นี่คือรุ่นที่ 3.0
สงวนสิขสิทธิ์ © 2543 Eric S. Raymond
สงวนสิขสิทธิ์ © 2006 Theppitak Karoonboonyanan (thep@linux.thai.net)
$Date: 2008-10-03 10:04:13 $
บันทึกรุ่น | ||
---|---|---|
รุ่นที่ 1.22 | 24 สิงหาคม 2543 | esr |
ทฤษฎีการต่อแต้ม, นกยูง และกวาง. ความคล้ายคลึงกับความเป็นอัศวิน. | ||
รุ่นที่ 1.22 | 24 สิงหาคม 2543 | esr |
แปลงเป็น DocBook 4.1. | ||
รุ่นที่ 1.21 | 31 สิงหาคม 2542 | esr |
แก้ไขครั้งใหญ่เพื่อตีพิมพ์ในหนังสือของ O'Reilly. เพิ่มแนวคิดเกี่ยวกับต้นทุนของการฟอร์กและแพตช์เถื่อนจาก Michael Chastain. Thomas Gagne (tgagne@ix.netcom.com) ตั้งข้อสังเกตเรื่องความคล้ายระหว่าง "ผู้มีอาวุโสชนะ" กับเคล็ดของระบบฐานข้อมูล. การอุปมาอุปมัยกับการเมืองของ Henry Spencer. Ryan Waldron and El Howard (elhoward@hotmail.com) สมทบความคิดเกี่ยวกับคุณค่าของนวัตกรรม. Thomas Bryan (tbryan@arlut.utexas.edu) อธิบายความเอือมระอาของแฮ็กเกอร์ต่อนโยบาย ``เขมือบแล้วขยาย''. Darcy Horrocks ให้แรงบันดาลใจต่อหัวข้อใหม่ ``ของขวัญนั้นดีแค่ไหน?'' เนื้อหาใหม่เรื่องความเชื่อมโยงกับลำดับชั้นของคุณค่าของมาสโลว์ และข้อห้ามเรื่องการโจมตีความสามารถ. | ||
รุ่นที่ 1.14 | 21 พฤศจิกายน 2541 | esr |
แก้ไขเล็กน้อย และแก้ลิงก์ที่เสีย. | ||
รุ่นที่ 1.10 | 11 กรกฎาคม 2541 | esr |
ลบการอ้างถึงคำว่า `fame' ของ Fare Rideau ตามที่เขาแนะนำ. | ||
รุ่นที่ 1.9 | 26 พฤษภาคม 2541 | esr |
เพิ่มการแยกความแตกต่างระหว่าง noosphere/ergosphere ของ Faré Rideau. เพิ่มการแก้ต่างของ RMS ว่าเขาไม่ได้ต่อต้านการค้า. หัวข้อใหม่เรื่องการถ่ายทอดวัฒนธรรมและภาคการศึกษา (ขอบคุณ Ross J. Reedstrom, Eran Tromer, Allan McInnes, Mike Whitaker และคนอื่นๆ). เพิ่มเติมเกี่ยวกับความอ่อนน้อมถ่อมตน (`พฤติกรรมที่ไร้อัตตา') จาก Jerry Fass และ Marsh Ray. | ||
รุ่นที่ 1.8 | 27 เมษายน 2541 | esr |
เพิ่ม Goldhaber ในบรรณานุกรม. ฉบับนี้เป็นฉบับที่จะตีพิมพ์ใน proceedings ของงาน Linux Expo. | ||
รุ่นที่ 1.7 | 16 เมษายน 2541 | esr |
หัวข้อใหม่เรื่อง `นัยในภาพรวม' ถกเรื่องแนวโน้มการตั้งถิ่นฐานใน noosphere ที่ผ่านมา และตรวจสอบเรื่องปรากฏการณ์ `ผู้พิชิต'. เพิ่มคำถามเพื่อการค้นคว้าเพิ่มเติมอีกข้อ. | ||
รุ่นที่ 1.3 | 12 เมษายน 2541 | esr |
แก้ไขคำสะกดผิด และตอบคำวิจารณ์จากสาธารณชนรอบแรก. บรรณานุกรมสี่รายการแรก. ข้อสังเกตจากผู้ไม่ประสงค์จะเอ่ยนาม เกี่ยวกับการทำงานของแรงกระตุ้นจากชื่อเสียง แม้ตัวช่างฝีมือจะไม่รู้ตัว. เพิ่มการเปรียบเทียบกับ warez d00dz ที่น่าศึกษา, เนื้อหาเรื่องเงื่อนไข `ซอฟต์แวร์ควรบอกเอง', และข้อสังเกตเกี่ยวกับการเลี่ยงความนิยมตัวบุคคล. ผลของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ ทำให้หัวข้อ `ปัญหาของอัตตา' ยาวขึ้น และถูกแบ่งเป็นหัวข้อย่อย. | ||
รุ่นที่ 1.2 | 10 เมษายน 2541 | esr |
เผยแพร่บนเว็บเป็นครั้งแรก. |
บทคัดย่อ
หลังจากที่ได้สังเกตเห็นความขัดแย้งกันเอง ระหว่างอุดมการณ์อย่างเป็นทางการที่กำหนดโดยสัญญาอนุญาตโอเพนซอร์สต่างๆ กับพฤติกรรมที่ปรากฏจริงของแฮ็กเกอร์ทั้งหลาย ผู้เขียนจึงได้ตรวจสอบจารีตประเพณีในทางปฏิบัติ ที่คอยกำหนดกฎเกณฑ์กรรมสิทธิ์และอำนาจควบคุมของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สทั้งหลาย ผู้เขียนจะแสดงให้เห็นว่า จารีตประเพณีเหล่านั้นบ่งบอกถึงทฤษฎีแห่งทรัพย์สินที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งละม้ายกับทฤษฎีสิทธิถือครองที่ดินของล็อค จากนั้น ผู้เขียนจะเชื่อมโยงเรื่องดังกล่าวเข้ากับการวิเคราะห์วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ ซึ่งเป็น `วัฒนธรรมแห่งการให้' (gift culture) ซึ่งสมาชิกจะแข่งขันเพื่อเกียรติยศ โดยอุทิศเวลา แรงกายแรงใจ และความคิดสร้างสรรค์ให้กับชุมชน และท้ายที่สุด ผู้เขียนจะตรวจสอบผลพวงของการวิเคราะห์นี้ ต่อการยุติข้อขัดแย้งในชุมชน และพัฒนาเป็นจารีตโดยนัย
สารบัญ
ใครก็ตาม ที่เฝ้ามองโลกที่ไม่หยุดนิ่งและอุดมผลของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สในอินเทอร์เน็ตสักระยะหนึ่ง จะสังเกตได้ถึงความขัดแย้งในตัวเองที่น่าสนใจข้อหนึ่ง ระหว่างสิ่งที่แฮ็กเกอร์โอเพนซอร์สบอกว่าเชื่อ กับวิธีปฏิบัติที่เป็นจริง หรืออีกนัยหนึ่งคือ ระหว่างอุดมการณ์อย่างเป็นทางการของวัฒนธรรมโอเพนซอร์ส กับการปฏิบัติในความเป็นจริง
วัฒนธรรมเป็นกลไกที่ปรับตัวได้ วัฒนธรรมโอเพนซอร์สเอง ก็เป็นการสนองตอบต่อแรงขับเคลื่อนและแรงกดดันที่บ่งบอกได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งการปรับตัวของมันไปตามสภาวการณ์ต่างๆ ก็มีทั้งจากอุดมการณ์ในจิตสำนึก และจากการเรียนรู้ที่สั่งสมกันมาแบบไม่รู้ตัว หรือไม่มีการเอ่ยถึง และก็ไม่แปลกอะไร ที่การปรับตัวแบบเป็นไปเอง จะขัดกับอุดมการณ์ในจิตสำนึกไปบ้าง
ในบทความนี้ ผู้เขียนจะเจาะหาต้นตอของความขัดแย้งในตัวเองดังกล่าว เพื่อใช้ค้นหาแรงขับเคลื่อนและแรงกดดันเหล่านั้น ผู้เขียนจะอนุมานต่อถึงประเด็นที่น่าสนใจจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับวัฒนธรรมแฮ็กเกอร์และจารีตประเพณีของมัน จากนั้นจะสรุปด้วยการแนะนำหนทางที่จะทำให้การเรียนรู้ที่แฝงอยู่ในวัฒนธรรมนี้ที่ว่านั้น มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น