสร้าง "ความวิบัติฉิบหาย"ให้แก่บ้านเมืองของเราที่เป็นกันมา! ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับว่า "ใครเป็นพวกใคร"และ"ใครจะได้ประโยชน์เสียประโยชน์จากใคร"และที่สำคัญที่สุด "ใครจะมีอำนาจหรือมีบารมีหรือไม่?" นั่นคือเหตุผลที่จะตัดสินความถูกต้องหรือไม่ถูก ต้องในบ้านเมืองของเรา! ท่านล่ะ,ถ้าคิดจะเป็นนักการเมือง ท่านมีอำนาจและบารมีแล้วหรือยัง? ไม่มีก็รีบสร้าง มันไว้เสีย เอาแต่เพียงบารมีก็ได้ถ้าหากอำนาจไม่ได้ใช้กันแล้ว เมืองไทยมันยังเน่า และจะเน่าต่อไป อำนาจและบารมีเท่านั้นที่จะจัดการมันได้!! ...A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 83 Rec'd Date: 29 Oct 96 13:59:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: จากเชื้อชาติถึงสปก. ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ********************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผู้จัดการรายวัน วันที่ 30 ตุลาคม 39 ********************************************************** น่าสงสารพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯจริงๆ...นักกวนข่าวสายการ เมืองกล่าวนำขึ้นในที่ประชุม เล่นเอาหลายคนมองหน้าคนพูดเพราะชักสงสัยใน ความเป็นกลาง ก็เรื่องปัญหาเชื้อชาติ...เรื่องคนจีนนั่นไง นักกวนข่าวสายการเมืองเห็น ท่าไม่ดีจึงรีบขยายความ ใครที่ได้ฟังการอภิปรายคุณบรรหารในสภาฯเมื่อคราวที่แล้ว ย่อมสรุปได้อย่าง ชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจอะไรกับพี่น้องชาวจีนสักหน่อย แต่ที่ยกเรื่องนี้มาพูดเพราะเขาสงสัยเรื่องสัญชาติที่ถูกต้องของคุณบรรหารต่างหาก ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เกลียดคนจีน!!! แน่นอนว่า แม้ข้อกล่าวหาของประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้สำหรับทัศนะของผู้ชมผู้ฟัง แล้ว ส่วนใหญ่ก็สรุปตรงกันว่าฟังไม่ขึ้น มีเยี่ยงอย่างที่ไหน พอถูกถามว่าหลักฐานที่ เอามากล่าวหาคุณบรรหารนั้นเอามาจากไหน นกนางแอ่น-ชำนิดันพูดหน้าตาเฉยว่า มาจากประชาชนคนหนึ่ง คนไหนก็ไม่รู้!!! แต่ของฝ่ายรัฐบาลเขาออกจะชัดเจน โดยเฉพาะจากคุณบุญชู วังกานนท์ เรื่องนี้ประชาธิปัตย์ก็ควรรับกรรมไปว่าเป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย จะถูกฟ้อง ก็ต้องยอมแบบลูกผู้ชายชาตินกนางแอ่น แต่สำนักข่าวกวนแห่งชาติขอยืนยันว่าปนะชาธิปัตย์ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจ คนจีนแต่อย่างใด...อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ประชาธิปัตย์เขา ที่ประชุมนักกวนข่าวเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์และทำท่าว่าจะเทคะแนนสงสารให้ ประชาธิปัตย์อยู่รอมร่อ...จะมีก็แต่นักกวนข่าวอาวุโสเท่านั้นที่ทำท่าแปลกๆ ไม่แสดง อาการอะไรออกมา จนครู่หนึ่งก็เคาะไปป์ดังโป๊ก โป๊ก แล้วสวนกระแสว่า ประชาธิปัตย์ก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่เล่า!!! อย่างเรื่องปัญหา ส.ป.ก.4-01 นั่นไง พรรคการเมืองที่เขาออกมาคัดค้านเรื่องเกี่ยวกับ ส.ป.ก.ไม่มีพรรคไหนเลย ที่พูดว่า โครงการปฎิรูปที่ดิน ส.ป.ก.นี่มันเลวร้าย ทุกพรรคเขาสนับสนุนทั้งนั้น เพื่อให้เกษตรกรคนยากคนจนได้มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง ไม่มีใครคัดค้านโครงการ นี้เป็นส่วนรวมสักหน่อย!!! เขาคัดค้านกรณีเอาที่ดินไปแจกคนรวยที่เป็นพรรคพวกตัวเองต่างหาก โดยเฉพาะที่ภูเก็ต... แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ยอมเข้าใจ ทำบื้อเสียเฉยๆอย่างนั้นแหละ แทนที่จะ ยอมรับความผิดพลาดเอาไปแก้ไข แต่ออกมาพูดเรื่องนี้ทีไร... ก็กลายเป็นว่าพรรค การเมืองอื่นๆคัดค้านโครงการส.ป.ก.4-01 ไม่อยากให้คนจนได้ที่ดินเสียนี่!!! สรุปแล้วก็พอกันละวะ ไม่ว่าจะเรื่องเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเรื่องส.ป.ก.4-01 ที่ประชุมได้ยินดังนั้นจึงร้องออกมาพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายว่า... "เออ จริงของเขา สมน้ำหน้า" แล้วเลิกสงสารพรรคประชาธิปัตย์โดยพลัน ************************************************************* -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 88 Rec'd Date: 29 Oct 96 21:28:03 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ใครว่านักการเมืองแตกแยก? ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ************************************************************ จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผูจัดการรายวัน ประจำวันที่ 31 ตค.39 ************************************************************ ใครต่อใครเมื่อได้เห็นได้ยินพรรคการเมืองยุคก่อนปฎิรูปการเมืองยุคนี้เขาหาเสียงกัน แล้ว มีไม่น้อยที่ต่างก็พากันหนักใจ เพราะดูเหมือนว่า ต่างใช้วิธีการทุกรูปแบบใน การทำลายความน่าเชื่อถือซึ่งกันและกันอย่างไม่ยั้ง โดยเฉพาะเรื่องของการด่าการ ขุดคุ้ยความไม่ดีของฝ่ายตรงข้ามมาประจานกัน ขนาดเลี่ยหมากหอมที่โตจนหมาเลียตูด ไม่ถึง แถมแก่เสียจนผมหงอกหมดตัว ใครต่อใครยกให้เป็นสุภาพบุรุษ ยกให้เป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ทางการเมืองพอถึงเวลาหน้าเลือกตั้งยังเผลอแสดงธาตุแท้ออกมาอย่างเจตนา ก็คุณพิชัย พ่อคุณพิจิตตไงครับ เรียก ดร.ทักษิณว่า"ไอ้แม้ว" เรียก ร.ต.อ.เฉลิม ว่า "ไอ้เหลิม" สองคนนั้น คนหนึ่งอดีตรองนายกฯส่วนอีกคนก็รัฐมนตรีเชียวนะ แต่โดนจิก กระหม่อมเรียก "ไอ้" อย่างหน้าตาเฉย เหยียดหยามหยาบคายกันปานนั้น!!! คุณหมวย คุณปิ๊ก คุณติ๋ว คุณหน่อย...อีกไม่นานมีสิทธิ์ถูกเสี่ยแกเรียก "อี" จนได้ ไม่เชื่อคอยดู อีหมวย อีปิ๊ก อีติ๋ว อีหน่อย เฮอะ !!! จากการที่หาเสียงด้วยการทำลายล้างคู่แข่งทุกรูปแบบเช่นนี้ ล่าสุดได้นำไปสู่การตัด เป็นตัดตายกันระหว่างพรรคการเมืองสำคัญ 3 พรรค ประชาธิปัตย์ฝ่ายหนึ่ง กับความหวังใหม่ และพลังธรรมอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างก็ประกาศ ไม่เอาซึ่งกันและกันแล้ว เมื่อเรื่องมันบานปลายมาจนถึงขนาดนี้ ปรากฎว่าคนที่เป็นห่วงมากกว่าเพื่อนจนซ่า ไม่ออก ก็ได้แก่นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ผู้ไร้เดียงสา อินโนเซนต์คิกขุอินเดอะหน่อมแน้ม นั่นเอง นักกวนข่าวรุ่นเยาว์เป็นห่วงว่าในเมื่อประกาศไม่เอากันอย่างนี้ สืบไปภาย หลังเลือกตั้ง ก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาลและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายค้านอย่างแน่นอน เมื่อต่างฝ่ายต่างคุมแค้นทางการเมืองแบบนี้ จะเอาเวลาที่ไหนมาคิดทำนุบ้านเมือง ให้เจริญก้าวหน้าเยี่ยงนานาอารยประเทศสืบไป ฝ่ายรัฐบาลก็จ้องหาเรื่องฟาดฟันทำลายล้างฝ่ายค้านด้วยอำนาจรัฐที่ตัวเองถืออยู่ ส่วนฝ่ายค้านก็จ้องหาเรื่องล้มรัฐบาลเม่งร่ำไป วันละ 25 ชั่วโมง เอาแต่กัดกันเสียจนไม่มีเวลาทำมาหากิน...ว่างั้นเถอะ บ้านเมืองภายภาคหน้ามิมืดมิดวังเวงแย่หรือ...นักกวนข่าวรุ่นเยาว์สรุปอย่างท้อแท้ หึ หึ...โป๊ก โป๊ก...เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากหัวโต๊ะ ไม่ต้องห่วงหรอกหนู...หึ หึ ไม่ต้องห่วง นักการเมืองบ้านเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องห่วง เวลาบ้านเมืองเป็นปกติ เวลาไม่มีเรื่องราวคอขาดบาดตาย เขาก็หาเรื่องด่าทอ ทะเลาะเบาะแว้งกันแบบนี้แหละ แต่ไม่ต้องห่วง...เวลามีภัยมาถึง รับรองว่าพรรค การเมืองไทยจะเลิกทะเลาะแล้วผนึกกำลังกันต่อสู้ป้องกันภัยอย่างเหนียวแน่นทันที ลืมเรื่องบาดหมางในอดีตทันที ไม่ต้องห่วง อย่างเวียตนามจะบุกนะหรือ นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ถาม ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น อย่างเรื่องปฎิรูปการเมืองนั่นไง นักกวนข่าวอาวุโสปฎิเสธ พอความคิดเรื่องแยกอำนาจบริหารกับนิติบัญญัติ ไม่ให้ส.ส.เป็นรัฐมนตรีเริ่มมีคน พูดกันมากเท่านั้นแหละ ทั้งประชาธิปัตย์ ความหวังใหม่ และชาติพัฒนาต่างพากัน สามัคคี ออกอาการไม่เห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายทีเดียว... เห็นไหม สมตามคำขวัญ..."ใครทุบหม้อข้าว เราสามัคคีสู้ตาย" นั่นแล!!! *********************************************************** ... อำนาจทำให้มึนเมา หากใครสัมผัสกลิ่นอายเข้า มักลุ่มหลงและหยิ่งผยอง -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 80 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:05:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ไม่ต้องปฏิรูปแล้ว....การเมือง!!! ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ มีใครนึกแปลกใจบ้างไหมว่า ทำไมธรรมชาติถึงได้กำหนดกฎเกณฑ์ประหลาดๆให้กับ สิ่งมีชีวิตบางประเภท...นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยาเอ่ยนำขึ้นในที่ประชุม เล่น เอางงกันไปเป็นแถบว่า เหตุใดอยู่ดีๆถึงยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด อย่างหมากับแมวทำไมเจอะหน้ากันแล้วต้องมีเรื่อง กินยอดกระถินตามหอยนางรมสด แล้วทำไมถึงหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องแพ้ทางกัน... เวลาเข้าป่า หากไม่ อยากให้งูเงี้ยวเขี้ยวขอมารบกวน ท่านว่าให้พกลูกมะนาวติดตัวไว้ รับรองสัตว์ร้าย พวกนี้ไม่มาแผ้วพาน งูเห่าที่ว่าพิษสงร้ายกาจ แต่เจอะพังพอนแล้วรับรองหงอย รับ ประทานกลายเป็นงูดินไร้พิษสงไปทันที หรืออย่างงูเหลือมที่ว่าเรี่ยวแรงเยอะแยะ รัดวัวรัดควายกระดูกแตกตายคาที่นั้น หากเจอะเชือกกล้วยเท่านั้นแหละ รับรองได้ เลยว่าหมดเรี่ยวหมดแรง ตัวอ่อนปวกเปียกเลื้อยไปไหนไม่รอด ยังมีอีกแยะเรื่องลึกลับ ชวนสนเท่ห์เหล่านี้.... ร่ายยาวมาถึงตอนนี้ ก็ถูกนักกวนข่าวสายขัดคอพูดแซงขึ้นมาว่า จะเปลี่ยนงานหรือ อย่างไร จะไม่อยู่แล้วหรือ"ผู้จัดกวนรายวัน" สนใจข่าวแปลกประหลาดแบบนี้จะลาออก ไปอยู่รายการ "ตามไปดู" หรือ "ท้าพิสูจน์"...หรือว่าจะไปอยู่หนังสือพิมพ์ "มักกะลีผลรายวัน" หือ? นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยารีบปฎิเสธปากคอสั่น แล้ว สรุปทันทีว่า ทั้งหมดนี้คือคำอธิบายต่อปรากฎการณ?บางอย่างที่หอประชุมกิติขจร เมื่อ อาทิตย์ก่อนที่กองทัพบกเขาจัดให้นักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ช.ไปดีเบต กันไง... เฮอะ...เกี่ยวอะไรกับงูแพ้เชือกกล้วย...มีเสียงแทรกถาม...เกี่ยวซิครับ ...คืดพวกนักการเมืองนี้ก็เห็นๆกันอยู่ ไม่ว่าจะช.ไหน ก่อนหน้านี้หาเสียงกันอย่าง ไร มีพูดไหมเรื่องนโยบงนโยบาย มีแต่เรื่องด่ากันเสียดสีกัน ขุดโครตพ่อโครตแม่มา ด่ากัน ก็ยังมี แต่พอคืนนั้นที่ทหารเขาจัดให้ไปพูดจากันต่อหน้าพวกเขาแล้ว เป็น อย่างไร...มีไหมอาการซ่าแบบที่เคยเป็น ก็ไม่มีใช่ไหม ถามเรื่องส่งออกก็ตอบเรื่อง ส่งออก ถามเรื่องเงินเฟ้อตอบเรื่องเงินเฟ้อ ถามเรื่องปฎิรูปการเมืองก็ตอบเรื่อง ปฎิรูปการเมือง ไอ้แบบว่าจะแขวะกัน หรือหาเรื่องสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีกันมีให้ได้ ยินไหม? ดังนั้นจึงขอสรุปว่า ธรรมชาติได้สร้างสิ่งนี้มาให้เหมือนงูกลัวเชือก กล้วย...นักการเมืองกลัวทหาร...ขอยืนยัน!!! ดังนั้นเรื่องที่จะคิดค้นการปฎิรูปการ เมืองเพื่อให้นักการเมืองทั้งหลายอยู่กับร่องกับรอยน่ะ เห็นทีจะไม่ต้องเสียเวลา แล้ว...เอาว่าต่อไปในภายภาคหน้า...นักการเมืองคนไหนมีปัญหาก็ส่งไปให้ทหารเขา จัดการเสียก็แล้วกัน หรือถ้าเป็นปัญหารวมหมู่อย่างประชุม ครม.ก็เชิญมาประชุมเสีย ที่หอประชุมกิติขจรต่อหน้าทหารน้อยใหญ่แบบนี้แหละ...รับรองเรียบร้อย!!! ***************************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมพ์ผู้จักการรายวัน ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 39 ***************************************************************** -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ปณต หุ่นวัน Panot Hoonwan Date: Sun, 03 Nov 1996 23:52:20 +0700 From: Panot Hoonwan Subject: Politic อันนี้เป็นบทความของ นสพ.ที่มีผู้คัดลอกเอามาให้อ่านใน BBS ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 78 Rec'd Date: 29 Oct 96 14:26:00 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(1) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ"การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2539 ********************************************************** .......เมื่อไม่มีการยอมรับ ก็มีทางเดียว ก็คือการทำลาย นักการเมืองในปัจจุบันจะมีศัตรูอยู่ 4 จำพวก จำพวกแรกก็คือ พวกที่เสียผลประโยชน์และไม่ได้รับผลประโยชน์ที่ตนหวังจะได้ คนจำพวกนี้ในปัจจุบันเปลี่ยนมาในรูปของนักธุรกิจกลุ่มทุนนักปั่นหุ้น หรือกลุ่มสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวง การคลัง ทำเป็นหลับหูหลับตาให้พวกโกงชาวบ้านไปได้เป็นพันล้าน หมื่นล้านอย่างบีบีซีอันลือลั่น กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มผู้รับเหมาที่ต้องการเหมาทุกสิ่งที่เป็นโครงการของรัฐ กลุ่มที่เข้าเกาะผู้บริหารได้ก็กำหนดเป็นเปอร์เซ็นที่จะต้องจ่ายกันอย่างมี กฎมีเกณฑ์ตรงข้ามกับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ใช่พวกเดียวกันหรือพวกที่เข้าไป ไม่ถึงกลุ่มผู้มีอำนาจ ทั้งสองกลุ่มนี้จะห่ำหั่นและเชือดเฉือนกันทุกอย่าง แม้แต่จะต้องยกความผิด ทั้งหลายให้แก่บ้านเมืองและผู้ปกครองบ้านเมือง เพื่อแสดงให้เห็นว่าบ้าน เมืองนั้นสกปรกเลวทรามอย่างถึงที่สุดที่ไม่สามารถจะยอมให้ปกครองกัน ต่อไปได้ เพื่อที่ตนจะมีทางหาประโยชน์ได้ กลุ่มที่สามก็คือกลุ่มนักการเมืองด้วยกันได้แก่นักการเมืองฝ่ายค้านที่พากันอด อยากหิวโหยอยู่นอกคณะรัฐบาล ใครมาเป็นฝ่ายค้านทุกฝ่ายจะต้องทำลาย รัฐบาลลงให้ได้เพื่อจะหาทางเข้าไปกินเสียเอง เมืองไทยนั้นมีธรรมเนียม ว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เข้าไปกินด้วยไม่ถูกต้อง เพราะฉนั้นแต่ละคนที่ขึ้นมาบริหารบ้านเมืองหรือเป็นนายกรัฐมนตรีจะอยู่กัน ได้เพียงไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ และไม่มีที่ใครจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองใดๆ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว คนพวกนี้จะต้องให้คนอย่างจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีปัญหานี้ขึ้นก็จะทำแต่เพียงอย่างเดียว คือใช้คำถาม ว่า "มึงจะเอายังไงกับกูวะ ?" เท่านั้นแหละเมืองไทยจะราบรื่นไปหมด! ทุกคนกลัวอำนาจ นักก่อกวนและสัตว์เลี้ยงทุกชนิดในชาติจะกลัวอำนาจอย่างเดียว กลุ่มสุดท้ายคือหนังสือพิมพ์หรือสื่อต่างๆที่ต่างผูกขาดการมีอำนาจอิทธิพลในการ บ่อนทำลายใครโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่ได้ประโยชน์ใดๆแก่บ้าน เมืองแม้แต่น้อย เฉพาะหนังสือพิมพ์จะใช้การโน้มน้าวผู้อ่านด้วยการใช้ภาษาอาชญา กรทุกชนิดมาพาดหัว เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวถึง"ฉิบหายวายวอด"ให้ได้ แม้ว่าเรื่องที่พูด ถึงจะมีหลักฐานข้อเท็จจริงหรือฟังได้ไม่ได้เพียงใดหรือไม่ก็ตาม ขอแต่ให้เกิดความ มันและสามารถปลดปล่อยอารมณ์ SADISM ของตนให้ได้ก็จะทำและทำซ้ำๆซากกัน จนกว่าจะสมปรารถนากันทีเดียว มีตัวอย่างอยู่สองตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายถึงวิธีการทำลายของหนังสือพิมพ์ดัง กล่าวนี้ คือการพยายามทำลาย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีซึ่งเป็นคน หนึ่งที่มีการศึกษาดีและมีความรู้เป็นที่วางใจได้ การเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลังของเขา มีความบกพร่องเพียงสามประการเท่านั้นคือ เขาไม่ได้จบปริญญาทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งมีหนังสือที่จะต้องอ่าน ต้องศึกษากันจริงๆไม่กี่เล่ม เป็นเหตุผลแรกที่ไม่ทำให้ เขาได้รับการยอมรับ ประการต่อมาก็คือ เขาไม่ได้เป็นนายธนาคารและไม่ได้เข้า ร่วมในกลุ่มทุนทำลายชาติบ้านเมืองอย่างที่คนในกลุ่มทุนเหล่านี้จะร่วมกันทำ ประการ สุดท้ายก็คือ เขาไม่ใช่นักปั่นหุ้นและไม่รวมอยู่ในกลุ่มผู้วางแผน และบงการปั่นหุ้น ซึ่งในระบบธุรกิจทุนนิยมชั่วร้ายนี้นิยมทำกันนั่นทำให้เขากลายเป็นรัฐมนตรีที่โดด เดี่ยว และขาดพรรคขาดพวกที่ไม่สามารถจะหาเกราะป้องกันตัวเองได้ ถูกติดตาม ทำลายโจมตีในทุกรูปแบบ จนกระทั่งต้องยอมจำนนต่อระบบการเมืองของไทยไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเราเคยมีรัฐมนตรีหลายคนหลายกระทรวงที่ไม่มีความรู้ความสามารถ อะไรเลยมาบริหารบ้านเมืองก็สามารถจะอยู่ได้ คนที่สองที่เกิดปัญหามาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็คือ นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งผมไม่เคยรู้ จักและไม่เคยพบเห็นคนผู้นี้มาก่อน เขาถูกขนานนามว่าเป็นรัฐมนตรียี้ทุกวันทุกคืน เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่ไปขุดค้นคดีสปก.4-01เข้า เขาเข้าไปกระชากหน้ากาก กลุ่มเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์และความเหลวแหลกในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เขา ต้องเกิดศัตรูตัวใหญ่ในวงการธุรกิจการเงินของชาติ และที่ร้ายที่สุดเขาพยายาม ขัดขวางพรรคการเมืองบางพรรคที่พยายามแสวงหาผลประโยชน์จากการสร้างทาง ด่วนสายต่างๆที่พรรคการเมืองต้องการเขมือบสบายเป็นพันๆล้านบาทนั่น เลยเป็น บาปกรรมที่ทำให้เขาถูกทำลายโดยศัตรูเหล่านั้น โดยมีหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนที่ ทรงอำนาจในปัจจุบันรับลูกสับโขกทำลายต่อมา ในความผิดหรือความชั่วของนายเนวิน ชิดชอบที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหนังสือ พิมพ์ระดับไหนชั้นไหน ให้เหตุผลแต่เพียงว่าการทำลายทั้งหมดนั้นเป็น"กระแส" ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากระแสอะไรมาจากไหน นอกจากกระแสทำลายที่โหมกันไปกันมา ความ ผิดที่มองเห็นชัดๆ แม้แต่ขนาดจิ้งจกตุ๊กแกสักตัวหนึ่งจะไปแทะเอามาดูกันเล่นๆก็ยัง ไม่มี "ในความคิดความเห็นของผม ผมถือว่ามันไม่ยุติธรรมและไม่เป็นธรรม!" มันไม่เกี่ยวอะไรกับปัญหาของประเทศชาติประชาชนหรือปัญหาของบ้านเมืองโดยส่วนรวม และถ้าพูดถึงนักการเมืองชั่ว ก็มีอีกเต็มเมืองที่ชั่วกว่านายเนวิน ชิดชอบ หลายรัฐ บาลมาแล้วเรามีรัฐมนตรีประเภทโง่ๆและไม่เอาไหนกันมากมาย ความรู้ความเฉลียว ฉลาดที่ไม่เป็นสับประรดมากกว่านายเนวิน ชิดชอบก็มากต่อมาก จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เชื่อกันว่าเป็นพรรคการเมืองที่รวมเอาผู้วิเศษทั้งหมดมาปกครองประเทศ ยังเคยมี เรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับการหากินกับการอนุมัติโรงงานยางพาราให้กับเสี่ยตันหยงมัส ยับเยินมาจนบัดนี้กลิ่นสกปรกและความสกปรกก็ยังไม่จางไปไหน และเฉพาะอย่างยิ่ง ในการแทรกแซงราคายางในรัฐบาลนั้น ปรากฎว่าถูกต้มไป 2,000 ล้านบาท เพราะ ความโง่ของรัฐมนตรีของพรรค ถ้าพูดถึงความ "ชุ่ย,เพียบพูนด้วยเล่ห์,โง่และแสนทราม" ก็น่าจะมากกว่านายเนวิน ชิดชอบ แต่กรรมาธิการของสภาที่มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบ เรื่องนี้ ก็พากันเงียบเฉยหรือมองเห็นนักการเมืองที่รับผิดชอบเรื่องทำนองนี้เป็น วีรบุรุษไป นี่คือปัญหาของการเมืองไทยกับหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆที่เรามีกันอยู่ ในประเทศเวลานี้ ........................................................ยังมีต่อ.. ... A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 79 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:21:01 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(2) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ "การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2539 ******************************************************** ผมโตขึ้นมาในยุคหนังสิอพิมพ์และสื่อของเรายังทำน้าที่หนังสือพิมพ์กันอยู่ ไม่ว่าจะ เป็น สุภาพบุรุษประชามิตร ของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ สุสรรณภูมิ ของคุณสนิท เจริญรัฐ เสาร์รีวิว ของคุณฉอ้อน อำพล เสียงกรุงและประชาชาติหนังสือพิมพ์ เหล่านี้ในยุคนั้น จะไม่เสียเวลาเสียหน้ากระดาษไปขุดโครตเหง้าเหล่ากอใครมา พูดถึง วันหนึ่งๆเขาจะพูดกันถึงปัญหาของบ้านเมืองว่ามันมีอะไร เราจะไปกันตรง ไหน อะไรมันถูกและอะไรมันผิด โลกอื่นเมืองอื่นเขาทำกันยังไง และเขาจะไม่ ระยำตำบอนกันถึงขนาดอย่างทุกวันนี้ ซึ่งมุ่งหน้าเข้าไปทำที่ตนไม่ชอบ สบประมาท และทำลายคนอื่นอย่างไม่มีหลักฐาน กักขฬะ สามหาวโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ เขาจะสรุปทุกสิ่งทุกเรื่องเอาตามความเห็นชอบของเขา ไม่ว่ามันจะมีพื้นฐานหรือ ไม่มีพื้นฐาน ความถูกต้องทั้งหมด ในการเสนอความคิดเห็น การโน้มน้าว และชี้นำ ประชาชนจะเป็นของเขาทั้งสิ้น ท้ายที่สุดเขาจะใช้ความเป็นตัวเมียรุมขยำขยี่ใคร คนหนึ่งคนใดที่ไม่มีทางสู้อย่างนายเนวิน ชิดชอบหรือนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความผิดของดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความจริงไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เป็น ความผิดของบรรพบุรุษของเขาที่มาทำให้เขาเกิดเป็นคนไทยและไม่ได้ทำหนังสือพิมพ์ เช่นเดียวกับนายเนวิน ชิดชอบ การเข้ามาเป็นนักการเมืองของเขานั้น เป็นความ ผิดของคนบุรีรัมย์ทั้งหมดที่เลือกเขาเข้ามา ถ้าหากว่าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆถือ ว่าเป็นความผิดก็น่าจะไปลงโทษเอาที่คนบุรีรัมย์ที่เลือกเขาเข้ามา นั่นดูเหมือนว่า จะถูกต้องและยุติธรรมกว่า หรือเราอาจจะมองไปว่านายเนวิน ชิดชอบถูกเลือก มาเพราะการซื้อเสียง แต่การซื้อเสียงนั้นมีกันทุกจังหวัด จังหวัดที่ซื้อเสียงกัน หนักที่สุดเมื่อเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีอยู่สองแห่ง คือจังหวัดนครราชสีมาและ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งซื้อกันในราคาสูงมากกว่าทุกจังหวัด "ใครเป็นผู้แทนมาจากสองจังหวัดนั้น?" ทำไมผู้รักชาติและมีอิทธิพลทั้งหลายไม่ไปทำลายล้างนักการเมืองชั่วๆเหล่านั้นอย่าง ที่ทำกันอยู่กับคนอย่างนายเนวิน ชิดชอบ เพียงแต่เข้าไปฉีกหน้าพวกนักปั่นหุ้นและพวก สัมปทานผูกขาดในการกินบ้านกินเมืองในการสร้างทางด่วนไม่กี่คนเท่านั้น ? ถ้าหาก เราต้องการประณามว่านักการเมืองอย่างนายเนวิน ชิดชอบ มันชั่ว ปัญหาก็มีอยู่ว่า นักการเมืองเมืองไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้มีคนไหนที่มันชั่วน้อยที่สุดบ้าง? ถ้าหากว่าเราจะเป็นกันอยู่อย่างนี้ ผมก็อยากสงสัยว่าเราจะอยู่กันได้อย่างไร ? ทำไมความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมเราไม่ยอมใช้กันบ้าง เมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวเล็กๆข่าวหนึ่งเขียนว่า "บัณฑิต นิตยถาวร ผอ.ฝ่ายการธนา คารของแบงค์ชาติบอกว่าเวลานี้ ตลาดเงินบ้านเราอยู่ในภาวะปกติ" ก็ต้องเชื่อกัน ผอ.ยัณฑิตบอกว่า"เงินที่ออกจากตลาดหุ้นยังไม่ได้ออกนอกประเทศ ส่วนหนึ่งเปลี่ยนไป ลงทุนในตลาดเงินซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบและสร้างความผันผวน ส่วนข่าวลือในตลาดเงิน สิงคโปร์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องนั้น เกลียวทอง เหตระกูล ผอ.ฝ่ายวิชาการของแบงค์ ชาติยืนยันจากการที่แบงค์ชาติจับตามาตลอดว่าเป็นการสร้างข่าวของนักค้าเงินใน สิงคโปร์เพื่อเก็งกำไรจากความตื่นตระหนก โยงใยมาถึงนักค้าเงินไทย" (กระสุนทอง : ไทยรัฐ.12 ตุลาคม 2539) นี่เป็นข้อเท็จจริง แต่ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจของบ้านเมืองที่พยายามโหมกันเข้ามาว่าบ้านเมืองจะ "ฉิบหายวายวอด"ลงไปเพราะเศรษฐกิจไปไม่ไหว ที่พูดกันมาตลอดในสมัยรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา โดย"คนกลุ่มหนึ่ง" คือกลุ่มนักวิชาการหรือที่อ้างตัวว่าเป็น นักวิชาการ คนพวกนี้ในยามที่ไม่มีการจัดแสดงอภินิหารจากสังคมแล้ว ก็จะพากันนั่ง หุบปากเงียบ ไม่บอกไม่กล่าวและไม่แสดงความเห็นอะไร แต่พอทางสื่อต่างๆหรือ กลุ่มต่างๆจะตั้งหน้าทำลายกันแล้ว ก็จะออกมารับลูกผสมโรงทันที ที่ธรรมศาสตร์ครั้ง หนึ่งหนังสือพิมพ์พูดถึงคนพวกนี้ไว้ว่า "อาจารย์มธ.ชี้ตปท.ถอนทุนหนี "เติ้ง"ต้นตอ ทำเศรษฐกิจพัง"(มติชน : 13 กันยายน 2539) นั่นคือข่าวและวิธีการสร้าง "ความวิบัติฉิบหาย"ให้แก่บ้านเมืองของเราที่เป็นกันมา! ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับว่า "ใครเป็นพวกใคร"และ"ใครจะได้ประโยชน์เสียประโยชน์จากใคร"และที่สำคัญที่สุด "ใครจะมีอำนาจหรือมีบารมีหรือไม่?" นั่นคือเหตุผลที่จะตัดสินความถูกต้องหรือไม่ถูก ต้องในบ้านเมืองของเรา! ท่านล่ะ,ถ้าคิดจะเป็นนักการเมือง ท่านมีอำนาจและบารมีแล้วหรือยัง? ไม่มีก็รีบสร้าง มันไว้เสีย เอาแต่เพียงบารมีก็ได้ถ้าหากอำนาจไม่ได้ใช้กันแล้ว เมืองไทยมันยังเน่า และจะเน่าต่อไป อำนาจและบารมีเท่านั้นที่จะจัดการมันได้!! ...A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 83 Rec'd Date: 29 Oct 96 13:59:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: จากเชื้อชาติถึงสปก. ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ********************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผู้จัดการรายวัน วันที่ 30 ตุลาคม 39 ********************************************************** น่าสงสารพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯจริงๆ...นักกวนข่าวสายการ เมืองกล่าวนำขึ้นในที่ประชุม เล่นเอาหลายคนมองหน้าคนพูดเพราะชักสงสัยใน ความเป็นกลาง ก็เรื่องปัญหาเชื้อชาติ...เรื่องคนจีนนั่นไง นักกวนข่าวสายการเมืองเห็น ท่าไม่ดีจึงรีบขยายความ ใครที่ได้ฟังการอภิปรายคุณบรรหารในสภาฯเมื่อคราวที่แล้ว ย่อมสรุปได้อย่าง ชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจอะไรกับพี่น้องชาวจีนสักหน่อย แต่ที่ยกเรื่องนี้มาพูดเพราะเขาสงสัยเรื่องสัญชาติที่ถูกต้องของคุณบรรหารต่างหาก ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เกลียดคนจีน!!! แน่นอนว่า แม้ข้อกล่าวหาของประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้สำหรับทัศนะของผู้ชมผู้ฟัง แล้ว ส่วนใหญ่ก็สรุปตรงกันว่าฟังไม่ขึ้น มีเยี่ยงอย่างที่ไหน พอถูกถามว่าหลักฐานที่ เอามากล่าวหาคุณบรรหารนั้นเอามาจากไหน นกนางแอ่น-ชำนิดันพูดหน้าตาเฉยว่า มาจากประชาชนคนหนึ่ง คนไหนก็ไม่รู้!!! แต่ของฝ่ายรัฐบาลเขาออกจะชัดเจน โดยเฉพาะจากคุณบุญชู วังกานนท์ เรื่องนี้ประชาธิปัตย์ก็ควรรับกรรมไปว่าเป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย จะถูกฟ้อง ก็ต้องยอมแบบลูกผู้ชายชาตินกนางแอ่น แต่สำนักข่าวกวนแห่งชาติขอยืนยันว่าปนะชาธิปัตย์ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจ คนจีนแต่อย่างใด...อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ประชาธิปัตย์เขา ที่ประชุมนักกวนข่าวเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์และทำท่าว่าจะเทคะแนนสงสารให้ ประชาธิปัตย์อยู่รอมร่อ...จะมีก็แต่นักกวนข่าวอาวุโสเท่านั้นที่ทำท่าแปลกๆ ไม่แสดง อาการอะไรออกมา จนครู่หนึ่งก็เคาะไปป์ดังโป๊ก โป๊ก แล้วสวนกระแสว่า ประชาธิปัตย์ก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่เล่า!!! อย่างเรื่องปัญหา ส.ป.ก.4-01 นั่นไง พรรคการเมืองที่เขาออกมาคัดค้านเรื่องเกี่ยวกับ ส.ป.ก.ไม่มีพรรคไหนเลย ที่พูดว่า โครงการปฎิรูปที่ดิน ส.ป.ก.นี่มันเลวร้าย ทุกพรรคเขาสนับสนุนทั้งนั้น เพื่อให้เกษตรกรคนยากคนจนได้มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง ไม่มีใครคัดค้านโครงการ นี้เป็นส่วนรวมสักหน่อย!!! เขาคัดค้านกรณีเอาที่ดินไปแจกคนรวยที่เป็นพรรคพวกตัวเองต่างหาก โดยเฉพาะที่ภูเก็ต... แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ยอมเข้าใจ ทำบื้อเสียเฉยๆอย่างนั้นแหละ แทนที่จะ ยอมรับความผิดพลาดเอาไปแก้ไข แต่ออกมาพูดเรื่องนี้ทีไร... ก็กลายเป็นว่าพรรค การเมืองอื่นๆคัดค้านโครงการส.ป.ก.4-01 ไม่อยากให้คนจนได้ที่ดินเสียนี่!!! สรุปแล้วก็พอกันละวะ ไม่ว่าจะเรื่องเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเรื่องส.ป.ก.4-01 ที่ประชุมได้ยินดังนั้นจึงร้องออกมาพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายว่า... "เออ จริงของเขา สมน้ำหน้า" แล้วเลิกสงสารพรรคประชาธิปัตย์โดยพลัน ************************************************************* -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 88 Rec'd Date: 29 Oct 96 21:28:03 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ใครว่านักการเมืองแตกแยก? ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ************************************************************ จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผูจัดการรายวัน ประจำวันที่ 31 ตค.39 ************************************************************ ใครต่อใครเมื่อได้เห็นได้ยินพรรคการเมืองยุคก่อนปฎิรูปการเมืองยุคนี้เขาหาเสียงกัน แล้ว มีไม่น้อยที่ต่างก็พากันหนักใจ เพราะดูเหมือนว่า ต่างใช้วิธีการทุกรูปแบบใน การทำลายความน่าเชื่อถือซึ่งกันและกันอย่างไม่ยั้ง โดยเฉพาะเรื่องของการด่าการ ขุดคุ้ยความไม่ดีของฝ่ายตรงข้ามมาประจานกัน ขนาดเลี่ยหมากหอมที่โตจนหมาเลียตูด ไม่ถึง แถมแก่เสียจนผมหงอกหมดตัว ใครต่อใครยกให้เป็นสุภาพบุรุษ ยกให้เป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ทางการเมืองพอถึงเวลาหน้าเลือกตั้งยังเผลอแสดงธาตุแท้ออกมาอย่างเจตนา ก็คุณพิชัย พ่อคุณพิจิตตไงครับ เรียก ดร.ทักษิณว่า"ไอ้แม้ว" เรียก ร.ต.อ.เฉลิม ว่า "ไอ้เหลิม" สองคนนั้น คนหนึ่งอดีตรองนายกฯส่วนอีกคนก็รัฐมนตรีเชียวนะ แต่โดนจิก กระหม่อมเรียก "ไอ้" อย่างหน้าตาเฉย เหยียดหยามหยาบคายกันปานนั้น!!! คุณหมวย คุณปิ๊ก คุณติ๋ว คุณหน่อย...อีกไม่นานมีสิทธิ์ถูกเสี่ยแกเรียก "อี" จนได้ ไม่เชื่อคอยดู อีหมวย อีปิ๊ก อีติ๋ว อีหน่อย เฮอะ !!! จากการที่หาเสียงด้วยการทำลายล้างคู่แข่งทุกรูปแบบเช่นนี้ ล่าสุดได้นำไปสู่การตัด เป็นตัดตายกันระหว่างพรรคการเมืองสำคัญ 3 พรรค ประชาธิปัตย์ฝ่ายหนึ่ง กับความหวังใหม่ และพลังธรรมอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างก็ประกาศ ไม่เอาซึ่งกันและกันแล้ว เมื่อเรื่องมันบานปลายมาจนถึงขนาดนี้ ปรากฎว่าคนที่เป็นห่วงมากกว่าเพื่อนจนซ่า ไม่ออก ก็ได้แก่นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ผู้ไร้เดียงสา อินโนเซนต์คิกขุอินเดอะหน่อมแน้ม นั่นเอง นักกวนข่าวรุ่นเยาว์เป็นห่วงว่าในเมื่อประกาศไม่เอากันอย่างนี้ สืบไปภาย หลังเลือกตั้ง ก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาลและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายค้านอย่างแน่นอน เมื่อต่างฝ่ายต่างคุมแค้นทางการเมืองแบบนี้ จะเอาเวลาที่ไหนมาคิดทำนุบ้านเมือง ให้เจริญก้าวหน้าเยี่ยงนานาอารยประเทศสืบไป ฝ่ายรัฐบาลก็จ้องหาเรื่องฟาดฟันทำลายล้างฝ่ายค้านด้วยอำนาจรัฐที่ตัวเองถืออยู่ ส่วนฝ่ายค้านก็จ้องหาเรื่องล้มรัฐบาลเม่งร่ำไป วันละ 25 ชั่วโมง เอาแต่กัดกันเสียจนไม่มีเวลาทำมาหากิน...ว่างั้นเถอะ บ้านเมืองภายภาคหน้ามิมืดมิดวังเวงแย่หรือ...นักกวนข่าวรุ่นเยาว์สรุปอย่างท้อแท้ หึ หึ...โป๊ก โป๊ก...เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากหัวโต๊ะ ไม่ต้องห่วงหรอกหนู...หึ หึ ไม่ต้องห่วง นักการเมืองบ้านเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องห่วง เวลาบ้านเมืองเป็นปกติ เวลาไม่มีเรื่องราวคอขาดบาดตาย เขาก็หาเรื่องด่าทอ ทะเลาะเบาะแว้งกันแบบนี้แหละ แต่ไม่ต้องห่วง...เวลามีภัยมาถึง รับรองว่าพรรค การเมืองไทยจะเลิกทะเลาะแล้วผนึกกำลังกันต่อสู้ป้องกันภัยอย่างเหนียวแน่นทันที ลืมเรื่องบาดหมางในอดีตทันที ไม่ต้องห่วง อย่างเวียตนามจะบุกนะหรือ นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ถาม ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น อย่างเรื่องปฎิรูปการเมืองนั่นไง นักกวนข่าวอาวุโสปฎิเสธ พอความคิดเรื่องแยกอำนาจบริหารกับนิติบัญญัติ ไม่ให้ส.ส.เป็นรัฐมนตรีเริ่มมีคน พูดกันมากเท่านั้นแหละ ทั้งประชาธิปัตย์ ความหวังใหม่ และชาติพัฒนาต่างพากัน สามัคคี ออกอาการไม่เห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายทีเดียว... เห็นไหม สมตามคำขวัญ..."ใครทุบหม้อข้าว เราสามัคคีสู้ตาย" นั่นแล!!! *********************************************************** ... อำนาจทำให้มึนเมา หากใครสัมผัสกลิ่นอายเข้า มักลุ่มหลงและหยิ่งผยอง -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 80 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:05:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ไม่ต้องปฏิรูปแล้ว....การเมือง!!! ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ มีใครนึกแปลกใจบ้างไหมว่า ทำไมธรรมชาติถึงได้กำหนดกฎเกณฑ์ประหลาดๆให้กับ สิ่งมีชีวิตบางประเภท...นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยาเอ่ยนำขึ้นในที่ประชุม เล่น เอางงกันไปเป็นแถบว่า เหตุใดอยู่ดีๆถึงยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด อย่างหมากับแมวทำไมเจอะหน้ากันแล้วต้องมีเรื่อง กินยอดกระถินตามหอยนางรมสด แล้วทำไมถึงหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องแพ้ทางกัน... เวลาเข้าป่า หากไม่ อยากให้งูเงี้ยวเขี้ยวขอมารบกวน ท่านว่าให้พกลูกมะนาวติดตัวไว้ รับรองสัตว์ร้าย พวกนี้ไม่มาแผ้วพาน งูเห่าที่ว่าพิษสงร้ายกาจ แต่เจอะพังพอนแล้วรับรองหงอย รับ ประทานกลายเป็นงูดินไร้พิษสงไปทันที หรืออย่างงูเหลือมที่ว่าเรี่ยวแรงเยอะแยะ รัดวัวรัดควายกระดูกแตกตายคาที่นั้น หากเจอะเชือกกล้วยเท่านั้นแหละ รับรองได้ เลยว่าหมดเรี่ยวหมดแรง ตัวอ่อนปวกเปียกเลื้อยไปไหนไม่รอด ยังมีอีกแยะเรื่องลึกลับ ชวนสนเท่ห์เหล่านี้.... ร่ายยาวมาถึงตอนนี้ ก็ถูกนักกวนข่าวสายขัดคอพูดแซงขึ้นมาว่า จะเปลี่ยนงานหรือ อย่างไร จะไม่อยู่แล้วหรือ"ผู้จัดกวนรายวัน" สนใจข่าวแปลกประหลาดแบบนี้จะลาออก ไปอยู่รายการ "ตามไปดู" หรือ "ท้าพิสูจน์"...หรือว่าจะไปอยู่หนังสือพิมพ์ "มักกะลีผลรายวัน" หือ? นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยารีบปฎิเสธปากคอสั่น แล้ว สรุปทันทีว่า ทั้งหมดนี้คือคำอธิบายต่อปรากฎการณ?บางอย่างที่หอประชุมกิติขจร เมื่อ อาทิตย์ก่อนที่กองทัพบกเขาจัดให้นักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ช.ไปดีเบต กันไง... เฮอะ...เกี่ยวอะไรกับงูแพ้เชือกกล้วย...มีเสียงแทรกถาม...เกี่ยวซิครับ ...คืดพวกนักการเมืองนี้ก็เห็นๆกันอยู่ ไม่ว่าจะช.ไหน ก่อนหน้านี้หาเสียงกันอย่าง ไร มีพูดไหมเรื่องนโยบงนโยบาย มีแต่เรื่องด่ากันเสียดสีกัน ขุดโครตพ่อโครตแม่มา ด่ากัน ก็ยังมี แต่พอคืนนั้นที่ทหารเขาจัดให้ไปพูดจากันต่อหน้าพวกเขาแล้ว เป็น อย่างไร...มีไหมอาการซ่าแบบที่เคยเป็น ก็ไม่มีใช่ไหม ถามเรื่องส่งออกก็ตอบเรื่อง ส่งออก ถามเรื่องเงินเฟ้อตอบเรื่องเงินเฟ้อ ถามเรื่องปฎิรูปการเมืองก็ตอบเรื่อง ปฎิรูปการเมือง ไอ้แบบว่าจะแขวะกัน หรือหาเรื่องสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีกันมีให้ได้ ยินไหม? ดังนั้นจึงขอสรุปว่า ธรรมชาติได้สร้างสิ่งนี้มาให้เหมือนงูกลัวเชือก กล้วย...นักการเมืองกลัวทหาร...ขอยืนยัน!!! ดังนั้นเรื่องที่จะคิดค้นการปฎิรูปการ เมืองเพื่อให้นักการเมืองทั้งหลายอยู่กับร่องกับรอยน่ะ เห็นทีจะไม่ต้องเสียเวลา แล้ว...เอาว่าต่อไปในภายภาคหน้า...นักการเมืองคนไหนมีปัญหาก็ส่งไปให้ทหารเขา จัดการเสียก็แล้วกัน หรือถ้าเป็นปัญหารวมหมู่อย่างประชุม ครม.ก็เชิญมาประชุมเสีย ที่หอประชุมกิติขจรต่อหน้าทหารน้อยใหญ่แบบนี้แหละ...รับรองเรียบร้อย!!! ***************************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมพ์ผู้จักการรายวัน ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 39 ***************************************************************** -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ปณต หุ่นวัน Panot Hoonwan Date: Sun, 03 Nov 1996 23:52:20 +0700 From: Panot Hoonwan Subject: Politic อันนี้เป็นบทความของ นสพ.ที่มีผู้คัดลอกเอามาให้อ่านใน BBS ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 78 Rec'd Date: 29 Oct 96 14:26:00 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(1) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ"การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2539 ********************************************************** .......เมื่อไม่มีการยอมรับ ก็มีทางเดียว ก็คือการทำลาย นักการเมืองในปัจจุบันจะมีศัตรูอยู่ 4 จำพวก จำพวกแรกก็คือ พวกที่เสียผลประโยชน์และไม่ได้รับผลประโยชน์ที่ตนหวังจะได้ คนจำพวกนี้ในปัจจุบันเปลี่ยนมาในรูปของนักธุรกิจกลุ่มทุนนักปั่นหุ้น หรือกลุ่มสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวง การคลัง ทำเป็นหลับหูหลับตาให้พวกโกงชาวบ้านไปได้เป็นพันล้าน หมื่นล้านอย่างบีบีซีอันลือลั่น กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มผู้รับเหมาที่ต้องการเหมาทุกสิ่งที่เป็นโครงการของรัฐ กลุ่มที่เข้าเกาะผู้บริหารได้ก็กำหนดเป็นเปอร์เซ็นที่จะต้องจ่ายกันอย่างมี กฎมีเกณฑ์ตรงข้ามกับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ใช่พวกเดียวกันหรือพวกที่เข้าไป ไม่ถึงกลุ่มผู้มีอำนาจ ทั้งสองกลุ่มนี้จะห่ำหั่นและเชือดเฉือนกันทุกอย่าง แม้แต่จะต้องยกความผิด ทั้งหลายให้แก่บ้านเมืองและผู้ปกครองบ้านเมือง เพื่อแสดงให้เห็นว่าบ้าน เมืองนั้นสกปรกเลวทรามอย่างถึงที่สุดที่ไม่สามารถจะยอมให้ปกครองกัน ต่อไปได้ เพื่อที่ตนจะมีทางหาประโยชน์ได้ กลุ่มที่สามก็คือกลุ่มนักการเมืองด้วยกันได้แก่นักการเมืองฝ่ายค้านที่พากันอด อยากหิวโหยอยู่นอกคณะรัฐบาล ใครมาเป็นฝ่ายค้านทุกฝ่ายจะต้องทำลาย รัฐบาลลงให้ได้เพื่อจะหาทางเข้าไปกินเสียเอง เมืองไทยนั้นมีธรรมเนียม ว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เข้าไปกินด้วยไม่ถูกต้อง เพราะฉนั้นแต่ละคนที่ขึ้นมาบริหารบ้านเมืองหรือเป็นนายกรัฐมนตรีจะอยู่กัน ได้เพียงไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ และไม่มีที่ใครจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองใดๆ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว คนพวกนี้จะต้องให้คนอย่างจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีปัญหานี้ขึ้นก็จะทำแต่เพียงอย่างเดียว คือใช้คำถาม ว่า "มึงจะเอายังไงกับกูวะ ?" เท่านั้นแหละเมืองไทยจะราบรื่นไปหมด! ทุกคนกลัวอำนาจ นักก่อกวนและสัตว์เลี้ยงทุกชนิดในชาติจะกลัวอำนาจอย่างเดียว กลุ่มสุดท้ายคือหนังสือพิมพ์หรือสื่อต่างๆที่ต่างผูกขาดการมีอำนาจอิทธิพลในการ บ่อนทำลายใครโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่ได้ประโยชน์ใดๆแก่บ้าน เมืองแม้แต่น้อย เฉพาะหนังสือพิมพ์จะใช้การโน้มน้าวผู้อ่านด้วยการใช้ภาษาอาชญา กรทุกชนิดมาพาดหัว เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวถึง"ฉิบหายวายวอด"ให้ได้ แม้ว่าเรื่องที่พูด ถึงจะมีหลักฐานข้อเท็จจริงหรือฟังได้ไม่ได้เพียงใดหรือไม่ก็ตาม ขอแต่ให้เกิดความ มันและสามารถปลดปล่อยอารมณ์ SADISM ของตนให้ได้ก็จะทำและทำซ้ำๆซากกัน จนกว่าจะสมปรารถนากันทีเดียว มีตัวอย่างอยู่สองตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายถึงวิธีการทำลายของหนังสือพิมพ์ดัง กล่าวนี้ คือการพยายามทำลาย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีซึ่งเป็นคน หนึ่งที่มีการศึกษาดีและมีความรู้เป็นที่วางใจได้ การเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลังของเขา มีความบกพร่องเพียงสามประการเท่านั้นคือ เขาไม่ได้จบปริญญาทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งมีหนังสือที่จะต้องอ่าน ต้องศึกษากันจริงๆไม่กี่เล่ม เป็นเหตุผลแรกที่ไม่ทำให้ เขาได้รับการยอมรับ ประการต่อมาก็คือ เขาไม่ได้เป็นนายธนาคารและไม่ได้เข้า ร่วมในกลุ่มทุนทำลายชาติบ้านเมืองอย่างที่คนในกลุ่มทุนเหล่านี้จะร่วมกันทำ ประการ สุดท้ายก็คือ เขาไม่ใช่นักปั่นหุ้นและไม่รวมอยู่ในกลุ่มผู้วางแผน และบงการปั่นหุ้น ซึ่งในระบบธุรกิจทุนนิยมชั่วร้ายนี้นิยมทำกันนั่นทำให้เขากลายเป็นรัฐมนตรีที่โดด เดี่ยว และขาดพรรคขาดพวกที่ไม่สามารถจะหาเกราะป้องกันตัวเองได้ ถูกติดตาม ทำลายโจมตีในทุกรูปแบบ จนกระทั่งต้องยอมจำนนต่อระบบการเมืองของไทยไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเราเคยมีรัฐมนตรีหลายคนหลายกระทรวงที่ไม่มีความรู้ความสามารถ อะไรเลยมาบริหารบ้านเมืองก็สามารถจะอยู่ได้ คนที่สองที่เกิดปัญหามาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็คือ นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งผมไม่เคยรู้ จักและไม่เคยพบเห็นคนผู้นี้มาก่อน เขาถูกขนานนามว่าเป็นรัฐมนตรียี้ทุกวันทุกคืน เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่ไปขุดค้นคดีสปก.4-01เข้า เขาเข้าไปกระชากหน้ากาก กลุ่มเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์และความเหลวแหลกในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เขา ต้องเกิดศัตรูตัวใหญ่ในวงการธุรกิจการเงินของชาติ และที่ร้ายที่สุดเขาพยายาม ขัดขวางพรรคการเมืองบางพรรคที่พยายามแสวงหาผลประโยชน์จากการสร้างทาง ด่วนสายต่างๆที่พรรคการเมืองต้องการเขมือบสบายเป็นพันๆล้านบาทนั่น เลยเป็น บาปกรรมที่ทำให้เขาถูกทำลายโดยศัตรูเหล่านั้น โดยมีหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนที่ ทรงอำนาจในปัจจุบันรับลูกสับโขกทำลายต่อมา ในความผิดหรือความชั่วของนายเนวิน ชิดชอบที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหนังสือ พิมพ์ระดับไหนชั้นไหน ให้เหตุผลแต่เพียงว่าการทำลายทั้งหมดนั้นเป็น"กระแส" ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากระแสอะไรมาจากไหน นอกจากกระแสทำลายที่โหมกันไปกันมา ความ ผิดที่มองเห็นชัดๆ แม้แต่ขนาดจิ้งจกตุ๊กแกสักตัวหนึ่งจะไปแทะเอามาดูกันเล่นๆก็ยัง ไม่มี "ในความคิดความเห็นของผม ผมถือว่ามันไม่ยุติธรรมและไม่เป็นธรรม!" มันไม่เกี่ยวอะไรกับปัญหาของประเทศชาติประชาชนหรือปัญหาของบ้านเมืองโดยส่วนรวม และถ้าพูดถึงนักการเมืองชั่ว ก็มีอีกเต็มเมืองที่ชั่วกว่านายเนวิน ชิดชอบ หลายรัฐ บาลมาแล้วเรามีรัฐมนตรีประเภทโง่ๆและไม่เอาไหนกันมากมาย ความรู้ความเฉลียว ฉลาดที่ไม่เป็นสับประรดมากกว่านายเนวิน ชิดชอบก็มากต่อมาก จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เชื่อกันว่าเป็นพรรคการเมืองที่รวมเอาผู้วิเศษทั้งหมดมาปกครองประเทศ ยังเคยมี เรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับการหากินกับการอนุมัติโรงงานยางพาราให้กับเสี่ยตันหยงมัส ยับเยินมาจนบัดนี้กลิ่นสกปรกและความสกปรกก็ยังไม่จางไปไหน และเฉพาะอย่างยิ่ง ในการแทรกแซงราคายางในรัฐบาลนั้น ปรากฎว่าถูกต้มไป 2,000 ล้านบาท เพราะ ความโง่ของรัฐมนตรีของพรรค ถ้าพูดถึงความ "ชุ่ย,เพียบพูนด้วยเล่ห์,โง่และแสนทราม" ก็น่าจะมากกว่านายเนวิน ชิดชอบ แต่กรรมาธิการของสภาที่มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบ เรื่องนี้ ก็พากันเงียบเฉยหรือมองเห็นนักการเมืองที่รับผิดชอบเรื่องทำนองนี้เป็น วีรบุรุษไป นี่คือปัญหาของการเมืองไทยกับหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆที่เรามีกันอยู่ ในประเทศเวลานี้ ........................................................ยังมีต่อ.. ... A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 79 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:21:01 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(2) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ "การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2539 ******************************************************** ผมโตขึ้นมาในยุคหนังสิอพิมพ์และสื่อของเรายังทำน้าที่หนังสือพิมพ์กันอยู่ ไม่ว่าจะ เป็น สุภาพบุรุษประชามิตร ของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ สุสรรณภูมิ ของคุณสนิท เจริญรัฐ เสาร์รีวิว ของคุณฉอ้อน อำพล เสียงกรุงและประชาชาติหนังสือพิมพ์ เหล่านี้ในยุคนั้น จะไม่เสียเวลาเสียหน้ากระดาษไปขุดโครตเหง้าเหล่ากอใครมา พูดถึง วันหนึ่งๆเขาจะพูดกันถึงปัญหาของบ้านเมืองว่ามันมีอะไร เราจะไปกันตรง ไหน อะไรมันถูกและอะไรมันผิด โลกอื่นเมืองอื่นเขาทำกันยังไง และเขาจะไม่ ระยำตำบอนกันถึงขนาดอย่างทุกวันนี้ ซึ่งมุ่งหน้าเข้าไปทำที่ตนไม่ชอบ สบประมาท และทำลายคนอื่นอย่างไม่มีหลักฐาน กักขฬะ สามหาวโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ เขาจะสรุปทุกสิ่งทุกเรื่องเอาตามความเห็นชอบของเขา ไม่ว่ามันจะมีพื้นฐานหรือ ไม่มีพื้นฐาน ความถูกต้องทั้งหมด ในการเสนอความคิดเห็น การโน้มน้าว และชี้นำ ประชาชนจะเป็นของเขาทั้งสิ้น ท้ายที่สุดเขาจะใช้ความเป็นตัวเมียรุมขยำขยี่ใคร คนหนึ่งคนใดที่ไม่มีทางสู้อย่างนายเนวิน ชิดชอบหรือนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความผิดของดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความจริงไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เป็น ความผิดของบรรพบุรุษของเขาที่มาทำให้เขาเกิดเป็นคนไทยและไม่ได้ทำหนังสือพิมพ์ เช่นเดียวกับนายเนวิน ชิดชอบ การเข้ามาเป็นนักการเมืองของเขานั้น เป็นความ ผิดของคนบุรีรัมย์ทั้งหมดที่เลือกเขาเข้ามา ถ้าหากว่าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆถือ ว่าเป็นความผิดก็น่าจะไปลงโทษเอาที่คนบุรีรัมย์ที่เลือกเขาเข้ามา นั่นดูเหมือนว่า จะถูกต้องและยุติธรรมกว่า หรือเราอาจจะมองไปว่านายเนวิน ชิดชอบถูกเลือก มาเพราะการซื้อเสียง แต่การซื้อเสียงนั้นมีกันทุกจังหวัด จังหวัดที่ซื้อเสียงกัน หนักที่สุดเมื่อเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีอยู่สองแห่ง คือจังหวัดนครราชสีมาและ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งซื้อกันในราคาสูงมากกว่าทุกจังหวัด "ใครเป็นผู้แทนมาจากสองจังหวัดนั้น?" ทำไมผู้รักชาติและมีอิทธิพลทั้งหลายไม่ไปทำลายล้างนักการเมืองชั่วๆเหล่านั้นอย่าง ที่ทำกันอยู่กับคนอย่างนายเนวิน ชิดชอบ เพียงแต่เข้าไปฉีกหน้าพวกนักปั่นหุ้นและพวก สัมปทานผูกขาดในการกินบ้านกินเมืองในการสร้างทางด่วนไม่กี่คนเท่านั้น ? ถ้าหาก เราต้องการประณามว่านักการเมืองอย่างนายเนวิน ชิดชอบ มันชั่ว ปัญหาก็มีอยู่ว่า นักการเมืองเมืองไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้มีคนไหนที่มันชั่วน้อยที่สุดบ้าง? ถ้าหากว่าเราจะเป็นกันอยู่อย่างนี้ ผมก็อยากสงสัยว่าเราจะอยู่กันได้อย่างไร ? ทำไมความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมเราไม่ยอมใช้กันบ้าง เมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวเล็กๆข่าวหนึ่งเขียนว่า "บัณฑิต นิตยถาวร ผอ.ฝ่ายการธนา คารของแบงค์ชาติบอกว่าเวลานี้ ตลาดเงินบ้านเราอยู่ในภาวะปกติ" ก็ต้องเชื่อกัน ผอ.ยัณฑิตบอกว่า"เงินที่ออกจากตลาดหุ้นยังไม่ได้ออกนอกประเทศ ส่วนหนึ่งเปลี่ยนไป ลงทุนในตลาดเงินซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบและสร้างความผันผวน ส่วนข่าวลือในตลาดเงิน สิงคโปร์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องนั้น เกลียวทอง เหตระกูล ผอ.ฝ่ายวิชาการของแบงค์ ชาติยืนยันจากการที่แบงค์ชาติจับตามาตลอดว่าเป็นการสร้างข่าวของนักค้าเงินใน สิงคโปร์เพื่อเก็งกำไรจากความตื่นตระหนก โยงใยมาถึงนักค้าเงินไทย" (กระสุนทอง : ไทยรัฐ.12 ตุลาคม 2539) นี่เป็นข้อเท็จจริง แต่ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจของบ้านเมืองที่พยายามโหมกันเข้ามาว่าบ้านเมืองจะ "ฉิบหายวายวอด"ลงไปเพราะเศรษฐกิจไปไม่ไหว ที่พูดกันมาตลอดในสมัยรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา โดย"คนกลุ่มหนึ่ง" คือกลุ่มนักวิชาการหรือที่อ้างตัวว่าเป็น นักวิชาการ คนพวกนี้ในยามที่ไม่มีการจัดแสดงอภินิหารจากสังคมแล้ว ก็จะพากันนั่ง หุบปากเงียบ ไม่บอกไม่กล่าวและไม่แสดงความเห็นอะไร แต่พอทางสื่อต่างๆหรือ กลุ่มต่างๆจะตั้งหน้าทำลายกันแล้ว ก็จะออกมารับลูกผสมโรงทันที ที่ธรรมศาสตร์ครั้ง หนึ่งหนังสือพิมพ์พูดถึงคนพวกนี้ไว้ว่า "อาจารย์มธ.ชี้ตปท.ถอนทุนหนี "เติ้ง"ต้นตอ ทำเศรษฐกิจพัง"(มติชน : 13 กันยายน 2539) นั่นคือข่าวและวิธีการสร้าง "ความวิบัติฉิบหาย"ให้แก่บ้านเมืองของเราที่เป็นกันมา! ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับว่า "ใครเป็นพวกใคร"และ"ใครจะได้ประโยชน์เสียประโยชน์จากใคร"และที่สำคัญที่สุด "ใครจะมีอำนาจหรือมีบารมีหรือไม่?" นั่นคือเหตุผลที่จะตัดสินความถูกต้องหรือไม่ถูก ต้องในบ้านเมืองของเรา! ท่านล่ะ,ถ้าคิดจะเป็นนักการเมือง ท่านมีอำนาจและบารมีแล้วหรือยัง? ไม่มีก็รีบสร้าง มันไว้เสีย เอาแต่เพียงบารมีก็ได้ถ้าหากอำนาจไม่ได้ใช้กันแล้ว เมืองไทยมันยังเน่า และจะเน่าต่อไป อำนาจและบารมีเท่านั้นที่จะจัดการมันได้!! ...A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 83 Rec'd Date: 29 Oct 96 13:59:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: จากเชื้อชาติถึงสปก. ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ********************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผู้จัดการรายวัน วันที่ 30 ตุลาคม 39 ********************************************************** น่าสงสารพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯจริงๆ...นักกวนข่าวสายการ เมืองกล่าวนำขึ้นในที่ประชุม เล่นเอาหลายคนมองหน้าคนพูดเพราะชักสงสัยใน ความเป็นกลาง ก็เรื่องปัญหาเชื้อชาติ...เรื่องคนจีนนั่นไง นักกวนข่าวสายการเมืองเห็น ท่าไม่ดีจึงรีบขยายความ ใครที่ได้ฟังการอภิปรายคุณบรรหารในสภาฯเมื่อคราวที่แล้ว ย่อมสรุปได้อย่าง ชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจอะไรกับพี่น้องชาวจีนสักหน่อย แต่ที่ยกเรื่องนี้มาพูดเพราะเขาสงสัยเรื่องสัญชาติที่ถูกต้องของคุณบรรหารต่างหาก ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เกลียดคนจีน!!! แน่นอนว่า แม้ข้อกล่าวหาของประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้สำหรับทัศนะของผู้ชมผู้ฟัง แล้ว ส่วนใหญ่ก็สรุปตรงกันว่าฟังไม่ขึ้น มีเยี่ยงอย่างที่ไหน พอถูกถามว่าหลักฐานที่ เอามากล่าวหาคุณบรรหารนั้นเอามาจากไหน นกนางแอ่น-ชำนิดันพูดหน้าตาเฉยว่า มาจากประชาชนคนหนึ่ง คนไหนก็ไม่รู้!!! แต่ของฝ่ายรัฐบาลเขาออกจะชัดเจน โดยเฉพาะจากคุณบุญชู วังกานนท์ เรื่องนี้ประชาธิปัตย์ก็ควรรับกรรมไปว่าเป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย จะถูกฟ้อง ก็ต้องยอมแบบลูกผู้ชายชาตินกนางแอ่น แต่สำนักข่าวกวนแห่งชาติขอยืนยันว่าปนะชาธิปัตย์ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจ คนจีนแต่อย่างใด...อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ประชาธิปัตย์เขา ที่ประชุมนักกวนข่าวเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์และทำท่าว่าจะเทคะแนนสงสารให้ ประชาธิปัตย์อยู่รอมร่อ...จะมีก็แต่นักกวนข่าวอาวุโสเท่านั้นที่ทำท่าแปลกๆ ไม่แสดง อาการอะไรออกมา จนครู่หนึ่งก็เคาะไปป์ดังโป๊ก โป๊ก แล้วสวนกระแสว่า ประชาธิปัตย์ก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่เล่า!!! อย่างเรื่องปัญหา ส.ป.ก.4-01 นั่นไง พรรคการเมืองที่เขาออกมาคัดค้านเรื่องเกี่ยวกับ ส.ป.ก.ไม่มีพรรคไหนเลย ที่พูดว่า โครงการปฎิรูปที่ดิน ส.ป.ก.นี่มันเลวร้าย ทุกพรรคเขาสนับสนุนทั้งนั้น เพื่อให้เกษตรกรคนยากคนจนได้มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง ไม่มีใครคัดค้านโครงการ นี้เป็นส่วนรวมสักหน่อย!!! เขาคัดค้านกรณีเอาที่ดินไปแจกคนรวยที่เป็นพรรคพวกตัวเองต่างหาก โดยเฉพาะที่ภูเก็ต... แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ยอมเข้าใจ ทำบื้อเสียเฉยๆอย่างนั้นแหละ แทนที่จะ ยอมรับความผิดพลาดเอาไปแก้ไข แต่ออกมาพูดเรื่องนี้ทีไร... ก็กลายเป็นว่าพรรค การเมืองอื่นๆคัดค้านโครงการส.ป.ก.4-01 ไม่อยากให้คนจนได้ที่ดินเสียนี่!!! สรุปแล้วก็พอกันละวะ ไม่ว่าจะเรื่องเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเรื่องส.ป.ก.4-01 ที่ประชุมได้ยินดังนั้นจึงร้องออกมาพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายว่า... "เออ จริงของเขา สมน้ำหน้า" แล้วเลิกสงสารพรรคประชาธิปัตย์โดยพลัน ************************************************************* -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 88 Rec'd Date: 29 Oct 96 21:28:03 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ใครว่านักการเมืองแตกแยก? ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ************************************************************ จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผูจัดการรายวัน ประจำวันที่ 31 ตค.39 ************************************************************ ใครต่อใครเมื่อได้เห็นได้ยินพรรคการเมืองยุคก่อนปฎิรูปการเมืองยุคนี้เขาหาเสียงกัน แล้ว มีไม่น้อยที่ต่างก็พากันหนักใจ เพราะดูเหมือนว่า ต่างใช้วิธีการทุกรูปแบบใน การทำลายความน่าเชื่อถือซึ่งกันและกันอย่างไม่ยั้ง โดยเฉพาะเรื่องของการด่าการ ขุดคุ้ยความไม่ดีของฝ่ายตรงข้ามมาประจานกัน ขนาดเลี่ยหมากหอมที่โตจนหมาเลียตูด ไม่ถึง แถมแก่เสียจนผมหงอกหมดตัว ใครต่อใครยกให้เป็นสุภาพบุรุษ ยกให้เป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ทางการเมืองพอถึงเวลาหน้าเลือกตั้งยังเผลอแสดงธาตุแท้ออกมาอย่างเจตนา ก็คุณพิชัย พ่อคุณพิจิตตไงครับ เรียก ดร.ทักษิณว่า"ไอ้แม้ว" เรียก ร.ต.อ.เฉลิม ว่า "ไอ้เหลิม" สองคนนั้น คนหนึ่งอดีตรองนายกฯส่วนอีกคนก็รัฐมนตรีเชียวนะ แต่โดนจิก กระหม่อมเรียก "ไอ้" อย่างหน้าตาเฉย เหยียดหยามหยาบคายกันปานนั้น!!! คุณหมวย คุณปิ๊ก คุณติ๋ว คุณหน่อย...อีกไม่นานมีสิทธิ์ถูกเสี่ยแกเรียก "อี" จนได้ ไม่เชื่อคอยดู อีหมวย อีปิ๊ก อีติ๋ว อีหน่อย เฮอะ !!! จากการที่หาเสียงด้วยการทำลายล้างคู่แข่งทุกรูปแบบเช่นนี้ ล่าสุดได้นำไปสู่การตัด เป็นตัดตายกันระหว่างพรรคการเมืองสำคัญ 3 พรรค ประชาธิปัตย์ฝ่ายหนึ่ง กับความหวังใหม่ และพลังธรรมอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างก็ประกาศ ไม่เอาซึ่งกันและกันแล้ว เมื่อเรื่องมันบานปลายมาจนถึงขนาดนี้ ปรากฎว่าคนที่เป็นห่วงมากกว่าเพื่อนจนซ่า ไม่ออก ก็ได้แก่นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ผู้ไร้เดียงสา อินโนเซนต์คิกขุอินเดอะหน่อมแน้ม นั่นเอง นักกวนข่าวรุ่นเยาว์เป็นห่วงว่าในเมื่อประกาศไม่เอากันอย่างนี้ สืบไปภาย หลังเลือกตั้ง ก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาลและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายค้านอย่างแน่นอน เมื่อต่างฝ่ายต่างคุมแค้นทางการเมืองแบบนี้ จะเอาเวลาที่ไหนมาคิดทำนุบ้านเมือง ให้เจริญก้าวหน้าเยี่ยงนานาอารยประเทศสืบไป ฝ่ายรัฐบาลก็จ้องหาเรื่องฟาดฟันทำลายล้างฝ่ายค้านด้วยอำนาจรัฐที่ตัวเองถืออยู่ ส่วนฝ่ายค้านก็จ้องหาเรื่องล้มรัฐบาลเม่งร่ำไป วันละ 25 ชั่วโมง เอาแต่กัดกันเสียจนไม่มีเวลาทำมาหากิน...ว่างั้นเถอะ บ้านเมืองภายภาคหน้ามิมืดมิดวังเวงแย่หรือ...นักกวนข่าวรุ่นเยาว์สรุปอย่างท้อแท้ หึ หึ...โป๊ก โป๊ก...เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากหัวโต๊ะ ไม่ต้องห่วงหรอกหนู...หึ หึ ไม่ต้องห่วง นักการเมืองบ้านเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องห่วง เวลาบ้านเมืองเป็นปกติ เวลาไม่มีเรื่องราวคอขาดบาดตาย เขาก็หาเรื่องด่าทอ ทะเลาะเบาะแว้งกันแบบนี้แหละ แต่ไม่ต้องห่วง...เวลามีภัยมาถึง รับรองว่าพรรค การเมืองไทยจะเลิกทะเลาะแล้วผนึกกำลังกันต่อสู้ป้องกันภัยอย่างเหนียวแน่นทันที ลืมเรื่องบาดหมางในอดีตทันที ไม่ต้องห่วง อย่างเวียตนามจะบุกนะหรือ นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ถาม ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น อย่างเรื่องปฎิรูปการเมืองนั่นไง นักกวนข่าวอาวุโสปฎิเสธ พอความคิดเรื่องแยกอำนาจบริหารกับนิติบัญญัติ ไม่ให้ส.ส.เป็นรัฐมนตรีเริ่มมีคน พูดกันมากเท่านั้นแหละ ทั้งประชาธิปัตย์ ความหวังใหม่ และชาติพัฒนาต่างพากัน สามัคคี ออกอาการไม่เห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายทีเดียว... เห็นไหม สมตามคำขวัญ..."ใครทุบหม้อข้าว เราสามัคคีสู้ตาย" นั่นแล!!! *********************************************************** ... อำนาจทำให้มึนเมา หากใครสัมผัสกลิ่นอายเข้า มักลุ่มหลงและหยิ่งผยอง -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 80 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:05:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ไม่ต้องปฏิรูปแล้ว....การเมือง!!! ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ มีใครนึกแปลกใจบ้างไหมว่า ทำไมธรรมชาติถึงได้กำหนดกฎเกณฑ์ประหลาดๆให้กับ สิ่งมีชีวิตบางประเภท...นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยาเอ่ยนำขึ้นในที่ประชุม เล่น เอางงกันไปเป็นแถบว่า เหตุใดอยู่ดีๆถึงยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด อย่างหมากับแมวทำไมเจอะหน้ากันแล้วต้องมีเรื่อง กินยอดกระถินตามหอยนางรมสด แล้วทำไมถึงหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องแพ้ทางกัน... เวลาเข้าป่า หากไม่ อยากให้งูเงี้ยวเขี้ยวขอมารบกวน ท่านว่าให้พกลูกมะนาวติดตัวไว้ รับรองสัตว์ร้าย พวกนี้ไม่มาแผ้วพาน งูเห่าที่ว่าพิษสงร้ายกาจ แต่เจอะพังพอนแล้วรับรองหงอย รับ ประทานกลายเป็นงูดินไร้พิษสงไปทันที หรืออย่างงูเหลือมที่ว่าเรี่ยวแรงเยอะแยะ รัดวัวรัดควายกระดูกแตกตายคาที่นั้น หากเจอะเชือกกล้วยเท่านั้นแหละ รับรองได้ เลยว่าหมดเรี่ยวหมดแรง ตัวอ่อนปวกเปียกเลื้อยไปไหนไม่รอด ยังมีอีกแยะเรื่องลึกลับ ชวนสนเท่ห์เหล่านี้.... ร่ายยาวมาถึงตอนนี้ ก็ถูกนักกวนข่าวสายขัดคอพูดแซงขึ้นมาว่า จะเปลี่ยนงานหรือ อย่างไร จะไม่อยู่แล้วหรือ"ผู้จัดกวนรายวัน" สนใจข่าวแปลกประหลาดแบบนี้จะลาออก ไปอยู่รายการ "ตามไปดู" หรือ "ท้าพิสูจน์"...หรือว่าจะไปอยู่หนังสือพิมพ์ "มักกะลีผลรายวัน" หือ? นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยารีบปฎิเสธปากคอสั่น แล้ว สรุปทันทีว่า ทั้งหมดนี้คือคำอธิบายต่อปรากฎการณ?บางอย่างที่หอประชุมกิติขจร เมื่อ อาทิตย์ก่อนที่กองทัพบกเขาจัดให้นักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ช.ไปดีเบต กันไง... เฮอะ...เกี่ยวอะไรกับงูแพ้เชือกกล้วย...มีเสียงแทรกถาม...เกี่ยวซิครับ ...คืดพวกนักการเมืองนี้ก็เห็นๆกันอยู่ ไม่ว่าจะช.ไหน ก่อนหน้านี้หาเสียงกันอย่าง ไร มีพูดไหมเรื่องนโยบงนโยบาย มีแต่เรื่องด่ากันเสียดสีกัน ขุดโครตพ่อโครตแม่มา ด่ากัน ก็ยังมี แต่พอคืนนั้นที่ทหารเขาจัดให้ไปพูดจากันต่อหน้าพวกเขาแล้ว เป็น อย่างไร...มีไหมอาการซ่าแบบที่เคยเป็น ก็ไม่มีใช่ไหม ถามเรื่องส่งออกก็ตอบเรื่อง ส่งออก ถามเรื่องเงินเฟ้อตอบเรื่องเงินเฟ้อ ถามเรื่องปฎิรูปการเมืองก็ตอบเรื่อง ปฎิรูปการเมือง ไอ้แบบว่าจะแขวะกัน หรือหาเรื่องสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีกันมีให้ได้ ยินไหม? ดังนั้นจึงขอสรุปว่า ธรรมชาติได้สร้างสิ่งนี้มาให้เหมือนงูกลัวเชือก กล้วย...นักการเมืองกลัวทหาร...ขอยืนยัน!!! ดังนั้นเรื่องที่จะคิดค้นการปฎิรูปการ เมืองเพื่อให้นักการเมืองทั้งหลายอยู่กับร่องกับรอยน่ะ เห็นทีจะไม่ต้องเสียเวลา แล้ว...เอาว่าต่อไปในภายภาคหน้า...นักการเมืองคนไหนมีปัญหาก็ส่งไปให้ทหารเขา จัดการเสียก็แล้วกัน หรือถ้าเป็นปัญหารวมหมู่อย่างประชุม ครม.ก็เชิญมาประชุมเสีย ที่หอประชุมกิติขจรต่อหน้าทหารน้อยใหญ่แบบนี้แหละ...รับรองเรียบร้อย!!! ***************************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมพ์ผู้จักการรายวัน ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 39 ***************************************************************** -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ปณต หุ่นวัน Panot Hoonwan Date: Sun, 03 Nov 1996 23:52:20 +0700 From: Panot Hoonwan Subject: Politic อันนี้เป็นบทความของ นสพ.ที่มีผู้คัดลอกเอามาให้อ่านใน BBS ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 78 Rec'd Date: 29 Oct 96 14:26:00 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(1) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ"การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2539 ********************************************************** .......เมื่อไม่มีการยอมรับ ก็มีทางเดียว ก็คือการทำลาย นักการเมืองในปัจจุบันจะมีศัตรูอยู่ 4 จำพวก จำพวกแรกก็คือ พวกที่เสียผลประโยชน์และไม่ได้รับผลประโยชน์ที่ตนหวังจะได้ คนจำพวกนี้ในปัจจุบันเปลี่ยนมาในรูปของนักธุรกิจกลุ่มทุนนักปั่นหุ้น หรือกลุ่มสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวง การคลัง ทำเป็นหลับหูหลับตาให้พวกโกงชาวบ้านไปได้เป็นพันล้าน หมื่นล้านอย่างบีบีซีอันลือลั่น กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มผู้รับเหมาที่ต้องการเหมาทุกสิ่งที่เป็นโครงการของรัฐ กลุ่มที่เข้าเกาะผู้บริหารได้ก็กำหนดเป็นเปอร์เซ็นที่จะต้องจ่ายกันอย่างมี กฎมีเกณฑ์ตรงข้ามกับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ใช่พวกเดียวกันหรือพวกที่เข้าไป ไม่ถึงกลุ่มผู้มีอำนาจ ทั้งสองกลุ่มนี้จะห่ำหั่นและเชือดเฉือนกันทุกอย่าง แม้แต่จะต้องยกความผิด ทั้งหลายให้แก่บ้านเมืองและผู้ปกครองบ้านเมือง เพื่อแสดงให้เห็นว่าบ้าน เมืองนั้นสกปรกเลวทรามอย่างถึงที่สุดที่ไม่สามารถจะยอมให้ปกครองกัน ต่อไปได้ เพื่อที่ตนจะมีทางหาประโยชน์ได้ กลุ่มที่สามก็คือกลุ่มนักการเมืองด้วยกันได้แก่นักการเมืองฝ่ายค้านที่พากันอด อยากหิวโหยอยู่นอกคณะรัฐบาล ใครมาเป็นฝ่ายค้านทุกฝ่ายจะต้องทำลาย รัฐบาลลงให้ได้เพื่อจะหาทางเข้าไปกินเสียเอง เมืองไทยนั้นมีธรรมเนียม ว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เข้าไปกินด้วยไม่ถูกต้อง เพราะฉนั้นแต่ละคนที่ขึ้นมาบริหารบ้านเมืองหรือเป็นนายกรัฐมนตรีจะอยู่กัน ได้เพียงไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ และไม่มีที่ใครจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองใดๆ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว คนพวกนี้จะต้องให้คนอย่างจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีปัญหานี้ขึ้นก็จะทำแต่เพียงอย่างเดียว คือใช้คำถาม ว่า "มึงจะเอายังไงกับกูวะ ?" เท่านั้นแหละเมืองไทยจะราบรื่นไปหมด! ทุกคนกลัวอำนาจ นักก่อกวนและสัตว์เลี้ยงทุกชนิดในชาติจะกลัวอำนาจอย่างเดียว กลุ่มสุดท้ายคือหนังสือพิมพ์หรือสื่อต่างๆที่ต่างผูกขาดการมีอำนาจอิทธิพลในการ บ่อนทำลายใครโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่ได้ประโยชน์ใดๆแก่บ้าน เมืองแม้แต่น้อย เฉพาะหนังสือพิมพ์จะใช้การโน้มน้าวผู้อ่านด้วยการใช้ภาษาอาชญา กรทุกชนิดมาพาดหัว เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวถึง"ฉิบหายวายวอด"ให้ได้ แม้ว่าเรื่องที่พูด ถึงจะมีหลักฐานข้อเท็จจริงหรือฟังได้ไม่ได้เพียงใดหรือไม่ก็ตาม ขอแต่ให้เกิดความ มันและสามารถปลดปล่อยอารมณ์ SADISM ของตนให้ได้ก็จะทำและทำซ้ำๆซากกัน จนกว่าจะสมปรารถนากันทีเดียว มีตัวอย่างอยู่สองตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายถึงวิธีการทำลายของหนังสือพิมพ์ดัง กล่าวนี้ คือการพยายามทำลาย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีซึ่งเป็นคน หนึ่งที่มีการศึกษาดีและมีความรู้เป็นที่วางใจได้ การเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลังของเขา มีความบกพร่องเพียงสามประการเท่านั้นคือ เขาไม่ได้จบปริญญาทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งมีหนังสือที่จะต้องอ่าน ต้องศึกษากันจริงๆไม่กี่เล่ม เป็นเหตุผลแรกที่ไม่ทำให้ เขาได้รับการยอมรับ ประการต่อมาก็คือ เขาไม่ได้เป็นนายธนาคารและไม่ได้เข้า ร่วมในกลุ่มทุนทำลายชาติบ้านเมืองอย่างที่คนในกลุ่มทุนเหล่านี้จะร่วมกันทำ ประการ สุดท้ายก็คือ เขาไม่ใช่นักปั่นหุ้นและไม่รวมอยู่ในกลุ่มผู้วางแผน และบงการปั่นหุ้น ซึ่งในระบบธุรกิจทุนนิยมชั่วร้ายนี้นิยมทำกันนั่นทำให้เขากลายเป็นรัฐมนตรีที่โดด เดี่ยว และขาดพรรคขาดพวกที่ไม่สามารถจะหาเกราะป้องกันตัวเองได้ ถูกติดตาม ทำลายโจมตีในทุกรูปแบบ จนกระทั่งต้องยอมจำนนต่อระบบการเมืองของไทยไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเราเคยมีรัฐมนตรีหลายคนหลายกระทรวงที่ไม่มีความรู้ความสามารถ อะไรเลยมาบริหารบ้านเมืองก็สามารถจะอยู่ได้ คนที่สองที่เกิดปัญหามาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็คือ นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งผมไม่เคยรู้ จักและไม่เคยพบเห็นคนผู้นี้มาก่อน เขาถูกขนานนามว่าเป็นรัฐมนตรียี้ทุกวันทุกคืน เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่ไปขุดค้นคดีสปก.4-01เข้า เขาเข้าไปกระชากหน้ากาก กลุ่มเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์และความเหลวแหลกในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เขา ต้องเกิดศัตรูตัวใหญ่ในวงการธุรกิจการเงินของชาติ และที่ร้ายที่สุดเขาพยายาม ขัดขวางพรรคการเมืองบางพรรคที่พยายามแสวงหาผลประโยชน์จากการสร้างทาง ด่วนสายต่างๆที่พรรคการเมืองต้องการเขมือบสบายเป็นพันๆล้านบาทนั่น เลยเป็น บาปกรรมที่ทำให้เขาถูกทำลายโดยศัตรูเหล่านั้น โดยมีหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนที่ ทรงอำนาจในปัจจุบันรับลูกสับโขกทำลายต่อมา ในความผิดหรือความชั่วของนายเนวิน ชิดชอบที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหนังสือ พิมพ์ระดับไหนชั้นไหน ให้เหตุผลแต่เพียงว่าการทำลายทั้งหมดนั้นเป็น"กระแส" ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากระแสอะไรมาจากไหน นอกจากกระแสทำลายที่โหมกันไปกันมา ความ ผิดที่มองเห็นชัดๆ แม้แต่ขนาดจิ้งจกตุ๊กแกสักตัวหนึ่งจะไปแทะเอามาดูกันเล่นๆก็ยัง ไม่มี "ในความคิดความเห็นของผม ผมถือว่ามันไม่ยุติธรรมและไม่เป็นธรรม!" มันไม่เกี่ยวอะไรกับปัญหาของประเทศชาติประชาชนหรือปัญหาของบ้านเมืองโดยส่วนรวม และถ้าพูดถึงนักการเมืองชั่ว ก็มีอีกเต็มเมืองที่ชั่วกว่านายเนวิน ชิดชอบ หลายรัฐ บาลมาแล้วเรามีรัฐมนตรีประเภทโง่ๆและไม่เอาไหนกันมากมาย ความรู้ความเฉลียว ฉลาดที่ไม่เป็นสับประรดมากกว่านายเนวิน ชิดชอบก็มากต่อมาก จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เชื่อกันว่าเป็นพรรคการเมืองที่รวมเอาผู้วิเศษทั้งหมดมาปกครองประเทศ ยังเคยมี เรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับการหากินกับการอนุมัติโรงงานยางพาราให้กับเสี่ยตันหยงมัส ยับเยินมาจนบัดนี้กลิ่นสกปรกและความสกปรกก็ยังไม่จางไปไหน และเฉพาะอย่างยิ่ง ในการแทรกแซงราคายางในรัฐบาลนั้น ปรากฎว่าถูกต้มไป 2,000 ล้านบาท เพราะ ความโง่ของรัฐมนตรีของพรรค ถ้าพูดถึงความ "ชุ่ย,เพียบพูนด้วยเล่ห์,โง่และแสนทราม" ก็น่าจะมากกว่านายเนวิน ชิดชอบ แต่กรรมาธิการของสภาที่มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบ เรื่องนี้ ก็พากันเงียบเฉยหรือมองเห็นนักการเมืองที่รับผิดชอบเรื่องทำนองนี้เป็น วีรบุรุษไป นี่คือปัญหาของการเมืองไทยกับหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆที่เรามีกันอยู่ ในประเทศเวลานี้ ........................................................ยังมีต่อ.. ... A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 79 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:21:01 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: การเมืองกับอำนาจและบารมี(2) ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ จากส่วนหนึ่งของบทความ "การเมืองกับอำนาจและบารมี" โดย ยอดธง ทับทิวไม้ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2539 ******************************************************** ผมโตขึ้นมาในยุคหนังสิอพิมพ์และสื่อของเรายังทำน้าที่หนังสือพิมพ์กันอยู่ ไม่ว่าจะ เป็น สุภาพบุรุษประชามิตร ของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ สุสรรณภูมิ ของคุณสนิท เจริญรัฐ เสาร์รีวิว ของคุณฉอ้อน อำพล เสียงกรุงและประชาชาติหนังสือพิมพ์ เหล่านี้ในยุคนั้น จะไม่เสียเวลาเสียหน้ากระดาษไปขุดโครตเหง้าเหล่ากอใครมา พูดถึง วันหนึ่งๆเขาจะพูดกันถึงปัญหาของบ้านเมืองว่ามันมีอะไร เราจะไปกันตรง ไหน อะไรมันถูกและอะไรมันผิด โลกอื่นเมืองอื่นเขาทำกันยังไง และเขาจะไม่ ระยำตำบอนกันถึงขนาดอย่างทุกวันนี้ ซึ่งมุ่งหน้าเข้าไปทำที่ตนไม่ชอบ สบประมาท และทำลายคนอื่นอย่างไม่มีหลักฐาน กักขฬะ สามหาวโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ เขาจะสรุปทุกสิ่งทุกเรื่องเอาตามความเห็นชอบของเขา ไม่ว่ามันจะมีพื้นฐานหรือ ไม่มีพื้นฐาน ความถูกต้องทั้งหมด ในการเสนอความคิดเห็น การโน้มน้าว และชี้นำ ประชาชนจะเป็นของเขาทั้งสิ้น ท้ายที่สุดเขาจะใช้ความเป็นตัวเมียรุมขยำขยี่ใคร คนหนึ่งคนใดที่ไม่มีทางสู้อย่างนายเนวิน ชิดชอบหรือนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความผิดของดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ความจริงไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เป็น ความผิดของบรรพบุรุษของเขาที่มาทำให้เขาเกิดเป็นคนไทยและไม่ได้ทำหนังสือพิมพ์ เช่นเดียวกับนายเนวิน ชิดชอบ การเข้ามาเป็นนักการเมืองของเขานั้น เป็นความ ผิดของคนบุรีรัมย์ทั้งหมดที่เลือกเขาเข้ามา ถ้าหากว่าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆถือ ว่าเป็นความผิดก็น่าจะไปลงโทษเอาที่คนบุรีรัมย์ที่เลือกเขาเข้ามา นั่นดูเหมือนว่า จะถูกต้องและยุติธรรมกว่า หรือเราอาจจะมองไปว่านายเนวิน ชิดชอบถูกเลือก มาเพราะการซื้อเสียง แต่การซื้อเสียงนั้นมีกันทุกจังหวัด จังหวัดที่ซื้อเสียงกัน หนักที่สุดเมื่อเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีอยู่สองแห่ง คือจังหวัดนครราชสีมาและ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งซื้อกันในราคาสูงมากกว่าทุกจังหวัด "ใครเป็นผู้แทนมาจากสองจังหวัดนั้น?" ทำไมผู้รักชาติและมีอิทธิพลทั้งหลายไม่ไปทำลายล้างนักการเมืองชั่วๆเหล่านั้นอย่าง ที่ทำกันอยู่กับคนอย่างนายเนวิน ชิดชอบ เพียงแต่เข้าไปฉีกหน้าพวกนักปั่นหุ้นและพวก สัมปทานผูกขาดในการกินบ้านกินเมืองในการสร้างทางด่วนไม่กี่คนเท่านั้น ? ถ้าหาก เราต้องการประณามว่านักการเมืองอย่างนายเนวิน ชิดชอบ มันชั่ว ปัญหาก็มีอยู่ว่า นักการเมืองเมืองไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้มีคนไหนที่มันชั่วน้อยที่สุดบ้าง? ถ้าหากว่าเราจะเป็นกันอยู่อย่างนี้ ผมก็อยากสงสัยว่าเราจะอยู่กันได้อย่างไร ? ทำไมความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมเราไม่ยอมใช้กันบ้าง เมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวเล็กๆข่าวหนึ่งเขียนว่า "บัณฑิต นิตยถาวร ผอ.ฝ่ายการธนา คารของแบงค์ชาติบอกว่าเวลานี้ ตลาดเงินบ้านเราอยู่ในภาวะปกติ" ก็ต้องเชื่อกัน ผอ.ยัณฑิตบอกว่า"เงินที่ออกจากตลาดหุ้นยังไม่ได้ออกนอกประเทศ ส่วนหนึ่งเปลี่ยนไป ลงทุนในตลาดเงินซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบและสร้างความผันผวน ส่วนข่าวลือในตลาดเงิน สิงคโปร์ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องนั้น เกลียวทอง เหตระกูล ผอ.ฝ่ายวิชาการของแบงค์ ชาติยืนยันจากการที่แบงค์ชาติจับตามาตลอดว่าเป็นการสร้างข่าวของนักค้าเงินใน สิงคโปร์เพื่อเก็งกำไรจากความตื่นตระหนก โยงใยมาถึงนักค้าเงินไทย" (กระสุนทอง : ไทยรัฐ.12 ตุลาคม 2539) นี่เป็นข้อเท็จจริง แต่ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจของบ้านเมืองที่พยายามโหมกันเข้ามาว่าบ้านเมืองจะ "ฉิบหายวายวอด"ลงไปเพราะเศรษฐกิจไปไม่ไหว ที่พูดกันมาตลอดในสมัยรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา โดย"คนกลุ่มหนึ่ง" คือกลุ่มนักวิชาการหรือที่อ้างตัวว่าเป็น นักวิชาการ คนพวกนี้ในยามที่ไม่มีการจัดแสดงอภินิหารจากสังคมแล้ว ก็จะพากันนั่ง หุบปากเงียบ ไม่บอกไม่กล่าวและไม่แสดงความเห็นอะไร แต่พอทางสื่อต่างๆหรือ กลุ่มต่างๆจะตั้งหน้าทำลายกันแล้ว ก็จะออกมารับลูกผสมโรงทันที ที่ธรรมศาสตร์ครั้ง หนึ่งหนังสือพิมพ์พูดถึงคนพวกนี้ไว้ว่า "อาจารย์มธ.ชี้ตปท.ถอนทุนหนี "เติ้ง"ต้นตอ ทำเศรษฐกิจพัง"(มติชน : 13 กันยายน 2539) นั่นคือข่าวและวิธีการสร้าง "ความวิบัติฉิบหาย"ให้แก่บ้านเมืองของเราที่เป็นกันมา! ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับว่า "ใครเป็นพวกใคร"และ"ใครจะได้ประโยชน์เสียประโยชน์จากใคร"และที่สำคัญที่สุด "ใครจะมีอำนาจหรือมีบารมีหรือไม่?" นั่นคือเหตุผลที่จะตัดสินความถูกต้องหรือไม่ถูก ต้องในบ้านเมืองของเรา! ท่านล่ะ,ถ้าคิดจะเป็นนักการเมือง ท่านมีอำนาจและบารมีแล้วหรือยัง? ไม่มีก็รีบสร้าง มันไว้เสีย เอาแต่เพียงบารมีก็ได้ถ้าหากอำนาจไม่ได้ใช้กันแล้ว เมืองไทยมันยังเน่า และจะเน่าต่อไป อำนาจและบารมีเท่านั้นที่จะจัดการมันได้!! ...A FRIEND IN POWER IS A FRIEND LOST -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 83 Rec'd Date: 29 Oct 96 13:59:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: จากเชื้อชาติถึงสปก. ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ********************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผู้จัดการรายวัน วันที่ 30 ตุลาคม 39 ********************************************************** น่าสงสารพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯจริงๆ...นักกวนข่าวสายการ เมืองกล่าวนำขึ้นในที่ประชุม เล่นเอาหลายคนมองหน้าคนพูดเพราะชักสงสัยใน ความเป็นกลาง ก็เรื่องปัญหาเชื้อชาติ...เรื่องคนจีนนั่นไง นักกวนข่าวสายการเมืองเห็น ท่าไม่ดีจึงรีบขยายความ ใครที่ได้ฟังการอภิปรายคุณบรรหารในสภาฯเมื่อคราวที่แล้ว ย่อมสรุปได้อย่าง ชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจอะไรกับพี่น้องชาวจีนสักหน่อย แต่ที่ยกเรื่องนี้มาพูดเพราะเขาสงสัยเรื่องสัญชาติที่ถูกต้องของคุณบรรหารต่างหาก ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เกลียดคนจีน!!! แน่นอนว่า แม้ข้อกล่าวหาของประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้สำหรับทัศนะของผู้ชมผู้ฟัง แล้ว ส่วนใหญ่ก็สรุปตรงกันว่าฟังไม่ขึ้น มีเยี่ยงอย่างที่ไหน พอถูกถามว่าหลักฐานที่ เอามากล่าวหาคุณบรรหารนั้นเอามาจากไหน นกนางแอ่น-ชำนิดันพูดหน้าตาเฉยว่า มาจากประชาชนคนหนึ่ง คนไหนก็ไม่รู้!!! แต่ของฝ่ายรัฐบาลเขาออกจะชัดเจน โดยเฉพาะจากคุณบุญชู วังกานนท์ เรื่องนี้ประชาธิปัตย์ก็ควรรับกรรมไปว่าเป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย จะถูกฟ้อง ก็ต้องยอมแบบลูกผู้ชายชาตินกนางแอ่น แต่สำนักข่าวกวนแห่งชาติขอยืนยันว่าปนะชาธิปัตย์ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจ คนจีนแต่อย่างใด...อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ประชาธิปัตย์เขา ที่ประชุมนักกวนข่าวเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์และทำท่าว่าจะเทคะแนนสงสารให้ ประชาธิปัตย์อยู่รอมร่อ...จะมีก็แต่นักกวนข่าวอาวุโสเท่านั้นที่ทำท่าแปลกๆ ไม่แสดง อาการอะไรออกมา จนครู่หนึ่งก็เคาะไปป์ดังโป๊ก โป๊ก แล้วสวนกระแสว่า ประชาธิปัตย์ก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่เล่า!!! อย่างเรื่องปัญหา ส.ป.ก.4-01 นั่นไง พรรคการเมืองที่เขาออกมาคัดค้านเรื่องเกี่ยวกับ ส.ป.ก.ไม่มีพรรคไหนเลย ที่พูดว่า โครงการปฎิรูปที่ดิน ส.ป.ก.นี่มันเลวร้าย ทุกพรรคเขาสนับสนุนทั้งนั้น เพื่อให้เกษตรกรคนยากคนจนได้มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง ไม่มีใครคัดค้านโครงการ นี้เป็นส่วนรวมสักหน่อย!!! เขาคัดค้านกรณีเอาที่ดินไปแจกคนรวยที่เป็นพรรคพวกตัวเองต่างหาก โดยเฉพาะที่ภูเก็ต... แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ยอมเข้าใจ ทำบื้อเสียเฉยๆอย่างนั้นแหละ แทนที่จะ ยอมรับความผิดพลาดเอาไปแก้ไข แต่ออกมาพูดเรื่องนี้ทีไร... ก็กลายเป็นว่าพรรค การเมืองอื่นๆคัดค้านโครงการส.ป.ก.4-01 ไม่อยากให้คนจนได้ที่ดินเสียนี่!!! สรุปแล้วก็พอกันละวะ ไม่ว่าจะเรื่องเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเรื่องส.ป.ก.4-01 ที่ประชุมได้ยินดังนั้นจึงร้องออกมาพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายว่า... "เออ จริงของเขา สมน้ำหน้า" แล้วเลิกสงสารพรรคประชาธิปัตย์โดยพลัน ************************************************************* -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 88 Rec'd Date: 29 Oct 96 21:28:03 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ใครว่านักการเมืองแตกแยก? ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ ************************************************************ จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมม์ผูจัดการรายวัน ประจำวันที่ 31 ตค.39 ************************************************************ ใครต่อใครเมื่อได้เห็นได้ยินพรรคการเมืองยุคก่อนปฎิรูปการเมืองยุคนี้เขาหาเสียงกัน แล้ว มีไม่น้อยที่ต่างก็พากันหนักใจ เพราะดูเหมือนว่า ต่างใช้วิธีการทุกรูปแบบใน การทำลายความน่าเชื่อถือซึ่งกันและกันอย่างไม่ยั้ง โดยเฉพาะเรื่องของการด่าการ ขุดคุ้ยความไม่ดีของฝ่ายตรงข้ามมาประจานกัน ขนาดเลี่ยหมากหอมที่โตจนหมาเลียตูด ไม่ถึง แถมแก่เสียจนผมหงอกหมดตัว ใครต่อใครยกให้เป็นสุภาพบุรุษ ยกให้เป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ทางการเมืองพอถึงเวลาหน้าเลือกตั้งยังเผลอแสดงธาตุแท้ออกมาอย่างเจตนา ก็คุณพิชัย พ่อคุณพิจิตตไงครับ เรียก ดร.ทักษิณว่า"ไอ้แม้ว" เรียก ร.ต.อ.เฉลิม ว่า "ไอ้เหลิม" สองคนนั้น คนหนึ่งอดีตรองนายกฯส่วนอีกคนก็รัฐมนตรีเชียวนะ แต่โดนจิก กระหม่อมเรียก "ไอ้" อย่างหน้าตาเฉย เหยียดหยามหยาบคายกันปานนั้น!!! คุณหมวย คุณปิ๊ก คุณติ๋ว คุณหน่อย...อีกไม่นานมีสิทธิ์ถูกเสี่ยแกเรียก "อี" จนได้ ไม่เชื่อคอยดู อีหมวย อีปิ๊ก อีติ๋ว อีหน่อย เฮอะ !!! จากการที่หาเสียงด้วยการทำลายล้างคู่แข่งทุกรูปแบบเช่นนี้ ล่าสุดได้นำไปสู่การตัด เป็นตัดตายกันระหว่างพรรคการเมืองสำคัญ 3 พรรค ประชาธิปัตย์ฝ่ายหนึ่ง กับความหวังใหม่ และพลังธรรมอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างก็ประกาศ ไม่เอาซึ่งกันและกันแล้ว เมื่อเรื่องมันบานปลายมาจนถึงขนาดนี้ ปรากฎว่าคนที่เป็นห่วงมากกว่าเพื่อนจนซ่า ไม่ออก ก็ได้แก่นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ผู้ไร้เดียงสา อินโนเซนต์คิกขุอินเดอะหน่อมแน้ม นั่นเอง นักกวนข่าวรุ่นเยาว์เป็นห่วงว่าในเมื่อประกาศไม่เอากันอย่างนี้ สืบไปภาย หลังเลือกตั้ง ก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาลและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายค้านอย่างแน่นอน เมื่อต่างฝ่ายต่างคุมแค้นทางการเมืองแบบนี้ จะเอาเวลาที่ไหนมาคิดทำนุบ้านเมือง ให้เจริญก้าวหน้าเยี่ยงนานาอารยประเทศสืบไป ฝ่ายรัฐบาลก็จ้องหาเรื่องฟาดฟันทำลายล้างฝ่ายค้านด้วยอำนาจรัฐที่ตัวเองถืออยู่ ส่วนฝ่ายค้านก็จ้องหาเรื่องล้มรัฐบาลเม่งร่ำไป วันละ 25 ชั่วโมง เอาแต่กัดกันเสียจนไม่มีเวลาทำมาหากิน...ว่างั้นเถอะ บ้านเมืองภายภาคหน้ามิมืดมิดวังเวงแย่หรือ...นักกวนข่าวรุ่นเยาว์สรุปอย่างท้อแท้ หึ หึ...โป๊ก โป๊ก...เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากหัวโต๊ะ ไม่ต้องห่วงหรอกหนู...หึ หึ ไม่ต้องห่วง นักการเมืองบ้านเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องห่วง เวลาบ้านเมืองเป็นปกติ เวลาไม่มีเรื่องราวคอขาดบาดตาย เขาก็หาเรื่องด่าทอ ทะเลาะเบาะแว้งกันแบบนี้แหละ แต่ไม่ต้องห่วง...เวลามีภัยมาถึง รับรองว่าพรรค การเมืองไทยจะเลิกทะเลาะแล้วผนึกกำลังกันต่อสู้ป้องกันภัยอย่างเหนียวแน่นทันที ลืมเรื่องบาดหมางในอดีตทันที ไม่ต้องห่วง อย่างเวียตนามจะบุกนะหรือ นักกวนข่าวรุ่นเยาว์ถาม ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น อย่างเรื่องปฎิรูปการเมืองนั่นไง นักกวนข่าวอาวุโสปฎิเสธ พอความคิดเรื่องแยกอำนาจบริหารกับนิติบัญญัติ ไม่ให้ส.ส.เป็นรัฐมนตรีเริ่มมีคน พูดกันมากเท่านั้นแหละ ทั้งประชาธิปัตย์ ความหวังใหม่ และชาติพัฒนาต่างพากัน สามัคคี ออกอาการไม่เห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายทีเดียว... เห็นไหม สมตามคำขวัญ..."ใครทุบหม้อข้าว เราสามัคคีสู้ตาย" นั่นแล!!! *********************************************************** ... อำนาจทำให้มึนเมา หากใครสัมผัสกลิ่นอายเข้า มักลุ่มหลงและหยิ่งผยอง -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ฤ Area: FTSN-Crisis ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ Msg#: 80 Rec'd Date: 29 Oct 96 15:05:02 From: OP Read: Yes Replied: No To: All Mark: Subj: ไม่ต้องปฏิรูปแล้ว....การเมือง!!! ฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤฤ มีใครนึกแปลกใจบ้างไหมว่า ทำไมธรรมชาติถึงได้กำหนดกฎเกณฑ์ประหลาดๆให้กับ สิ่งมีชีวิตบางประเภท...นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยาเอ่ยนำขึ้นในที่ประชุม เล่น เอางงกันไปเป็นแถบว่า เหตุใดอยู่ดีๆถึงยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด อย่างหมากับแมวทำไมเจอะหน้ากันแล้วต้องมีเรื่อง กินยอดกระถินตามหอยนางรมสด แล้วทำไมถึงหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องแพ้ทางกัน... เวลาเข้าป่า หากไม่ อยากให้งูเงี้ยวเขี้ยวขอมารบกวน ท่านว่าให้พกลูกมะนาวติดตัวไว้ รับรองสัตว์ร้าย พวกนี้ไม่มาแผ้วพาน งูเห่าที่ว่าพิษสงร้ายกาจ แต่เจอะพังพอนแล้วรับรองหงอย รับ ประทานกลายเป็นงูดินไร้พิษสงไปทันที หรืออย่างงูเหลือมที่ว่าเรี่ยวแรงเยอะแยะ รัดวัวรัดควายกระดูกแตกตายคาที่นั้น หากเจอะเชือกกล้วยเท่านั้นแหละ รับรองได้ เลยว่าหมดเรี่ยวหมดแรง ตัวอ่อนปวกเปียกเลื้อยไปไหนไม่รอด ยังมีอีกแยะเรื่องลึกลับ ชวนสนเท่ห์เหล่านี้.... ร่ายยาวมาถึงตอนนี้ ก็ถูกนักกวนข่าวสายขัดคอพูดแซงขึ้นมาว่า จะเปลี่ยนงานหรือ อย่างไร จะไม่อยู่แล้วหรือ"ผู้จัดกวนรายวัน" สนใจข่าวแปลกประหลาดแบบนี้จะลาออก ไปอยู่รายการ "ตามไปดู" หรือ "ท้าพิสูจน์"...หรือว่าจะไปอยู่หนังสือพิมพ์ "มักกะลีผลรายวัน" หือ? นักกวนข่าวสายธรรมชาติวิทยารีบปฎิเสธปากคอสั่น แล้ว สรุปทันทีว่า ทั้งหมดนี้คือคำอธิบายต่อปรากฎการณ?บางอย่างที่หอประชุมกิติขจร เมื่อ อาทิตย์ก่อนที่กองทัพบกเขาจัดให้นักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ช.ไปดีเบต กันไง... เฮอะ...เกี่ยวอะไรกับงูแพ้เชือกกล้วย...มีเสียงแทรกถาม...เกี่ยวซิครับ ...คืดพวกนักการเมืองนี้ก็เห็นๆกันอยู่ ไม่ว่าจะช.ไหน ก่อนหน้านี้หาเสียงกันอย่าง ไร มีพูดไหมเรื่องนโยบงนโยบาย มีแต่เรื่องด่ากันเสียดสีกัน ขุดโครตพ่อโครตแม่มา ด่ากัน ก็ยังมี แต่พอคืนนั้นที่ทหารเขาจัดให้ไปพูดจากันต่อหน้าพวกเขาแล้ว เป็น อย่างไร...มีไหมอาการซ่าแบบที่เคยเป็น ก็ไม่มีใช่ไหม ถามเรื่องส่งออกก็ตอบเรื่อง ส่งออก ถามเรื่องเงินเฟ้อตอบเรื่องเงินเฟ้อ ถามเรื่องปฎิรูปการเมืองก็ตอบเรื่อง ปฎิรูปการเมือง ไอ้แบบว่าจะแขวะกัน หรือหาเรื่องสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีกันมีให้ได้ ยินไหม? ดังนั้นจึงขอสรุปว่า ธรรมชาติได้สร้างสิ่งนี้มาให้เหมือนงูกลัวเชือก กล้วย...นักการเมืองกลัวทหาร...ขอยืนยัน!!! ดังนั้นเรื่องที่จะคิดค้นการปฎิรูปการ เมืองเพื่อให้นักการเมืองทั้งหลายอยู่กับร่องกับรอยน่ะ เห็นทีจะไม่ต้องเสียเวลา แล้ว...เอาว่าต่อไปในภายภาคหน้า...นักการเมืองคนไหนมีปัญหาก็ส่งไปให้ทหารเขา จัดการเสียก็แล้วกัน หรือถ้าเป็นปัญหารวมหมู่อย่างประชุม ครม.ก็เชิญมาประชุมเสีย ที่หอประชุมกิติขจรต่อหน้าทหารน้อยใหญ่แบบนี้แหละ...รับรองเรียบร้อย!!! ***************************************************************** จากคอลัมม์:ผู้จัดกวนรายวัน หนังสือพิมพ์ผู้จักการรายวัน ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 39 ***************************************************************** -!- FMail 1.02 ! Origin: /\/\CC BBS Chiengmai (053)232538 (6:608/10) ปณต หุ่นวัน Panot Hoonwan