หน้าผากไกกะด้น

manuscript #01

[ᩋᩢ᩠ᨶᨶᩥᩃᩣᩴᩉ᩠ᨶᩣᨹᩣᩢᨹᩩᩢᨲᩫ᩠ᨶᩃᩯᨧᩮᩫᩣᩃᩯᨧᩮᩫᩣᩌᩮᩥ᩠ᨿ / อันนี้ลำหน้าผากผูกต้นแลเจ้าแลเจ้าเอย]

ᨶᨾᩮᩣᨲᩔᨲ᩠ᨳᩩᩑᩅᨾᩮᩈᩩᨲ᩠ᨲᩴᩑᨠᩴᩈᨾ᩠ᨾᨿᩴᨽᨣᩅᩣᩈᩅᨲ᩠ᨳᩥᨿᩴᩅᩥᩉᩣᩁᨲ᩠ᨲᩥᨩᩮᨲᩅᨶ᩠ᨶᩮᩣᩋᩢ᩠ᨶᨶᩣᨳᩣᨸᨱ᩠ᨯᩥᨠᩔᩣᩋᩣᩁᩣ᩠ᨾᨾᩮᨻᩮᩣᩈᩢ᩠ᨴᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᩈᨸ᩠ᨸᩩᩁᩥᩈᩣᨴᩢ᩠ᩃᩣᨠᨳᩮᩈᩥ ᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨠᩴᨲᨴ᩠ᨵᩣᩴᨾᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᨶᩲᨻᩡᩋᩣ᩠ᩈᨠᩯ᩠ᩅ
นโมตสฺสตฺถุเอวเมสุตฺตํเอกํสมฺมยํภควาสวตฺถิยํวิหารตฺติเชตวนฺโนอันนาถาปณฺฑิกสฺสาอารามเมโพสัทวา ดูราสัปปุริสาทั้งหลาย กเถสิ พระพุทธเจ้าก็ตัทธำมเทสสนาในพะอาสแก้ว

ᨣᩧ᩠ᩅᩣᨸᩣᩢᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᩋᩢ᩠ᨶᨯᩯ᩠ᨦᨦᩣ᩠ᨾᨯᩢ᩠ᨦᨹᩣᨠᨾ᩠ᨾᩃᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨵᨾ᩠ᨾᨩᨯᩫ᩠ᨠᨿᩫ᩠ᨠᩋᩋᩢᨾᩣᨲᩯᨶᩱᨠᩣᩴᨻᩥᩅᩁᩴᩅᩁ᪓ᨻᩢ᩠ᨶᨲᩣᩋᩋᩢᨾᩣᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᨠᩯᨶᩣᩙᨴᩮᩅᨯᩣᨴᩢ᩠ᩃᩣ ᨾᩥᨾᩉᩣᨠᩔᩣᨸᩕᩡᨳᩮᩁᩡ
คือว่าปากแห่งพระพุทธเจ้าอันแดงงามดังผ้ากัมมละด้วยธัมม์ชดกยกออกมาแต่ในกำพีวรํวร ๓ พันตาออกมาเทสสนาแก่นางเทวดาทั้งหลาย มีมหากัสสาประเถระ

ᨧᩮᩫᩣᨲᩢ᩠ᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩮᩫᩣᨠᩯᩋᩴᩁᩉᨶ᩠ᨲᩣᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨸᩫᨯᨣ᩠ᨳᩣᩅᩣ ᩈᩣᨾᨲ᩠ᨳᨶᩴᩅᩮᩉᩴᨶᩥᨴᩴᨸᨲ᩠ᨳᩣᨸᩴᩋᩣᨧᩥᩁᩥᨿᩁᩮᩣᨶᩣᨾ᩠ᨾᩡᩈᩮᨭ᩠ᨮᩴᨸᨬ᩠ᨧᩈᨴ᩠ᨵᩴ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᩋᩴᩁᩉᨶ᩠ᨲᩣ᪕ᩁᩭᨺᩩᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨸᩕᩁᩥᩅᩣ᩠ᨶᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᩋᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶ
เจ้าตั้งเป็นเค้าแก่อรหันตาด้วยบดคาถาว่า สามตฺถนํเวหํนิทํปตฺถาปํอาจิริยโรนามฺมะเสฏฺฐํปญฺจสทฺธํ ส่วนดังอรหันตา ๕ ร้อย ฝูงเป็นประริวานแห่งพระพุทธเจ้าอันเป็น

ᨣᩮᩫᩣᨠᩯᨴᩮᩅᨯᩣᩋᨲ᩠ᨳᩣᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨿᩴᨾᩥᨶᩱᩅᩢ᩠ᨶ᪑ᨸᩮᩢ᩠ᨶᨯᩮᩥᩋ᩠ᨶᨧ᩠ᨿᩙᨻᩮᩢ᩠ᨶᨾᩧᩅᩢ᩠ᨶᩈᩥ᩠ᨶᨻᩥ᩠ᨶᨲᩮᩈᩥ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩔᩮᩢ᩠ᨶᨣᩴᨲᩥᨣᩋᩙᩁᩋᩙᨸᩣ᩠ᩅᨸᩬᩢᨣᩣ᩠ᩅᩈᨬᩣᨠᩯᩈᩮᨶᩣᩅᩣ ᨯᩪᩕᩣᩈᩩᨴᩣ᩠ᨶᨴᩢ᩠ᩃᩣᨾᩢ᩠ᨠᨣᩱᨸᩱᨼᩢ᩠ᨦᨵᩣᩴᨠᩢ᩠ᨸᨯᩬᨾᨠᩩᨧᩩᩢᩉᩱᨲᩫ᩠ᨠᨲᩯ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦ
เค้าแก่เทวดาอัตถาในกลาเมื่อนั้น ยังมีในวัน ๑ เป็นเดือนเจียงเพ็นมื้อวันสินพินเตสิ พระยาปัสเสนก็ตีค้องร้องป่าวบอกคาวสัญญาแก่เสนาว่า ดูราสูท่านทั้งหลายมักไค่ไปฟังธำกับดอมกุจุกให้ตกแต่งยัง

manuscript #02

ᨣᩮᩥ᩠ᨦᨻᩢ᩠ᨶᨴᩢ᩠ᩃᩣ ᨣᩧ᩠ᩅᩣᨯᩋᩢᩈᩣᩴᨸᩥᨯᩯ᩠ᨦᩉᩱᨯᩱᨻᩢ᩠ᨶ᪑ ᨾᩃᩣᨶᩥᨠᩮᩣᩁᩥᨯᩋᩢᩈᩣᩴᨸᩥᨡᩣ᩠ᩅᨣᩉᩱᨯᩱᨻᩢ᩠ᨶ᪑ ᨸᩢᨯᨴᩩᨾᩴᩁᩥᨯᩋᩢᨸᩫ᩠ᩅᨣᩉᩱᨯᩱᨻᩢ᩠ᨶ᪑ ᨾᩉᩴᩈᩮᩣᩁᩥᨴᩩᩙᨡᩣ᩠ᩅᨣᩴᩉᩱᨯᩱᨻᩢ᩠ᨶ᪑ ᩈᩩᩅᨱ᩠ᨱᩉᩣᩃᩥᨴᩮᩣᩁᩥᨴᩩᩙᩉᩮᩖᩥᩋ᩠ᨦᨣᩴᩉᩱᨯᩱᨻᩢ᩠ᨶ᪑ ᨴᩥᨻᩴᩁᩥᨴ᩠ᨿ᩠ᨶᨣᩴᩉᩱ
เคิ่งพันทั้งหลาย คือว่าดอกสำปีแดงให้ได้พัน ๑ มลานิโกอันว่าดอกสำปีขาวก็ให้ได้พัน ๑ ปัดทุมํอันว่าดอกบัวก็ให้ได้พัน ๑ มหํโสอันว่าทุงขาวก็ให้ได้พัน ๑ สุวัณณหาลิโทอันว่าทุงเหลืองก็ให้ได้พัน ๑ ทิพํอันว่าเทียนก็ให้

ᨯᩱᨻᩢ᩠ᨶ᪑ ᨣᩧ᩠ᩅᩣᨻᩢ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨸᩕᨴᩥ᩠ᨸᩈᩴᨣᩴᩉᩱᨯᩱᨻᩢ᩠ᨶ᪑ ᨣᩧ᩠ᩅᩣᨻᩢ᩠ᨶᨲᩮᩖᩢᨾᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨸᨲ᩠ᨲᩥᩈᩘᨡᩋᩢ᩠ᨶᨾᩥᨣᩮᩥᩋ᩠ᨦᨯᩱᨯᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᨻᩢ᩠ᨶᨩᩩᩋᩢ᩠ᨶᨩᩩᩋᩢ᩠ᨶ᪒ᨴᩮᩫᩣᨴᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩔᩮᩢ᩠ᨶᩉᩣᩢᨠᩖᩣ᩠ᩅᨿᩴᩈᩮ᩠ᨶᩣᨴᩢ᩠ᩃᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᩈᩮ᩠ᨶᩣ
ได้พัน ๑ คือว่าพันนั้นแล ประทีปสอก็ให้ได้พัน ๑ คือว่าพันเตล็มนั้นแล ปัตติสังข์อันมีเคื่องใดได้เถิงซุอันซุอัน ๒ เท่าทันเทิน ในเมื่อพระยาปัสเสนหากกล่าวยังเสนาทั้งหลาย เมื่อนั้นบั้นเสนา

ᨴᩢ᩠ᩃᩣᨡᩮᩫᩣᨣᩴᨯᩰ᩠ᨿᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩴᨩᩣ ᨳ᩠ᩅᩁᩉ᩠ᨶᩣᩃᩮᩥ᩠ᨠᩃᩣᩃᩫ᩠ᨦᨳᩮᩥ᩠ᨦᩁᩮᩥᩋ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶ ᨲᩫ᩠ᨠᨲᩯ᩠ᨦᩃᩯ᩠ᩅᨹᩫ᩠ᩅᨾᩮᩢ᩠ᨿᨠᩯ᩠ᩅᩃᩩᩢᩉᩖᩣ᩠ᨶᩉᩮᩖᩢᩁᨸᩕᩁᩮᩥᩋ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨩᩡᨠᩢ᩠ᨶᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᩉᩖᩢᨦᩉᩱᩖᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨶᩫ᩠ᨸᨶᩬᨸᩉᩱ᩠ᩅ ᨺᩩᨦᨡᩣ
ทั้งหลายเขาก็โดยพระยาบ่ช้า ถ้วนหน้าเลิกลาลงเถิงเรือนตน ตกแต่งแล้วผัวเมียแก้วลูกหลานเหลนประเรือนตนซะกันเอากันหลั่งไหลมาเถิงพระยานบนอบไหว้ ฝูงข้า

ᨴᩢ᩠ᩃᩣᨡᩴᩋᩴᨩᩮᩥ᩠ᨶᨻᩕᨠᩯ᩠ᨶᨴᩱ ᨧᩫ᩠ᨦᨻᩣᨺᩩᨦᨡᩣᨸᩱᨼᩢ᩠ᨦᨴᩣᩴᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩔᩮᩢ᩠ᨶᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨺᩩᨦᩈᩮ᩠ᨶᩣᨠᩫ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᨸᨻᩕᨸᩣ᩠ᨿᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨿᩥ᩠ᨶᨯᩥ ᨻᩕᨣᩴᨧᩣᨲᩴᨶᩣᩙᨴᩮᩅᩥᩈᩥᨻᩥᨾ᩠ᨻᩣᨠᩯ᩠ᨶᩉᩮ᩠ᨦᩫᩣ ᩁᩮᩫᩣᨧᩢᨻᩣᨸᩱᩉᩱ᩠ᩅᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣ
ทั้งหลายขออังเชินพระแก่นไท้ จงพาฝูงข้าไปฟังทำเท่าวันเทิน เมื่อนั้นพระยาปัสเสนสุตวาได้ยินฝูงเสนาก้มขาบพระปายเจ้าหากยินดี พระก็จาต่อนางเทวีสีพิมพาแก่นเหง้า เราจักพาไปไหว้พระพุทธเจ้า

ᩃᩬᨯᨼᩢ᩠ᨦᨴᩣᩴᨿᩢ᩠ᨦᨧᩢᨯᩬᨾᨡᩭᩁᩥᩁᩩᩅᩣᨸᩴᨸᩱᨶᩢ᩠ᨶᨧᩣ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᩈᩥᨻᩥᨾ᩠ᨻᩣᨶᩣᩙᩋᩮᩢ᩠ᨠᩉᩱ᩠ᩅᨸᩣ᩠ᩈᨴᩱᩁᩣᨩᩣᩅᩣᩈᩣᨴᩩᨯᩥᪧ ᨸᩴᨾᩥᨶᩣ᩠ᨶᨴᩮᩫᩣᨯᩱᨶᩣᩙᨻᩥᨾ᩠ᨻᩣᨣᩴᨲᩫ᩠ᨠᨲᩯ᩠ᨦᩏᩫᩣᨣᩣᩴ᪕ᩁᩭᨻᩢ᩠ᨸᨴᩩᩢᨹᩣᨧᩢᨣᩣᩴ᪕ᩁᩭᨹᩧ᩠ᨶᨻᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨣᩮᩥᩋ᩠ᨦᨣ᩠ᩅᩁᨣ᩠ᨿᩅᩓᨣ᩠ᩅᩁᨠᩥ᩠ᨶᨾᩮᩥᩬᨧᩢᨸᩱ
ลอดฟังทำยังจักดอมข้อยอันว่ารู้ว่าบ่ไปนั้นจา เมื่อนั้นสีพิมพานางเอกไหว้บาสไท้ราชาว่าสาทุดี ๆ บ่มินานเท่าใดนางพิมพาก็ตกแต่งเอาคำ ๕ ร้อยพับทุกผ้าจักคำ ๕ ร้อยผืนพับทั้งเคื่องควนเคี้ยวแลควนกินเมื่อจักไป

ᨸᩩᨩᩣᨵᨾ᩠ᨾᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣ ᨿᩣ᩠ᨾᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨸᩢᨯᩈᩮᩢ᩠ᨶᨸᩣ᩠ᨿᩏᩫᩣᨩᩣ᩠ᨦᨡᩮᩢ᩠ᨶᨣᩣᩴᨾᩣᩉᩣ᩠ᨦ ᨺᩩᨦᨩᩣ᩠ᨦᨶᩭᩁᩰᨶᩣᩴᩉᩖᩢᨦ ᩈᩮᨶᩣᩉᩯᨧᩮᩫᩣᩈ᩠ᨿᩙᨣᩧ᩠ᨶᨣᩮᩫᩣᨣᩩᩙᨸᩫ᩠ᨶᨻᩕᨠᩔᩣᨻᩫ᩠ᨶᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨶᩣᩙ
บูชาธัมมเทสสนาแห่งพระพุทธเจ้า ยามนั้นพระบาสเจ้าปัดเสนบายเอาช้างเขนคำมาหาง ฝูงช้างน้อยโร่นำหลัง เสนาแห่เจ้าเสียงคืนเค้าคุ้งบนพระกัสสาพนกับทั้งนาง

ᨻᩥᨾ᩠ᨻᩣᨠᩯ᩠ᨶᨠᩯ᩠ᩅᨡᩧ᩠ᨶᩈᩩᨩᩣ᩠ᨦᩋᩮᩢ᩠ᨠᩃ᩠ᩅᩙᩈᩱᨻ᩠ᩅᩙᨣᩣᩴᨶᩣᩴᩉᩫ᩠ᨶᨴᩣ᩠ᨦᨳᩮᩥ᩠ᨦᨸᩣᨾᩱᩉᩢ᩠ᨶᩃᩯ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨴᩮᩅᨯᩣᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᩈ᩠ᨿᩙᨡᩢ᩠ᨸᩈᩮᩢ᩠ᨿᨣᩴᩃᩬᨯᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᨾᩣ᪖ᩉ᩠ᨾᩧᩁ ᩉ᩠ᨶᩣᨩᩭᨩᩧ᩠ᨶᨧᩱᩈᩱᩅᩣᨧᩢᨸᩱᨼᩢ᩠ᨦᨴᩣᩴᨶᩣᩴᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈ
พิมพาแก่นแก้วขึ้นสู่ช้างเอกล้วงใส่พวงคำนำหนทางเถิงป่าไม้หั้นแล เมื่อนั้นเทวดาได้ยินเสียงขับเสียก็ลอดเอากันมา ๖ หมื่น หน้าช่อยชื่นใจใสว่าจักไปฟังทำนำพระบาส

ᩈᩩᩃᩥᨿᩣ᩠ᩈᨡᩧ᩠ᨶᨻᩴᨦᩣ᩠ᨿ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨿᩯ᩠ᨾᩉᩫ᩠ᩅᨯᩣ᩠ᨿᨿᩣ᩠ᨶᨶᨹᩖᩣᩉᩮᩢ᩠ᨶᩉᩮᩢ᩠ᨯ ᨻᩕᨧᩥ᩠ᨦᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᨲᩴᨧᩮᩫᩣᩋᩣᨶᩫ᩠ᨶᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᩋᩣ᩠ᨶᨶᩫ᩠ᨶᩅᩣᨶᩱᩅᩢ᩠ᨶᨶᩥᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩔᩮᩢ᩠ᨶᩉᩣᩢᨧᩢᨾᩣᨼᩢ᩠ᨦᨴᩣᩴᨾᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩯ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ
สุริยาสขึ้นพองาย เมื่อนั้นพระพุทธเจ้าก็แย้มหัวดายยานนผลาเห็นเหด พระจิงเทสสนาต่อเจ้าอานนว่า ดูราอานนนว่าในวันนี้พระยาปัสเสนหากจักมาฟังทำมเทสสนาแท้ดีหลีแล เมื่อนั้น

manuscript #03

ᨿᩢ᩠ᨦᨾᩥᨴᩮᩅᨯᩣᨲᩫᩫ᩠ᨶ᪑ᩁᩢᨠ᩠ᩈᩣᨲᩥ᩠ᨶᨴᩯ᩠ᨶᨠᩯ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨴᩮᩅᨯᩣᨲᩫ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶᩉᩣᩢᨾᩥᨲᩮᨩᩋᨶᩩᨽᩣ᩠ᨸᨿᩥ᩠ᨦᨠᩫ᩠ᩅᨴᩮᩅᨯᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᨣᩴᩃᩬᨯᩉᩫ᩠ᩈᨹᩯ᩠ᨶᨯᩥ᩠ᨶᩉᩱᨾᩣᩁᩬᨯᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨿᩣ᩠ᨾᨴᩥ᩠ᨸᨯᩰ᩠ᨿᩍᨵᩥᩉᩢ᩠ᨶᩃᩯ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩔᩮᩢ᩠ᨶᨣᩴᨾᩣᩁᩬᨯᨧᩬᨯ
ยังมีเทวดาตน ๑ รักสาตีนแท่นแก้วแห่งพระพุทธเจ้า ส่วนดังเทวดาตนนั้นหากมีเตชอนุภาบยิ่งกั่วเทวดาทั้งหลาย ก็ลอดหสแผ่นดินให้มารอดมาเถิงด้วยยามทีปโดยอิธิหั้นแล คั้นว่าพระยาปัสเสนก็มารอดจอด

ᨳᩮᩥ᩠ᨦᨴᩯ᩠ᨶᨠᩯ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨶᩣᩙᩉ᩠ᨶᩩᨾᩉᩮ᩠ᨶᩫᩣᩈᩥᨻᩥᨾ᩠ᨻᩣᩁᩣᨩᩣᨴᩮᩅᩥ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩔᩮᩢ᩠ᨶᨣᩴᩋᩢᨯᨩᩡᨧᩢ᩠ᨶᨡ᩠ᩅ᩠ᨿᩁᩥᨴ᩠ᨵᩥᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩯ ᨸᨮᨿ᩠ᨿᩡᨲᩢ᩠ᨦᩁᩯ᩠ᨠᩉᩯ᩠ᨦᨶᩥᨾᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩣᨶᩱᨾᩮᩥᩬ
เถิงแท่นแก้วแห่งพระพุทธเจ้ากับทั้งนางหนุ่มเหน้าสีพิมพาราชาเทวี พระยาปัสเสนก็อัดซะจันด้วยริทธิแห่งพระพุทธเจ้าแท้ดีหลีแล ปฐยฺยะตั้งแรกแห่งนี้เมื่อหน้าในเมื่อ

ᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩔᩮᩢ᩠ᨶᨣᩴᨠᩫ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᩅᩣ ᨽᨶᩮ᩠ᨲ ᨡᩣᩉᩱ᩠ᩅᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣ ᨡᩴᨠᩯᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨡᩣ ᨾᨮᩣ ᨧᩥ᩠ᨦᩉᩱᩋᩰᨯᨿᩢ᩠ᨦᨴᩰᨯᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣᩋᩢ᩠ᨶᨶᩴᩣᨾᩣᨿᩢ᩠ᨦᨣᩮᩥᩋ᩠ᨦᨸᩩᨩᩣᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩮᩥᩋ᩠ᨦᩁᩭᨠᩢ᩠ᨸ
พระยาปัสเสนก็ก้มขาบไหว้พระพุทธเจ้าว่า ภนฺเต ข้าไหว้พระพุทธเจ้า ขอแก่พระพุทธเจ้าข้า มฐา จิงให้โอดยังโทดแห่งผู้ข้าอันนำมายังเคื่องปุชาด้วยเคื่องร้อยกับ

ᨴᩢ᩠ᨦᨺᩩᨦᨻᩱᨶᩭᩉ᩠ᨾᩩᩈᩮ᩠ᨶᩣᨾᩢ᩠ᨠᨣᩱᩀᩣᩢᨼᩢ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᨴᨾ᩠ᨾᩡᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣ ᨠᩴᨡᩣᩃᩯ ᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨶᩣ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩩᨾᩉᩮ᩠ᨶᩫᩣᨾᩉᩮᩈᩥ ᨧᩱᨿᩥ᩠ᨶᨯᩥᨻᩣᩴᨻᩬᨾᨠᩴᨡᩣᩃᩫ ᨽᨣᩅᩣ ᩁᩥᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᩋᩣᨠᩣ᩠ᨶᩅᩣ ᩈᩩᨶᨶ᩠ᨲᩩᨽᩮᩣᨶᩮ᩠ᨲᩣᨿᩮᨴᩮ
ทั้งฝูงไพ่น้อยหมู่เสนามักใค่อยากฟังยังทัมมะเทสสนาแห่งพระพุทธเจ้า ก็ข้าแล กับทั้งนางหนุ่มเหน้ามเหสี ใจยินดีพ่ำพ้อมก็ข้าแล ภควา อันว่าพระพุทธเจ้าเทสสนาเป็นอากานว่า สุนนฺตุโภนฺโตเยเท

ᩅᩣᨯᩪᩕᩣᨴᩮᩅᨯᩣᨧᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᨻᩣ᩠ᨿᨴᩮᩥ᩠ᨦ ᨾᩥᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨾᩉᩣᨻᩫ᩠ᨾᩃ᩠ᩅᩙᨻᩫ᩠ᨶᩃᩯ᩠ᩅᩋᩣᨩᩢᨯᨲᨻᩣ᩠ᩈᨣᩩᨯᨶᩣᩢᨻᩬᨾᨶᩣᨣᩣᨧᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᨧᩫ᩠ᨦᨼᩢ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᨴᨾ᩠ᨾᩡᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨲᨳᩣᨣᨲᩣᨧᩮᩫᩣ ᨧᩥ᩠ᨦᨧᩣᨶᩥᨴᩣ᩠ᨶᨲᩯᨻᩣ᩠ᨿᩉᩖᩢᨦᩋᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨶᩥᨴᩣ᩠ᨶ
ว่าดูราเทวดาเจ้าทั้งหลายพายเทิง มีพระยาอินกับทั้งมหาพมล่วงพ้นแล้วอาชัดตพาสคุดนากพ้อมนาคาเจ้าทั้งหลาย จงฟังยังทัมมะเทสสนาแห่งพระตถาคตาเจ้า จิงจานิทานแต่พายหลังอันเป็นนิทาน

ᨲᩣ᩠ᨾᩉᩮᩢ᩠ᨯᩉᩯ᩠ᨦᨴᨾ᩠ᨾᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᩋᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨶᩥᨴᩣ᩠ᨶᨠᩯᨠᩮᩫᩣᩃᩮᩫᩣ ᨿᩢ᩠ᨦᨾᩥᨾᩮᩥᩋ᩠ᨦᩋᩢ᩠ᨶ ᪑ ᨩᩨ᩠ᩅᩣᨠᩮᩣᩈᩴᩣᨻᩥᨾᩥᩉᩖᩢᨦᩁᩮᩨᩋ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᨯᩱ ᪘ ᩉ᩠ᨾᩨᩁ ᩉ᩠ᨶᩣᨩᩭᨩᩨ᩠ᨶᨩᩫ᩠ᨾᨸᩣ᩠ᨶ ᨾᩮᩨᩋ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨠᩥ᩠ᨶᨴᩣ᩠ᨶᨸᩴᨡᩣ᩠ᨯᨡᩮᩫᩣᨸᩴᨯᩱ
ตามเหดแห่งทัมมะเทสสนาอันเป็นนิทานแก่เก่าเล่า ยังมีเมืองอัน ๑ ชื่อว่าโกสำพีมีหลังเรือนอันได้ ๘ หมื่น หน้าช่อยชื่นชมบาน เมืองนั้นเข้ากินทานบ่ขาดเข้าบ่ได้

ᨸᩱᨸᩕᩉ᩠ᨾᩣ᩠ᩈᨿᩢ᩠ᨦᨣᩩᩁᨠᩯ᩠ᩅ ᪓ ᨸᩕᨠᩣ᩠ᨶ ᨸᩮᩢ᩠ᨶᨶᩥᨴᩣ᩠ᨶᨲᩯᨠᩮᩫᩣᩃᩮᩫᩣ ᨿᩢ᩠ᨦᨾᩥᨾᩉᩣᨳᩮᩁᨧᩮᩫᩣᨯᩮᩥ᩠ᨶᨾᩣᨧᩣᩴᩅᩔᩣ ᪕ ᩁᩭ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᨾᩣᩁᩬᨯᨯᩮᩥ᩠ᨶ᪗ᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨣᩴᩉᩣᨹᩩᨴᩣᩴᨸᩴᨯᩱ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᩈᩮ
ไปประหมาสยังคุนแก้ว ๓ ประกาน เป็นนิทานแต่เก่าเล่า ยังมีมหาเถรเจ้าเดินมาจำวัสสา ๕ ร้อย ในเมื่อเจ้าภิกขุทั้งหลายมารอดเดิน ๗ ดังนั้น ก็หาผู้ทำบ่ได้เหดว่าเส-

ᨭ᩠ᨮᩥᨹᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨠᩯᨾᩮᩥ᩠ᨦᩉᩯ᩠ᨦᨡᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᨸᩴᨸᩣᩢ ᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨣᩴᨸᩣᩢᨸᩴᨯᩱᨶᩱᨾᩮᩥᩬᩈᩮᨭ᩠ᨮᩥᨹᩩᨶᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᨾᩢ̤ᩁᩣ᩠ᨿᨲᩯᨠᩮᩫᩣ ᩉᩣᨣᩫ᩠ᨶᨹᩩᨯᩱᨧᩢᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨸᩴᨯᩱ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᩈᩮᨭ᩠ᨮᩥᨲᩫ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶᨸᩬᩢᨡᩣ᩠ᩅᨸᩣ᩠ᩅᨲᩮᩥ᩠ᨶᨠᩯᨡᩮᩫᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅ ᨣᩫ᩠ᨶᨴ᩠ᩃᩢᩣᩉᩣᩢᨿᩣ᩠ᩈᨠᩢ᩠ᨶᨴᩣᩴ
ฏฐีผู้เป็นแก่เมืองแห่งเข้าทั้งหลายบ่ปาก ดังนั้นเขาก็ปากบ่ได้ในเมื่อเสฏฐีผู้นั้นเป็นอันมักร้ายแต่เก่า หาคนผู้ใดจักเจ้าก็บ่ได้ คั้นว่าเสฏฐีตนนั้นบอกข่าวปาวเตินแก่เขาดังนั้นแล้วคนทั้งหลายหากยาสกันทำ

manuscript #04

ᨿᩢ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨸᩴᩉᩱᩋᩧ᩠ᨯᩀᩣᩢᩃᩣᩴᨸᩣᩢᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩮᩨᩋ᩠ᨦᨶᩩᩙᨣᩮᩨᩋ᩠ᨦᨵᩕᩫ᩠ᨦ ᩉᩱᨲᩮᩢ᩠ᨾᨸᩱᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨴᩥᩀᩪᨴᩥᨶᩬᩁ ᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨶᩣᩴᨸᩴᩁᨽᩰ᩠ᨠ ᨠᩢ᩠ᨷᨴᩢ᩠ᨦᨩᨳᩣ᩠ᨶᩉᩴᨠᩩᨲ᩠ᨲᩥᩉᩱ᩠ᨿᨠ᩠ᩅᩣ᩠ᨦ ᨣᩴᨲᩮᩢ᩠ᨾᨸᩱᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩮᩨᩋ᩠ᨦᩃᩬᨯᩓᨣᩮᩨᩋ᩠ᨦᨸᩩᩉᩯ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣ᪕ᩁᩭᨺᩩᨦᨶᩢ᩠ᨶᩏᨸᩱ᩠ᨿᨲᩫ᩠ᩅ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣ
ยังเจ้าภิกขุบ่ให้อึดอยากลำบากด้วยเคื่องนุ่งเคื่องทรง ให้เต็มไปด้วยที่อยู่ที่นอน กับทั้งน้ำบอรโภก กับทั้งซถานหอกุตติไหย่กว้าง ก็เต็มไปด้วยเคื่องลอดแลเคื่องปูแห่งเจ้าภิกขุทั้งหลาย ๕ ร้อยฝูงนั้นอุไปยตัว คั้นว่า

ᩋᩬᩢᩅᩢᩔᩣᩃᩯ᩠ᩅ ᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᨣᩴᩃᩬᨯᨻᩣᩢᨯᩮᩥ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩥ ᩈ᩠ᩅᩁᩅᩣᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᨹᩩᨾᩥᨦᩮᩥ᩠ᨶᨣᩣᩴᨶᩢ᩠ᨷᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨠᩰ᩠ᨯᩈᩰ᩠ᨯᨳᩣᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᩉᩢ᩠ᨶᩃᩯ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨯᩮᩥᩋ᩠ᨶ ᪑᪒ ᩋᩢ᩠ᨶᨾᩣᩁᩬᨯᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᩉᩯ᩠ᨦᩁᨯᩩᩉ᩠ᨶᩣ᩠ᩅᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨽᩥ
ออกวัสสาแล้ว เจ้าภิกขุทั้งหลายก็ลอดพากเดินหนี ส่วนว่าเสตถีผู้มีเงินคำนับด้วยโกดโสดถาเสตถีหั้นแล ในเมื่อเดือน ๑๒ อันมารอดมาเถิงแห่งรดูหนาวดังนั้นเจ้าภิ-

ᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᨶᩱᩅᩢᨯᩉᩯ᩠ᨦᨾᩮᩥ᩠ᨦᨠᩮᩫᩣᩈᩴᩣᨻᩥᩋᩢ᩠ᨶᨾᩥ ᪕ ᩁᩭᨲᩫ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶ ᨧᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᨣᩴᨾᩢ᩠ᨠᨣᩱᩀᩣᩢᨡᩮᩫᩣᨠᩴᩣᩓ᩠ᩅᨧᩥ᩠ᨦᨧᩣᨩᩮᩥ᩠ᨶᨠᩢ᩠ᨶᨸᩱ᩠ᨾᩣ ᩅᩣᩋᩣᩅᩩᩈᩮᩣᨯᩪᩕᩣᨩᩣ᩠ᩅᩁᩮᩫᩣᨧᩮᩫᩣᨴᩕᩢ᩠ᨦᨺᩩᨦᨻᩱᨶᩭᩉ᩠ᨾᩪᩈᩮ᩠ᨶᩣᨾᩢ᩠ᨠᨣᩱᩀᩣᩢ
กขุทั้งหลายในวัดแห่งเมืองเกาสำพีอันมี ๕ ร้อยตนนั้น เจ้าทั้งหลายก็มักใค่อยากเข้ากำแล้วจิงจาเชินกันไปมา ว่าอาวุโสดูราชาวเราเจ้าทรงฝูงไพ่น้อยหมู่เสนามักใค่อยาก

ᨼᩢ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᨴᨾ᩠ᨾᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩩᨾᩉᩮᩫ᩠ᨶᩣᨾᩉᩮᩈᩥᨧᩱᨿᩥ᩠ᨶᨯᩥᨻᩴᩣᨻᩬᨾᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩯ ᨽᨣᩅᩣ ᩁᩥᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᨧᩮᩫᩣᨴᩮᩔ᩠ᨶᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᩋᩣᨠᩣ᩠ᨶᩅᩣᩈᩩᨶᨶ᩠ᨲᩣᨽᩮᩣᨶ᩠ᨲᩮᩣᨿᩮᨴᩮᩅᩣ ᨯᩕᩩᩣᨴᩮᩅᨯᩣᨧᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ
ฟังยังทัมมเทสสนาแห่งพระพุทธเจ้าก็ข้าแล กับทั้งนั้นหนุ่มเหน้ามเหสีไจยินดีพ่ำพ้อมก็ข้าแล ภควา อันว่าพระพุทธเจ้าเทสสนาเป็นอากานว่าสุนนฺตาโภนฺโตเยเทวา ดูราเทวดาเจ้าทั้งหลาย

ᩋᩢ᩠ᨸᨻᩣ᩠ᨶᨸᩴᩉᩱᨣᩫ᩠ᨶᨹᩩᨯᩱᩏᨸ᩠ᨸᩮᨳᩣᩢᨩᩭᨹᩩᨡᩣᨧᩢᨣᩫ᩠ᨶᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᨾᩮᩨᩬᨶᩢ᩠ᨶᩏᨸ᩠ᨷᩈᩫ᩠ᨠᨴ᩠ᩃᩢᩣᨺᩪᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨩᩣ᩠ᩅᨾᩮᩥ᩠ᨦᨠᩮᩣᩈᩣᩴᨻᩥᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᨡᩮᩫᩣᨣᩴᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨳᩭᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᩉᩣᩢᩅᩣᨧᩢᨴᩣᩴᨹᩩᨯ᩠ᨿᩅᩉᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶ ᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨣᩴᨾᩦᩉ᩠ᨶᩣᩋᩢ᩠ᨶᨲᩣᩴᩓ
อับพานบ่ให้คนผู้ใดอุปเปถากช่อยผู้ข้าจักคนก็ข้าแล เมื่อนั้นอุปปสกทั้งหลายฝูงเป็นชาวเมืองโกสำพีทั้งหลาย เขาก็ได้ยินถ้อยคำแห่งเสตถิหากว่าจักทำผู้เดียวแห่งตนว่า ดังนั้นเข้าก็มีหน้าอันต่ำแล

ᨶᩭᨧᩱ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨡᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᨯᩱᨻᩬᨾᨠᩢ᩠ᨶᩉᩖᩩᨯᨩᩩᨯᩈᩮᩢ᩠ᨿᨿᩢ᩠ᨦᨠᩣ᩠ᨶᩉᩯ᩠ᨦᨩᩥ᩠ᨶᨶᩅᩣ᩠ᨶᨠᩯᨡᩮᩫᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᩃᩯ᩠ᩅ ᨡᩮᩫᩣᨣᩴᩃ᩠ᩅᩣᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᩃᩩᩢᨧᩣᩢᨻᩣᩢᩃᩯ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩥᨾᩮᩥᩬᩈᩫ᩠ᨦ ᪧ ᨳᩮᩥ᩠ᨦᩁᩮᩨᩋ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨴᩩᩢᨠᩣᩴᨴᩩᩢᨠᩣ᩠ᨿᩉᩢ᩠ᨶᩃᩯ
น้อยใจ เหดว่าเขาทั้งหลายได้พ้อมกันหลุดชุดเสียยังกานแห่งชินนวานแก่เขาดังนั้นแล้วเขาก็ลวาเอากันลุกจากพากแล่นหนีเมือส่ง ๆ เถิงเรือนตนทั้งทุกกำทุกกายหั้นแล

ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᩃᩩᩢᨾᩮᩢ᩠ᨿᩉᩯ᩠ᨦᨡᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨳᩣ᩠ᨾᨿᩢ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨡᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩉᩮᩢ᩠ᨯᨠᩣ᩠ᨶᩈᩥ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨦᨯᩱ ᨹᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨡᩮᩫᩣᨣᩴᩉᩣᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᨧᩢᩅᩮᩫᩣᨸᩴᨯᩱ ᩉᩮᩢᨯᩅᩣᨠᩫ᩠ᩅᩋᩣᩴᨶᩣᨯᩉᩯ᩠ᨦᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᨲᩩᩉᩥᨻᩣᩅᩮᨶᨣᩴᩀᩩᨸᩴᩣᩢᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶ
ในเมื่อลูกเมียแห่งเขาหากถามยังผัวแห่งเขาทั้งหลายด้วยเหดกานสิ่งสังใด ผัวแห่งเขาก็หาคำอันจักเว้าบ่ได้ เหดว่ากัวอำนาดแห่งเสตถีตุหิพาเวนก็อยู่บ่ปากคำอัน

ᨯᩱᨲᩴᨾᩮᩢ᩠ᨿᩉᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᩃᩩᩢᨾᩮᩢ᩠ᨿᩉᩯ᩠ᨦᨡᩮᩫᩣᨺᩩᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨩᩣ᩠ᩅᨸᩣ᩠ᨶᨾᩮᩥᩋ᩠ᨦᨺᩩᨦᨶᩢ᩠ᨶᨣᩴᨳᩣ᩠ᨾᨹᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨡᩮᩫᩣᨴᩩᩢᨣᩫ᩠ᨶ ᪧ ᨣᩴᨸᩣᩢᨸᩴᨯᩱᨧᩢᨣᩫ᩠ᨶᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨿᩫ᩠ᨯᨲᩥᨿᩢ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅᨾᩮᩢ᩠ᨿᨳᩣ᩠ᨾᨠᩢ᩠ᨶᩅᩱᨩᩢ᩠ᨶᨠᩬᩁ ᩈᨲ᩠ᨲᨾᩮᨴᩥᩅᩈᩮ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᩅᩢ᩠ᨶᩃᩩᩁᩁᩩᨦᨩᩮᩫᩣ
ใดต่อเมียแห่งตนหั้นแล ในเมื่อลูกเมียแห่งเขาฝูงเป็นชาวบ้านเมืองฝูงนั้นก็ถามผัวแห่งเขาทุกคน ๆ ก็ปากบ่ได้จักคนหั้นแล ยดติยังผัวเมียถามกันไว้ซั้นก่อน สตฺตเมทิวเส ในเมื่อวันลุนรุ่งเช้า

manuscript #05

ᩋᩢ᩠ᨶᨾᩣᩁᩬᨯᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᩉᩣᩢᨯᩱᨲᩥᨣᩬᩙᩁᩬᨦᨸᩣ᩠ᩅᨠᩯᩉ᩠ᨾᩩᨸᩕᩁᩥᩅᩣ᩠ᨶᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩫ᩠ᨶᩁᩮᩥᩋ᩠ᨶᩉᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᨧᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨸᩱᨸᩩᩢᨲᩩᨸᩉᩱᨠᩯᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨺᩩᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᩃᩩᩢᨠᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᩁᩮᩫᩣᩉᩱᨯᩱ᪕ᩁᩭᩉᩖᩢᨦᩉᩱᩃᩫ᩠ᩅᨶᩱᩅᩢ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ
อันมารอดมาเถิงดังนั้น เสตถีหากได้ตีค้องร้องป่าวแก่หมู่ประริวานฝูงหมู่เป็นคนเรือนแห่งตนว่า ดูราเจ้าทั้งหลายเอย ไปบุกตูบให้แก่เจ้าภิกขุฝูงเว้นลูกกำแห่งเราให้ได้ ๕ ร้อยหลังให้แล้วในวันนั้นเทิน

ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨣᩫ᩠ᨶᩁᩮᩥᩋ᩠ᨶᨴ᩠ᩃᩢᩣᨡᩮᩫᩣᨣᩴᩁᩥ᩠ᨸᨼᩣ᩠ᩅᨸᩱᨸᩩᩢᨲᩩᨸᩉᩱᨠᩯᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᨸᩴᩁᨸ᩠ᩅᩁᩃᩫ᩠ᩅ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨯᩱᨿᩢ᩠ᨦᨲᩩᨸᩃᩫ᩠ᩅ ᨧᩥ᩠ᨦᨻᩬᨾᨠᩢ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨸᩕᩁᩥᩅᩣ᩠ᨯᩈᩣᨠᩣᩴᨶᩱᩅᩢ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩢᩁᨴ᩠ᨿᩙᨲᩣ᩠ᨾᩈᨧ᩠ᨵᩡ
เมื่อนั้นบั้นคนเรือนทั้งหลายเขาก็รีบฟ้าวไปบุกตูบให้แก่เจ้าภิกขุทั้งหลายบอรบวนแล้ว คั้นว่าเจ้าภิกขุได้ยังตูบแล้ว จิงพ้อมกันเข้าประริวาดสากำในวันนั้นเป็นอันหมั้นเที่ยงตามสัจจะ

ᩉᩯ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᩉᩣᩢᨠᩖᩣ᩠ᩅᨾᩣᨲᩯᨸᩢᨯᨳᩫ᩠ᨾᩉᩢ᩠ᨶᩃᩯ ᩈᨲ᩠ᨳᩴ ᩁᩥᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᨣᩴᨾᩣᩏᨸ᩠ᨷᨳᩣᩢᩉᩯ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩ᪕ᩁᩭᨴᩢ᩠ᨦᨾ᩠ᩅᩁᨾᩮᩥᩬᨡᩮᩫᩣᨸᩕᩁᩥᩅᩣ᩠ᨯᩈᩣᨠᩣᩴᩃᩯᨸᨶᩔᩣᨠᩣᩴᨲᩣ᩠ᨸᨲᩴᨴᩮᩫᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᩋᩢ᩠ᨷ
แห่งเจ้าภิกขุทั้งหลายหากกล่าวมาแต่ปัดถมหั้นแล สัตถํ อันว่าเสตถีก็มาอุปปถากแห่งเจ้าภิกขุ ๕ ร้อยทั้งมวนเมื่อเข้าประริวาดสากำแลปนัสสากำตาบต่อเท่าเถิงอับ-

ᨻᩣ᩠ᨶᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᩋᩢ᩠ᨷᨻᩣ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᨣᩴᨻᩬᨾᨠᩢ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨯᨩᩡᨧᩢ᩠ᨶᨾᩣᩢᨶᩢ᩠ᨠᩃᩯ ᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴᩢ᩠ᨦᨾ᩠ᩅᩁᨺᩩᨦᨶᩢ᩠ᨶᨧᩥ᩠ᨦᨳᩣ᩠ᨾᨿᩢ᩠ᨦᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᩏᨸ᩠ᨷᩈᩫ᩠ᨠᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨴᩣ᩠ᨶᩉᩣᩢᨾᩣᩏᨸ᩠ᨷᨳᩣᩢᨿᩢ᩠ᨦᩁᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ᪕ᩁᩭᨲᩫ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢᨯᨴᩮᨲ᩠ᩅᩣᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩣᩴᨸᩕ
พานคั้นว่าอับพานแล้วเจ้าภิกขุทั้งหลายก็พ้อมกันอัดซะจันมากนักแล เจ้าภิกขุทั้งมวนฝูงนั้นจิงถามยังเสตถีว่า ดูราอุปปสกในเมื่อท่านหากมาอุปปถากยังเราทั้งหลาย ๕ ร้อยตนดังนั้นปัดเทตวาด้วยคำประ-

ᨳ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨴᩣ᩠ᨶᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨠᩣ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᨯᩱᨶᩥᨧᩣ ᩈᨲ᩠ᨳᩴ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨣᩴᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨿᩢ᩠ᨦᨳᩭᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᩉᩣᩢᨳᩣ᩠ᨶᩉᩣᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᩉᩫ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᨧᩫ᩠ᨦᩉᩱ᩠ᩅᨩᩮᩥ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᩅᩣ ᨽᨶ᩠ᨲᩮ ᨡᩣᩉᩱ᩠ᩅᨧᩮᩫᩣᨠᩩ ᨸᨲ᩠ᨳᩣᨶᩴ ᩁᩥᩅᩣᨣᩣᩴᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣᨿᩢ᩠ᨦᨧᩢᨯᩱᩢ᩠ᨦ
ถนาแห่งทานด้วยกานอันใดนี้จา สตถํ เมื่อนั้นบั้นเสตถี สุตวา ก็ได้ยินยังถ้อยคำแห่งเจ้าภิกขุหากถานหาประถนาแห่งหนดังนั้น เสตถีจงไหว้เซิ่งเจ้าภิกขุทั้งหลายว่า ภนฺเต ข้าไหว้เจ้ากู ปตฺถานํ อันว่าว่าคำประถนาแห่งผู้ข้ายังจักได้ดัง

ᨣᩣᩴᨾᩢ̤ᨸᩴᨧᩣ ᨹᩩᨡᩣᨧᩢᨠᩖᩣ᩠ᩅᨩᩮᩥ᩠ᨦᨣᩣᩴᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣᨠᩬᩁᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᩋᩢ᩠ᨶ ᪑ ᨡᩴᩉᩱᨹᩩᨡᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᨾᩦᩣᩋᩣ᩠ᨿᩩᨯᩱ ᪙ ᨠᩰ᩠ᩈᨸᩥᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶ ᨣᩢ᩠ᨶᨯᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᩈᩢ᩠ᨯᨣᩴᩉᩱᨿᩨ᩠ᨶᨯᩱ ᪙ ᨠᩰ᩠ᩈᨸᩥ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩤᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨴᩮᩅᨯᩣ
คำมักบ่จา ผู้ข้าจักกล่าวเซิ่งคำประถนาแห่งผู้ข้าก่อนเท่าวันเทิน อัน ๑ ขอให้ผู้ข้าเกิดมามีอายุได้ ๙ โกสปีในเมืองคน คั้นได้เกิดเป็นสัดก็ให้ยืนได้ ๙ โกสปี คั้นว่าเกิดเป็นเทวบุดเทวดา

ᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᨻᩫ᩠ᨾᨻᩕ᩠ᨿᩣᨣᩩᨯᨻᩕ᩠ᨿᩣᨶᩣᩢᩈᩥ᩠ᨦᨯᩱᩈᩥ᩠ᨦ ᪑ ᨠ᩠ᨯᩥ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩫ᩠ᨶᨡᩴᩉᩱᨹᩩᨡᩣᩉ᩠ᨾᩢᩁᨿᩧ᩠ᨶᨯᩱᨠᩰ᩠ᨯᨸᩥᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩣᩴᨾᩢ̤ᨣᩣᩴᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣᨸᩢᨯᨶᩥᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᩋᩢ᩠ᨶ ᪑ ᨡᩋᩙᨴ᩠ᨿᩅᨴᩢ᩠ᨦᨾ᩠ᩅᩁᨡᩴᩉᩱ
พระยาอินพระยาพมพระยาคุดพระยานากสิ่งใดสิ่ง ๑ ก็ดี แม้นว่าเกิดเป็นคนขอให้ผู้ข้าหมั้นยืนได้โกดปีในเมืองคน ด้วยคำมักคำประถนาแห่งผู้ข้าบัดนี้เท่าวันเทิน อัน ๑ ของเทียวทั้งมวนขอให้

ᨠᩮᩥ᩠ᨯᨾᩣᨻᩬᨾᨹᩩᨡᩣᨲᩣ᩠ᨸᨲᩴᨴᩮᩫᩣᨳᩥ᩠ᨦᩉ᩠ᨾᩫᨯᨩᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩤᩃᩩᩢᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᨾᩣᨡᩴᩉᩱᨸᩕᩈᩮᩥ᩠ᨯᨠᩫ᩠ᩅᩃᩩᩢᨴᩣ᩠ᨶᨹᩩᩋᩨ᩠ᨶ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨾᩮᩢ᩠ᨿᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᨾᩣᨡᩴᩉᩱᨸᩕᩈᩮᩥ᩠ᨯᨠᩫ᩠ᩅᨾᩮᩢ᩠ᨿᨴᩣ᩠ᨶᨹᩩᩋᩨ᩠ᨶᨯ᩠ᩅ᩠ᨿ ᨣᩣᩴᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣᨾᩦᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᨴᩯᨯᩦᩉᩖᩦᩃᩫ
เกิดมาพ้อมผู้ข้าตาบต่อเท่าถึงหมดชั่วแห่งผู้ข้า แม้นว่าลูกแห่งผู้ข้าเกิดมาขอให้ประเสิดกั่วลูกท่านผู้อื่น แม้นว่าเมียแห่งผู้ข้าเกิดมาขอให้ประเสิดกั่วเมียท่านผู้อื่นด้วย คำประถนาแห่งผู้ข้ามีดังนั้นแท้ดีหลีแล

manuscript #06

ᨶᨠᩥᩃᩥᨿᩣᩅᩣᨿᩢ᩠ᨦᨸᩫ᩠ᨯᩋᩢ᩠ᨶᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᩉᩣᩢᨯᩱᩏᨸ᩠ᨸᨳᩣᩢᨿᩢ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨽᩥᨠ᩠ᨡᩩ᪕ᩁᩭᨻᩴᩃᩫ᩠ᩅᨴᩴᨶᩥᩃᩫ ᨲᩡᨲᩮᩣᨸᨮᩣᨿ᩠ᨿᩡ ᨲᩢ᩠ᨦᩌᩯ᩠ᨠᨲᩯᨶᩦᨾᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩣ ᩈᨲ᩠ᨳᩴ ᩁᩥᩈᩮᨲ᩠ᨳᩥᨹᩩᨶᩢ᩠ᨶᨣᩴᨿᩧ᩠ᨶᨯᩱ ᪙ ᨠᩰ᩠ᨯᨯᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨾᩢ᩠ᨠᨣᩣᩴᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᩉᩯ᩠ᨦᨴᩣ᩠ᨶᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨦᨣᩫ᩠ᨶᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩫᨶᩣ
นกิลิยาว่ายังบดอันเสตถีหากได้อุปปถากยังเจ้าภิกขุ ๕ ร้อยพอแล้วท่อนี้แล ตะโตปฐายฺยะ ตั้งแฮกแต่นี้เมื่อหน้า สตฺถํ อันว่าเสตถีผู้นั้นก็ยืนได้ ๙ โกดดังคำมักคำประถนาแห่งท่านในเมืองคนแท้ดีหลีแลนา

ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨧᩩᨲᩥᨲᩣ᩠ᨿᨣᩴᨯᩱᨸᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨾᩮᩥᩬᨦᨼᩣᩈ᩠ᩅᩢᩁᨴᩮᩅᩃᩰ᩠ᨠᨩᩨ᩠ᩅᩣᨲᩣᩅᨲᩥᩴᩈᩣᨣᩴᩉᩣᩢᨿᩧ᩠ᨶᨯᩱ ᪙ ᨠᩰ᩠ᩈᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁ ᨸᩮᩢ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨴᩣ᩠ᨶᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᨶᩢ᩠ᨶᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩫ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕᩃᩥᨿᩣᨾᩮᩢ᩠ᨿᨾᩥ᩠ᨦᨣᩴᨯᩱᨸᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨻᩬᨾᨠᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶ
คั้นว่าจุติตายก็ได้ไปเกิดเมืองฟ้าสวันเทวโลกชื่อว่าตาวติงสาก็หากยืนได้ ๙ โกสในเมืองสวัน เป็นดังคำแห่งทานประถนานั้นแท้ดีหลีแล เมื่อนั้นพระลิยาเมียมิ่งก็ได้ไปเกิดพ้อมกันเป็น

ᨶᩣᩙᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨾᩮᩢ᩠ᨿᩈᩩᨯᨠᩫ᩠ᩅᨶᩣᩙᨼᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᩃᩩᩢᩉᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶᨣᩴᨯᩱᨸᩱᨠᩮᩥᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᩃᩩᩢᨠᩯ᩠ᩅᨯᩢ᩠ᨦᨠᩮᩫᩣ ᨣᩴᨯᩱᩀᩩᩈᩣᩴᨸᩣ᩠ᨿᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨶᩥᩈᩱᨠ᩠ᨴᩣᩴᨸ᩠ᩅᩁᨾᩣᨲᩯᨠᩮᩫᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨺᩩᨦᨡᩭᨩᩱᩋᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨯᩱᨸᩬᩢᨸᩱᨸᩩᩢᨲᩩᨸᩃᩫᨸᩯ᩠ᨦᨹᩣ᩠ᨾᨯ᩠ᩅ᩠ᨿ
นางเทวบุดเป็นเมียสุดกั่วนางฟ้าทั้งหลาย ส่วนดังลูกแห่งตนก็ได้ไปเกิดเป็นลูกแก้วดังเก่า ก็ได้อยู่สำบายด้วยนิไสกะทำบวนมาแต่เก่า ส่วนดังฝูงข้อยไซ้อันเจ้าได้บอกไปบุกตูบแลแปงผามด้วย

ᨸᩩᩁᨳᩣ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᨸᩕᩈᩮᩢ᩠ᨯᩈᩥ᩠ᨶᨯᩱᨡᩧ᩠ᨶᨾᩮᩥᩬᨠᩮᩥ᩠ᨯᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨲᩣᩅᩣᨲᩥᩴᩈᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨺᩩᨦᩈᩮᨶᩣᨡᩭᨩᩱᩋᩢ᩠ᨶᨠᩮᩥ᩠ᨯᨻᩬᨾᨶᩱᩅᩥᨾᩣ᩠ᨶᨣᩣᩴ ᨹᩱᩩᨠ᩠ᨴᩣᩴᨸᩩᩁᨿᩢ᩠ᨦᩃᩮᩫᩣᨶᩣᩴᨸᩱᨲᩬᨸ ᨹᩱᩩᨠ᩠ᨴᩣᩴᨸᩴᨩᩬᨸᨸᩣ᩠ᨿᨧᩢᩃᩮᩫᩣᨶᩣᩴᨳᩮᩥ᩠ᨦ ᩉᩮ᩠ᨾᩦᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩉᩣᩢᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣᩉᩮᩥ᩠ᨦᨸᩴᩉᩬᩁᨯᩱᨧᩯ᩠ᨦᨴ᩠ᨿᩅ
บุนถานอันประเสิดสิ้นได้ขึ้นเมือเกิดในเมืองตาวาติงสา ส่วนดังฝูงเสนาข้อยไซ้อันเกิดพ้อมในวิมานคำ ไผผู้กะทำบุนยังเลานำไปตอบ ไผผู้กะทำบ่ชอบบายจักเลานำเถิง เหมือนดังพระยาอินหากประถนาเหิงบ่ห่อนได้แจ้งเทียว

ᩉᩮ᩠ᨾᩥᩁᨯᩢ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨠ᩠ᨿᩅᨡᩮᩫᩣᩃᩫᨯᩣᩴᨶᩣᨿᩣ᩠ᨾᨾᩮᩥᩬᨺᩫ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨠᨾᩣᩌᩣᩴᩉ᩠ᨶᩴᨠᩣ ᩉᩮ᩠ᨾᩥᩁᨯᩢ᩠ᨶᩋᩥ᩠ᨶᩀᩩᨼᩣᩈᩣ᩠ᨦᩈᩫ᩠ᨾᨻᩣ᩠ᨶᨯᩩᩉᩮᩥ᩠ᨦᨶᩣ᩠ᨶ ᨧᩥ᩠ᨦᨾᩣᩌᩬᨯᨾᩮᩢ᩠ᨿᨿᩬᨯᨠᩯ᩠ᩅ ᩈᩥ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨶᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩅᩈᩮᨶᩣᨴ᩠ᨿᩅᨩᩡᨲᩩᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩩᨶᩱᩈ᩠ᩅᩢᩁ ᨾᩮᩨᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨻᩕᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨾᩋᩥ᩠ᨶᨴᩥᩁᩣ᩠ᩈᩀᩩᨶᩱᨹᩣᩈᩣ᩠ᩈᩈᩥᩈ᩠ᩅᩢᨯᩈᩥ᩠ᨯ
เหมือนดังคนเกี่ยวเข้าแลดำนายามเมื่อฝนตกมาฮำหน่อก้า เหมือนดังอินอยู่ฟ้าส้างสมพานดุเหิงนาน จิงมาฮอดเมียยอดแก้ว สิ่งสันด้วยวเสนาเที่ยวชะตุเกิดเป็นหมู่ในสวัน เมื่อนั้นบั้นพระจอมทันอินทิราสอยู่ในผาสาสสีสวัดสิด

ᨣ᩠ᨾᩥᩃᩫ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩈᩩᩁᩥᨶ᩠ᨴᩣᨧᩮᩫᩣᨼᩣ ᨾᩥᨡᩭᨡᩣᩉᩮᩖᩥᩋᩉᩖᩣ᩠ᨿ ᨴᩣᩴᩈᩣᩴᨸᩣ᩠ᨿᨸᩴᨯᩱᨿᩣᩢ ᨡᩋᩙᨴ᩠ᨿᩅᨾᩣᩢᨶᩮᩥᩋ᩠ᨦᨶᩋᩙ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨧᩮᩫᩣᨹᩥᨸᩋᩙᨠ᩠ᨴᩣᩴᨸᩩᩁᨸᩴᨡᩣ᩠ᨯᨣᩯ᩠ᩅ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᩉ᩠ᨾᩫᨯᨸᩣ᩠ᨸᩃᩯ᩠ᩅᨧᩥ᩠ᨦᨳᩮᩥ᩠ᨦᩈᩩᩢᨣᩴᨸᩴᨾᩥᨣᩣᩴ
ก็มีแล ส่วนดังพระยาอินสุรินทาเจ้าฟ้า มีข้อยข้าเหลือหลาย ทำสำบายบ่ได้ยาก ของเทียวมากเนืองนอง เหดว่าเจ้าผีป้องกะทำบุนบ่ขาดแค้ว คั้นว่าหมดบาปแล้วจิงเถิงสุกก็บ่มีคำ

ᨧᩢᩈᩥ᩠ᨦ ᨧᩥ᩠ᨦᩅᩣᨯᩱᨻᩮᩥᩬᨧᩱᩫ᩠ᨦᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᨯᩱᩃᩩᩢᨾᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᩏᩫᩣᨠᩣᩴᩃᩮᩥ᩠ᨯᩉᩣᩢᨯᩩᨶᩣ᩠ᨶ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᩈᩩᩢᩀᩩᩅᩥᨾᩣ᩠ᨶᨸᩴᨯᩱᩌᩱᨯᩱ ᪙ ᨠᩰ᩠ᩈᨯᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨸᩕᨳ᩠ᨶᩣ ᨴᩩᩢᨸᩩᨲ᩠ᨲᩣᩃᩫᨾᩮᩢ᩠ᨿᨾᩥ᩠ᨦᨣᩴᨸᩴᩉᩮᩢ᩠ᨶᨴᩢ᩠ᨦᩈᩥ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨶᨯᩱ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᩋᩣᩈᩱᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁᩈᩩᩢᨿᩥ᩠ᨦ
จักสิ่ง จิงว่าได้เพื่อจงใจบ่อาสจักได้ลูกมาเกิดเอากำเลิดหากดุนาน เจ้าก็สุกอยู่วิมานบ่ได้ไฮ้ได้ ๙ โกสดังคำประถนา ทุกปุตตาแลเมียมิ่งก็บ่เห็นทั้งสิ่งสันใด เจ้าก็อาไสในเมืองสวันสุกยิ่ง

ᨧᩥ᩠ᨦᨾᩥᨣᩣᩴᩋᩣᩴᩁᩉᩫ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨾᩅᩢ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨯᩩᨲᩣ᩠ᨦᩉᩮᩥᩬᩋᩋᩢᩉ᩠ᩅᩣ᩠ᨦᨸᩫ᩠ᩅᨡᩫ᩠ᨶ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨣᩧᨯᩀᩣᩢᨸᩱᨴ᩠ᨿᩅᩉᩮᩖᩢᩁᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨻᩣ᩠ᨿᩃᩩᨾ ᨣᩴᨧᩥ᩠ᨦᨧᩣᨠᩢ᩠ᨷᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨶᩣᩙᩉ᩠ᨾᩩᨾᨶᩭᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨴᩮᩅᩥ ᨠᩢ᩠ᨷᨴᩢ᩠ᨦᨠᩡᩈᨲ᩠ᨲᩥᨹᩩᨣᩮᩫᩣᨶᩣ᩠ᨦᨶᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩁᩫᩔᩣᨣ᩠ᨳᩣᩅᩣᨯᩩᩕᩣᨶᩣ᩠ᨦ
จิงมีคำอำรหนตามวันตนดูต่างเหือออกหว่างบัวขน เจ้าก็คึดอยากไปเที่ยวเหล้นในเมืองคนพายลุ่ม ก็จิงจากับด้วยนางหนุ่มน้อยฝูงหมู่เทวีกับ ทั้งกะสัตติผู้เค้านางนาสเจ้าสุชชดาด้วยรสสาคาถาว่าดูรานาง

manuscript #07

ᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨻᩥᩁᩮᩥ᩠ᨿ ᨽᩣᨲᩴ ᩁᩥᩁᩮᩫᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨠᩥ᩠ᨶᪧᩈ᩠ᩅᩢᩁᨯᩱ ᪙ ᨠᩰ᩠ᩈ ᩉ᩠ᨶᩣᨩᩭᨩᩰ᩠ᨯᨯᩩᨦᩣ᩠ᨾ ᩁᩮᩫᩣᨣᩴᩈᩩᩢᩈᩣᩴᩁᩣ᩠ᨶᨶᩱᩈ᩠ᩅᩢᩁ ᨯᩩᩉᩮ᩠ᨶᩥ᩠ᨿᨸᩢ᩠ᨦᨠᩮᩥ᩠ᨯᩉᩮ᩠ᨶᩥ᩠ᨿᩉᩫ᩠ᩅᨧᩱ ᩁᩮᩫᩣᨧᩢᨸᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨴ᩠ᨿᩉᩮᩖᩢᩁᨠᩬᩁᨶᩮᩥ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩤᨸᩱᩉᩮᩖᩢᩁᩃᩫ᩠ᩅᨻᩥᨧᩢᨲᩣ᩠ᩅᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣ ᨣᩣᩴᩈᨬᩣᨾᩥᨴ᩠ᨿᩙᩉ᩠ᨾᩢᩁ
สุชชดาหน่อฟ้าพี่เอย ภาตํ อันว่าเราพระยาอินกิน ๆ สวันได้ ๙ โกส หน้าช้อยโชดดูงาม เราก็สุกสำรานในสวัน ดูเหนื่อยบังเกิดเหนื่อยหัวใจ เราจักไปเมืองคนเที่ยวเหล้นก่อนเนอ คั้นว่าไปเหล้นแล้วพี่จักต้าวคืนมาคำสัญญามีเที่ยงหมั้น

ᨧᩮᩫᩣᨧᩫ᩠ᨦᩋᩫ᩠ᨯᩀᩩᨳᩣ ᨩᩣ᩠ᨾᩉᩱᨻᩥᨯᩱᨲᩣ᩠ᩅᨣᩧ᩠ᨶᨾᩣᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᩁᩮᩫᩣᩃᩫᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨩᩩᨾ᩠ᨻᩩ ᨴ᩠ᨿᩅᨯᩱᩁᩭᨸᩥᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶ ᨹᩥ᩠ᩅᩣᨧᩢᨶᩢ᩠ᨸᨸᩮᩢ᩠ᨶᨸᩥᩉᩯ᩠ᨦᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁᩁᩮᩫᩣᨶᩥᨾᩣ᩠ᩈᨲᩣᩅᩣᨯᩱᨿᩣ᩠ᨾ᪑ᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᨶᩣᩉᨴᩣ
เจ้าจงอดอยู่ถ้า ชามให้พี่ได้ต้าวคืนมาเท่าวันเทิน ในเมื่อเราแลไปเถิงเมืองคนชุมพู เที่ยวได้ร้อยปีในเมืองคน ผิว่าจักนับเป็นปีแห่งเมืองสวันเรานี้มาสตาว่าได้ยาม ๑ แท้ดีหลีนาหทา

ᨶᩱᨠᩖᩡᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᨸᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨧᩣᨯᩬᨾᨹᩫ᩠ᩅᨲᩫ᩠ᨶᩅᩣᨧᩢᨸᩱᨩᩩᨾ᩠ᨻᩩᨾᩮᩥ᩠ᨦᩃᩩᨾᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨶᩣ᩠ᨦᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩈᩥᩅᩱᨲᩫ᩠ᨠᨧᩱᨸᩣ᩠ᨶᨼᩣᨹᩣ ᩉᩮᩥᩬᩉᩱᩖᨣ᩠ᩃᩩ᩠ᨿᩋᩣ᩠ᨷᩉ᩠ᨶᩣᨯᩢ᩠ᨦᨺᩫ᩠ᨶᩌᩣᩴ ᨶᩣ᩠ᨦᨣᩴᨾᩨᨲᩥᩋᩫ᩠ᨠᨣᩢ᩠ᨦᨣᩯ᩠ᨶᩃᩮᩥ᩠ᨸᩃᩮᩫᩣᩉᩯ᩠ᨶᩁᩉᩫ᩠ᩅᨧᩱ
ในกละเมื่อนั้น บั้นนาสน้อยสุชชดาจาดอมผัวตนว่าจักไปชุมพูเมืองลุ่มว่าดังนั้น นางนาสน้อยสีไวตกใจปานฟ้าผ่า เหือไหลคลุยอาบหน้าดังฝนฮำ นางก็มือตีอกคั่งแค้นเลิบเลาแหน้นหัวใจ

ᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᨴᩩᩁᩈᩣᩈᩱᨠᩫ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᨸᩃᩫ᩠ᨦᨴᩯ᩠ᨸᨴᩱᨴ᩠ᨿ᩠ᨾᨲᩥ᩠ᨶ ᨡᩧ᩠ᨶᨧᩱᨲᩫ᩠ᨶᩃᩣᩴᨸᩣᩢ ᨹᩩᨡᩣᨡᩴᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᨸᩣ᩠ᩈᨲᩥ᩠ᨶᨻᩕᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶ ᩅᩣᨡᩣᩉᩱ᩠ᩅᨻᩕᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨹᩩᨡᩣᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨸᩴᨩᩱᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨾᩋᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨠᩩᨧᩢᩅᩮᩫᩣᨸᩩᩢᩋᩣ᩠ᩈ ᩀᩣᨯᩱᩅᩮᩫᩣᨸᩕᩉ᩠ᨾᩣ᩠ᩈᨸᩮᩢ᩠ᨶᨠᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶ᪑ ᨡᩬᩙᨣᩡ
นางจิงทูนสาใส่ก้มขาบลงแทบไท้เทียมตีน ขืนใจตนลำบาก ผู้ข้าขอขาบไหว้บาสตีนพระจอมทัน ว่าข้าไหว้พระผัวขวันหน่อฟ้าผู้ข้าเอย บ่ใช่เป็นความอันเจ้ากูจักเว้าบุกอาส อย่าได้เว้าประหมาสเป็นกำอัน ๑ ของคะ-

ᩃᩣᩴᩉᩮᩢᨯᨯᩱᨻᩕᨽᩩᨴᩬᩁᨧᩫ᩠ᨦᩏᩫᩣᨾᩣᩅᩮᩫᩣᨧᩣ᩠ᨿᨲᩥᨩᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩴᨴᩣ᩠ᩅ ᨣᩣᩴᨸᩣᩢᩅᩯ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩢᨠ ᨧᩮᩫᩣᨠᩩᨴᩕ᩠ᨦᨩᩈ᩠ᩅᩢᩁᩀᩣᩢᨯᩱᨾᩢ᩠ᨠᩀᩋᩢᩉᩮᩖᩢᩁᨣᩴ᩠ᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨻ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩈᩩᩁᩥᨶ᩠ᨴᩣᨲᩫ᩠ᨶᩉᩱ᩠ᨿ ᨧᩣᨲᩴᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨴᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣ ᨽᨴ᩠ᨵᩮ ᨯᩩᩕᩣᨶᩣ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯᩱᨧᩫ᩠ᨦᩅᩮᩣᩌᩮᩫᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶ
ลำเหดใดพระภูทอนจงเอามาเว้าจา(ย)ติเชื้อหน่อท้าว คำปากแวนหนัก เจ้ากูทรงสวันอยากได้มักอยอกเหล้นก็ข้าเทิน เมื่อนั้นบั้นพยาอินสุรินทาตนใหย่ จาต่อนางนาสทสุชชดากล่าวว่า ภทฺเธ ดูรานางเหดใดจงเว้าเฮาพระยาอิน

ᨧᩥᩀᩋᩢᩉᩮᩖᩢᩁᨠᩯᨶᩣᩙᩈᩢ᩠ᨶᨶᩥᨧᩣ ᩌᩮᩫᩣᨧᩢᨡ᩠ᨿᩅᩃᩫ᩠ᨦᩅᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨸᩴᩀᩩᨩᩋ᩠ᨾᩉ᩠ᨶᩣᨯᩩᩙᨸᩱᩉᩮᩢ᩠ᨶ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᩈᩢ᩠ᨶᨯᩱᩁᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨧᩢᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣᩅᩮᩫᩣᨲᩣ᩠ᨶᨲᩴᨶᩣ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩩᨾᩉᩮ᩠ᨶᩫᩣᨾᩮᩥᩬᨻᩣ᩠ᨿᩃᩩᩁᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩯᨶᩣ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨦᨶᩣ᩠ᩈ
จิอยอกเหล้นแก่นางสันนี้จา เฮาจักเขียวลงไว้เมืองคนบ่อยู่ซอมหน้าดุงไปเห็น แม้นว่าเป็นสันได้เราหากจักคืนมาเว้าต้านต่อนางหนุ่มเหน้าเมื่อพายลุนแท้ดีหลีแลนา เมื่อนั้นนางนาส

ᨶᩭᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨧᩣᨣᩣᩴᨳᩣ᩠ᨾᩅᩮᩫᩣ ᨾ᩠ᩅᩁᨹᩩᨡᩣᨡᩴᩉ᩠ᨾᩣ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᩀᩣᩢᨯᩱᨯ᩠ᩅᩁᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱ ᨡᩴᨠᩯᨻᩕᩈᩥᩅᩱᨼᩢ᩠ᨦᨳᩥᨳ᩠ᩅᩁᨩᩣ᩠ᩈᨲᩥᨸᩮᩢ᩠ᨶᨴᩬᩁᨴᩣ᩠ᩅᨣᩣᩴᨸᩣᩢᩅᩯ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩢᨠ ᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᨧᩣᩅᩣᨧᩢᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨽᩩ᩠ᨿᨸᩩᩃᩥᨴᩣᩴᨡᩋᩙᨣᩡᩃᩣᩴ
น้อยสุชชดาจาคำถามเว้า มวนผู้ข้าขอหมานเข้าอยากได้ด่วนลงไป ขอแก่พระสีไวฟังถี่ถ้วนชาสติเป็นทอนท้าวคำปากแวนหนัก บ่อาสจักจาว่าจักลงไปเมืองภุยบุลีทำของคะลำ

ᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯᩱᨧᩮᩫᩣᨠᩩᨩᩥ᩠ᨦᩏᩫᩣᨾᩣᩅᩮᩫᩣᨡᩴᨠᩯᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᩀᩣᩢᨯᩱᨯ᩠ᩅᩁᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᩈᨠᩮ᩠ᨠᩣ ᩁᩥᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨿᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨶᩣᩙᩉᩣ᩠ᨾᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩋᩣᨠᩣ᩠ᨶᩅᩣᨸᩴᩉᩱᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨠᩰ᩠ᩈᨣ᩠ᨿᨯᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᩁᩣ᩠ᨿᨶᩣ᩠ᨿᨣᩣᩴᨡᩯ᩠ᨦᨠᩯᨶᩣ᩠ᨦ
เหดใดเจ้ากูชิงเอามาเว้าขอแก่พระบาสเจ้าอยากได้ด่วนลงไปเท่าวันเทิน สกฺโก อันว่าพระยาอิน สุตวา ได้ยินยังคำแห่งนางห้ามด้วยอาการบ่ให้ลงไปดังนั้น เจ้าก็โกสเคียดด้วยคำอันร้ายนายคำแข็งแก่นาง

manuscript #08

ᨩᩬᨾᨻᩯ᩠ᨦᨹᩩᨣᩮᩫᩣ ᨧᩮᩫᩣᨶᩥᨹᩫ᩠ᩅᩉᩮᩥ᩠ᨦᩉᩯ᩠ᨶ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩣᩴᩌᩯ᩠ᨦᨾᩢ᩠ᨠᩃᩰ᩠ᨷ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨠᨾ᩠ᨾᨸᩴᩁᩩᩃᩰᨠ᩠ᨠᩕ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨠᩣᨾᩩᨲᨶ᩠ᩉ ᨸᩴᩉᩱᨹᩫ᩠ᩅᨸᩕᨡᩣ᩠ᨶᨣᩣᩴᩋᩰ᩠ᨯ ᩋᩣ᩠ᨦᩅᩣᨲᩫ᩠ᩅᨯᩥ ᩍᨲ᩠ᨳᩥᨿᩮᩣ ᩁᩥᨿᩥ᩠ᨦᨹᩩᨯᩱ ᨸᩴᩉᩮᩢ᩠ᨶᨹᩫ᩠ᩅᨾᩣᨩᩫ᩠ᨾ ᩃᩫᨶᩭᩉ᩠ᨶᩣᨲᩣᩴᨣᩭᩉᩖᩢᨸᨲᩣᨩᩢ᩠ᨦ ᨧᩱᨸᩢᨯᩃᩢ᩠ᨦᨶᩬᨾᨶ᩠ᨿᩅ ᨸᩴᩉᩱᨹᩫ᩠ᩅᨸᩱ
ซอมแพงผู้เค้า เจ้านี้ผัวเหิงแหน ด้วยคำแฮงมักโลบ ด้วยกัมม์บ่รู้โลกกร์ ด้วยกามุตันหะ บ่ให้ผัวประขานคำโอด อ้างว่าตัวดี อิตฺถิโย อันว่ายิงผู้ใด บ่เห็นผัวมาชม แลน้อยหน้าต่ำคอยหลับตาซัง ใจบัดลั้งน้อมเหนี่ยว บ่ให้ผัวไป

ᨴ᩠ᨿᩅᨯᩱᨧᩢᨿᩣ᩠ᨾᩃᩫᨶᩣ ᨣᩣᩴᨸᩩᩁᩣ᩠ᨶᨻᩮᩥ᩠ᨶᩅᩣᩅᩱᩃᩮᩫᩣᨾᩣ ᨯᩱᨠᩯᨶᩣᩙᩉᩖᩣᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩯᨶᩣ ᩉᩮᩢ᩠ᨶᩅᩣᨯᩣ᩠ᩅᩈᩕᨯᩮᩢᨯᨡᩧ᩠ᨶᨾᩮᩥᩬᨸᩫ᩠ᨶᩅᩥᩅᩬᩁᪧ ᨡ᩠ᩅᩢᩁᩋᩬᩁᩌᩮᩥ᩠ᨿᨡᩭᩀᩣᩢᨻᩣᨶᩋᩙᨸᩱᩃᩣᩴᨶᩣᩴᨩᩡᩃᩫᨠ᩠ᩅᩣ᩠ᨦᨸᩮᩥ᩠ᨦᨣ᩠ᩅᩢᩁ
เที่ยวได้จักยามแลนา คำบุรานเพิ่นว่าไว้เล่ามา ได้แก่นางหล้าสุชชดาแท้ดีหลีแลนา เห็นว่าดาวสระเด็ดขึ้นเมือบนวิวอน ๆ ขวันอ่อนเอยข้อยอยากพาน้องไปลำน้ำชะแลกว้างเบิ่งควัน

ᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣᨴᩱᩋᩥ᩠ᨶᨲᩣᨲᩫ᩠ᨶᨸᩕᩈᩮᩥ᩠ᩈ ᨸᩢ᩠ᨦᨠᩮᩥ᩠ᨯᩁᩣ᩠ᨿᨠᩮᩣᨴᩣ ᨣᩴᨧᩥ᩠ᨦᨠᩖᩣ᩠ᩅᩁᩫᩔᩣᨣ᩠ᨳᩣᩅᩣᩈᩥᨯᩣᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨶᩋᩙᩉᩣ᩠ᨾᩃᩫ᩠ᩅᨡᩭᨣᩴᨸ᩠ᨾᩥᨼᩢ᩠ᨦᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨾᨧᩮᩫᩣᨧᩢᩀᩣ᩠ᩈᩃᩫᨶᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᩅᩣᨶᩣ᩠ᨦᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᩉᩮᩥᩬ
ว่าดังนั้น สักโกไท้อินตาตนประเสิส บังเกิดร้ายโกทา ก็จิงกล่าวรสสาคาถาว่าสีดาเอย หน่อฟ้าแม้นว่าน้องห้ามแล้วข้อยก็บ่มิฟังความเจ้าจักอยาสแลนา ส่วนว่านางสุชชดาหน่อฟ้าเหื่อ

ᩉᩱᩖᩋᩣ᩠ᨷᩉ᩠ᨶᩣᨶᩮᩥ᩠ᨶᩣ ᨶᩣ᩠ᨦᩋᩙᨴᩣᩴᨻ᩠ᨿ᩠ᨾᨸᩋᩙᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᩉᩣ᩠ᨾᨻᩯ᩠ᨦᨴᩱᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁ ᩈᩣ᩠ᨿᨧᩱᩌᩮᩥ᩠ᨿᨧᩮᩫᩣᨡᩭᨹᩩᨡᩣᩅᩮᩫᩣᨧᩭᪧ ᩈᩢ᩠ᨦᨸᩴᨠᩩᨶᩣᨣᩧᨯᩁᩬᨯᨲᩯᩁᩮᩫᩣᨻᩣᨠᩢ᩠ᨶᩈᩣ᩠ᨦᩈᨾ᩠ᨾᩣᨻᩩᩁᨯᩮ ᨣᩧ᩠ᩈᩁᩬᨯᨲᩯᩁᩮᩫᩣᨻᩣᨠᩢ᩠ᨶᨠᩮᩢ᩠ᨸᨯᩬᩢᨧᩣ᩠ᨶᨾᩣᨸᩩᨩᩣᨻᩕᨻᩩᨴ᩠ᨵᩁᩩᨸᨻᩩᩁ
ไหลอาบหน้าเนิ่นนาน นางน้องทำเพียมปองขาบไหว้ห้ามแพงไท้ผัวขวัน สายใจเอยเจ้าข้อยผู้ข้าเว้าจ้อย ๆ สังบ่กุนาคึดรอดแต่เราพากันส้างสัมมาพุ้นเด คึสรอดแต่เราพากันเก็บดอกจานมาบูชาพระพุทธรูบพุ้น

ᨯᩮ ᨣᩧ᩠ᩈᩁᩬᨯᨲᩢ᩠ᨦᨲᩯᨧᩮᩫᩣᨿᩬᨯᨴᩱᨶᩬᩁᨠᩬᨯᩀᩩᩉᩴᨣᩣᩴᨻᩩᩁᨯᩮ ᩋᩰᨶᩣᩴᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨿᩣ᩠ᨾᨾᩮᩥᩬᨼᩱᩉᩱ᩠ᨾᨸᩣᨺᩫ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨠᩌᩯ᩠ᨦᨣᩴᨿᩢ᩠ᨦᨾᩬᨯ ᨸᩢᨯᨶᩥᨧᩮᩫᩣᨿᩬᨯᨠᩯ᩠ᩅᩋᩭᨯᩱᨣᩴᨸᩴᨼᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨹᩩᨡᩣᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩯᨶᩣ ᩈᩮᩣᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣ ᩈ᩠ᩅᩢᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩈᩩᩁᩥᨶ᩠ᨴ
เด คึสรอดตั้งแต่เจ้ายอดไท้นอนกอดอยู่หอคำพุ้นเด โอนำพระอินเจ้าเอย ยามเมื่อไฟไหม้ป่าฝนตกแฮงก็ยังมอด บัดนี้เจ้ายอดแก้วออยใดก็บ่ฟังคำผู้ข้าแท้ดีหลีแลนา โสสกฺโก สวันดังพระยาอินสุรินท

ᨴᩥᨸᨲ᩠ᨲᩥᩃᩣ᩠ᩈᨣᩴᨸᩴᨼᩢ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨶᩱ᩠ᨿᩡᨣ᩠ᨳᩣᩅᩣ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩈᩩᩁᨶ᩠ᨴᨧᩮᩫᩣᨼᩣᨶᩭᨸᩴᨩᩣᨩᩧ᩠ᨶᨩᩫ᩠ᨾᨸᩣ᩠ᨶᩉᩮᩢᨯᩅᩣᨸᩩᩁᩈᩫᨾ᩠ᨻᩣ᩠ᨶᨯᩰ᩠ᨿᨯ᩠ᩅᩁᩅᩣᨧᩢᨸᩱᩉᩮᩖᩢᩁᨾ᩠ᩅᩁᨾᩮᩥ᩠ᨦ
ทิปัตติลาสก็บ่ฟังยังคำแห่งนางนาสน้อยสุชชดา ด้วยไนยะคาถาว่า เมื่อนั้นบั้นพระยาอินสุรนทเจ้าฟ้าน้อยบ่ช้าชื่นชมปานเหดว่าบุนสมพานโดยด่วนว่าจักไปเหล้นม่วนเมือง

ᨣᩫ᩠ᨶ ᨠᩣᩴᩅᩮᩢ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨾᩣᩁᩬᨯ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨴᩬᨯᨣᩋᩙᩉᩱ᩠ᨿᩃᩮᩥ᩠ᨷᨲᩥ ᩈ᩠ᨿᩙᨯᩢ᩠ᨦᨯᩥᨣᩧ᩠ᨶᨣᩮᩫᩣ ᨧᩮᩫᩣᨧᩥ᩠ᨦᩋᩮᩥ᩠ᨶᩁ᩠ᨿᨠᩉ᩠ᨾᩩᩈᩮ᩠ᨶᩣ ᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨶᩣᩙᨴᩮᩅᨯᩣ ᪓ ᩉ᩠ᨾᩧᩁ ᨻᩬᨾᨠᩢ᩠ᨶᨲᩧ᩠ᨶᩉᩱᩖᨾᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩣᨴᩩᩁᨠᩮᩢ᩠ᨯ ᨡᩴᨧᩯ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨯᨠᩯᨻᩕᨻᩩᨴᩋ᩠ᨶ
คน กำเวนตนมารอด เจ้าก็ทอดค้องไหย่เลิบตี เสียงดังดีคืนเค้า เจ้าจิงเอิ้นเรียกหมู่เสนา ฝูงหมู่นางเทวดา ๓ หมื่น พ้อมกันตื่นไหลมาวันทาทูนเกด ขอแจ้งเหดแก่พระพูทอน

ᨡᩴᨠᩯᩈᩣ᩠ᨿᩈ᩠ᨾᩋ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣ ᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨲᩥᨣᩬᩙᩉᩱ᩠ᨿᨠᩣ᩠ᨶᨯᩱᨣ᩠ᨡᩣᨧᩣ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨲᩣᨡᩱᨡᩣ᩠ᩅᨸᩬᩢ ᨧᩮᩫᩣᨧᩥ᩠ᨦᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣᨠᩩᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨧᩢᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᩉᩮᩖᩢᩁᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨩᩩᨾ᩠ᨻᩩᨴᩥ᩠ᨸ ᨯᩩᩕᩣᩈᩩᨴᩣ᩠ᨶᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᩁᩮᩫᩣᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᨼᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨹᩱᨧᩢᩀᩣ᩠ᩈ ᩈᩩᨧᩥ᩠ᨦ
ขอแก่สายสมอนหน่อฟ้า พระบาสเจ้าตีค้องไหย่กานใดก็ข้าจา เมื่อนั้นพระยาอินตาไขข่าวบอก เจ้าจิงกล่าวว่ากูพระยาอินจักลงไปเหล้นเมืองคนชุมพูทีบ ดูราสูท่านทั้งหลาย เราบ่อาสจักฟังคำไผจักอยาส สูจิง

manuscript #09

ᨣᩣ᩠ᨯᨲᩯ᩠ᨦᩉᩣ᩠ᨶᨻᩫ᩠ᨶᨧᩢᨠ᩠ᨠᩡᨾᩥᨲ᩠ᩅᩣ ᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨠᩯ᩠ᨶᨴᩱᨲᩫ᩠ᨶᩉᩱ᩠ᨿ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨡᩧ᩠ᨶᨾᩨᨯᩱᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨴᩮᩅᨸᩩᨯᩉ᩠ᨶᩩᨾᨴ᩠ᩃᩢᩣᨲᩯ᩠ᨦᩉᩣ᩠ᨶᨻᩫ᩠ᨶᨧᩢᨳᩭᨠᩯᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩃᩯ᩠ᩅᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨴᩮᩅᨸᩩᨯᩃᩫᨴᩮᩅᨯᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᨣᩴᩃᩬᨯᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᩃᩮᩥ᩠ᨠᨧᩣᩢᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨾᩮᩥᩬᩈᩩᨹᩣ
คาดแต่งหานพนจักกะมิตวา ฝูงหมู่เทวบุดแก่นไท้ตนไหย่ เจ้าก็ขึ้นมือได้แห่งพระยาอิน คั้นว่าเทวบุดหนุ่มทั้งหลายแต่งหานพนจักถ้อยแก่พระยาอินแล้วดังนั้น เทวบุดแลเทวดาทั้งหลายก็ลอดเอากันเลิกจากพระยาอินเมือสู่ผา-

ᩈᩣ᩠ᩈᨿᩣ᩠ᨿᪧᨿᩣ᩠ᨿᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨴᩮᩅᨸᩩᨯᩀᩩᩈᩮ᩠ᩅᩥ᩠ᨿᩈᩩᩢᩈᩣᩴᨸᩣ᩠ᨿᨸᩣ᩠ᨶᨸᩴᨯᩱᩌᩱ ᨸᩢᨯᨶᩥᨧᩢᨠᩖᩣ᩠ᩅᨳᩮᩥ᩠ᨦᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨡᩧ᩠ᨶᩈᩩᩉᩬᩙᨠᩫ᩠ᨦᨧᩢ ᩒᨲᩃᩥᨲ᩠ᩅᩣ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᩈᩕᨯᩮᩢᨯᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨧᩣᩢᨲᩣᩅᨲᩥᩴᩈᩣᩈ᩠ᩅᩢᩁᩉᩮ᩠ᨾᩢᩁᨯᩢ᩠ᨦ
สาสยายๆย้ายฝูงหมู่เทวบุดอยู่เสวยสุกสำบายปานบ่ได้ไฮ้ บัดนี้จักกล่าวเถิงพระบาสเจ้าขึ้นสู่ห้องกงจัก โอตลิตฺวา เจ้าก็สระเด็ดลงมาจากตาวติงสาสวันเหมนดัง

ᨯᩣ᩠ᩅᨹᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᨦᩀᩣ᩠ᨯᨿᩭᨿᩣ᩠ᨾᨣᩣᩴᩓᨾᩮᩨᩋᩁᩣᨲᩥᨣ᩠ᨾᩥᩃᩯ ᨸᨮᩣᨿ᩠ᨿ ᨲᩢ᩠ᨦᩁᩯ᩠ᨦᨲᩯᨶᩥᨾᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩣ ᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᨦᨧᩣᩢᨿᩢ᩠ᨦᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁ ᨸᩴᨾᩥᨶᩣ᩠ᨶᨸᩕᩉ᩠ᨾᩣ᩠ᨶ᪕ᨿᩣ᩠ᨾᨣᩴ᩠ᨾᩣᨾᩣᩁᩬᨯᨧᩣᨲᩩᨾᨾᩉᩣᩁᩣᩋᩮᩢ᩠ᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶ
ดาวผันลงอยาดย้อยยามค่ำแลเมื่อราตีก็มีแล ปฐายฺย ตั้งแรงแต่นี้เมื่อหน้า สกฺโก ส่วนดังพระยาอินลงจากยังเมืองสวัน บ่มินานประหมาน ๕ ยามก็มามารอดจาตุมมหาราเอ็งเป็น

ᨳᩣᩉᩯ᩠ᨦᨳᩯ᩠ᨶᨳᩮᩥ᩠ᨠᩋᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᨠᩯᨳᩯ᩠ᨶᨴ᩠ᩃᩢᩣᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨣᩡᩈᩢ᩠ᨶᨲᩮᩣᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨸᩱᩁᩬᨯᨶᩱᩅ᩠ᨿᩙᩉᩯ᩠ᨦᨾᩮᩥ᩠ᨦᨳᩯ᩠ᨶᨳᩮᩥ᩠ᨠ ᩅᩣᨧᩢᩃᩬᩙᨠᩣ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᩥᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨣᩴᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨣᩴᩋᩮᩥ᩠ᨶᩈᩱᩅᩣᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨴᩱᨸᩩᩁᩁᩮᩥ᩠ᨦᨸᩱ
ถ้าแห่งแถนเถิกอันเป็นพระยาแก่แถนทั้งหลายหั้นแล คะสันโตเจ้าก็ไปรอดในเวียงแห่งเมืองแถนเถิก ว่าจักลองกายหนีดังนั้น พระยาแถนก็หันแล้วยังเจ้าหน่อแก้วสักโก พระยาแถนก็เอิ้นใส่ว่าเจ้าหน่อไท้บุนเริงไป

ᩈᩢ᩠ᨦᨸᩮᩥ᩠ᨦᨼᩢ᩠ᨦᨼᩣ᩠ᩅ ᨹᩩᨡᩣᨶᩴᨡᩴᩋᩢ᩠ᨶᨩᩮᩥ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨠᩬᩁ ᨴᩣ᩠ᩅᨹᩰᨯᩃᩯ᩠ᩅᨧᩥ᩠ᨦᨠᩣ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᩥᨯᩯᨾᩯ ᨻᩴᩉᩲᨯᩲᨡᩣ᩠ᨸᩉᩲ᩠ᩅᨸᩩᨩᩣᨧᩢᩈ᩠ᨶᩭ ᨻᩴᩉᩲᨯᩲᨸᩣᩢᩅᩮᩫᩣᨶᩣᩴᨧᩮᩫᩣᨳᩬᩙᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨾᨠᩬᩁᨴᩬᩁ ᨺᩫ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨠᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨲᩯᨼᩣᩌᩣᩴᨯᩬᩢᨻᩢ᩠ᨶᨾᩡᩉᩣᨠᩮᩢ᩠ᨯᨩᩡᩉᩖᩣ ᩈᩫ᩠ᨾᨻ᩠ᨻᩣ᩠ᨶᨸᩩᩁᨾᩣᩢᩉ᩠ᨶᩥᨧᩣᩢᨡᩭᨠᩣ᩠ᨿᨴᩯ
สังเบิ่งฟั่งฟ้าว ผู้ข้านอขออันเชินเจ้าก่อน ท้าวโผดแล้วจิงกายหนีแดแม พอให้ได้ขาบไหว้บูชาจักสน่อย พอให้ได้ปากเว้านำเจ้าถ่องความก่อนทอน ฝนตกลงมาแต่ฟ้าฮำดอกพันมหาเกดซะหลา สมพานบุนมากหนีจากข้อยกายแท้

ᩈ᩠ᩅᩁᨲᩣ᩠ᨷᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨴᩣᨴᩥᩁᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨠᩴᨣᩧ᩠ᨯᩋᩥᨯᨿᩢ᩠ᨦᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨳᩯ᩠ᨶᩉᩖᩅᩙ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨡᩥᨠᩫ᩠ᨦᨧᩢᨹᩢ᩠ᨯᨾᩣᩌᩬᨯᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨴᩱᨿᩬᨯᨸᩩᩁᨴ᩠ᨿ᩠ᨶ ᨡᩮᩫᩣᨸᩱᩁ᩠ᨿᩙᨹᩣᩈᩣ᩠ᨯᩁᩫ᩠ᨯᨴᩡᩁᩣ᩠ᩈᨠᩯ᩠ᩅᨠᩫ᩠ᨦᨧᩢ ᨡᩮᩫᩣᨸᩱᨻᩢ᩠ᨠᩉᩮᩥ᩠ᨶᩋᨴᩯ᩠ᨶ
ส่วนตาบว่าดังนั้น ส่วนดังพระยาอินทาทิราสเจ้าก็คึดอิดยังพระบาสเจ้าแถนหลวง เจ้าก็ขี่กงจักผัดมาฮอดมาเถิงไท้ยอดบุนเทียน เข้าไปเรียงผาสาดรดทะราสแก้วกงจัก เข้าไปพักเหนือแท่น

ᨸᩯ᩠ᨶᩅᩯ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩣᩈᩣ᩠ᩅᩌᩣ᩠ᨾᨧᩩᨾᨶᩫ᩠ᨾᨦᩣ᩠ᨾᨶᩭ ᩌᩭᨳᩨᨣᩮᩥ᩠ᨦᩈᩭᩈᩢ᩠ᨦᩅᩣ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨾᩣᩉᩯ᩠ᨶᩉᩯᨺᩮᩫᩣᨻᩕᨸᩣ᩠ᨯᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣᨩᩡᨠᩣ᩠ᨯ ᨻᩬᨾᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨳᩯ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶ ᨳᩯ᩠ᨶᩈᩢ᩠ᨠᨠᩫ᩠ᨶ ᩃᩯᨳᩯ᩠ᨶᨲᩧᨾᩧ᩠ᨯᨾᩧᨣᩧᨳᩯ᩠ᨶᨻᩫ᩠ᨾ ᨳᩯ᩠ᨶᨸᩩᩁᩫ᩠ᨾ ᩃᩯᨳᩯ᩠ᨶᨾᩩ᩠ᩈᨴᩩ᩠ᩈ
แป้นแวนหน้าสาวฮามจุมนมงามน้อย ฮ้อยถือเคิ่งส้อยสังวานเข้ามาแหนแห่เฝ้าพระบาดสักโกชะกาด พ้อมฝูงหมู่แถนต้น แถนสักกน แลแถนตื้อมืดมือคือแถนพม แถนบุรม แลแถนมุสทุส

ᨴ᩠ᨿᩁᨶᩥ᩠ᩅ ᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨳᩯ᩠ᨶᨧᩮᩥ᩠ᨦᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᨶᩮᩥ᩠ᨦᨾᩣᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨴᩱᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣ ᨲᨲᩮᩣᨸᨮᩣᨿ᩠ᨿᩡ ᨲᩢ᩠ᨦᩌᩯ᩠ᨠᨲᩯᨶᩥᨾᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩣᨳᩣᩁᩣᨩᩣ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨳᩮᩥ᩠ᨠᨩᩡᨻᩮᩥᩬᨠᨻᩬᨾᩅᩢ᩠ᨶᨴᩣᩉᩱ᩠ᩅᩋᩥ᩠ᨶᨲᩣᨳᩣ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᩅᩅᩤᨧᩮᩫᩣᨴᩬᩁᨴᩣ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᨣᩭᩀᩩᩈᩥ᩠ᩅᩔ᩠ᨯᩥᨯᩯᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩧ ᨸᩢᨯ
เทียนนิ้ว ฝูงหมู่แถนเจิงเอากันเนิงมาขาบไหว้ยังพระบาสไท้สักโก ตโตปฐายฺยะ ตั้งแฮกแต่นี้เมื่อหน้าถ้าราชา เมื่อนั้นบั้นพระยาแถนเถิกชะเพือกพ้อมวันทาไหว้อินตาถามข่าวว่าเจ้าทอนท้าวยังคอยอยู่สีสวัสสดิแท้ก็ข้าลือ บัด-

manuscript #10

ᨶᩥᨹᩩᨡᩣᩃᩮᩫᩣᨶᩥᨿᩣ᩠ᨿᨳᩣ᩠ᨾᩏᨸ᩠ᨸᩣ᩠ᨿᨲᩣ᩠ᨾᩉᩮᩢ᩠ᨯᨴᩮᩅᩮᩢ᩠ᨯᨧᩮᩫᩣᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣ ᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨴᩮ᩠ᩅᨯᩣᩉᩱ᩠ᨿᨶᩭᨸᩴᨯᩱᨴᩩᩢᨿᩣᩢᩉᩭᩉᩫ᩠ᩅᨧᩱᨯᩯᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩧ ᨸᩣᩈᩣᨴᩮᩣ ᩁᩥᩉᩴᨹᩣᩈᩣ᩠ᨯᨿᩣ᩠ᨾᨾᩮᩥᩬᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᩉ᩠ᨶᩥᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨶᩣᩙᨴᩮᩅᩥᨸ᩠ᨾᩥᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᩌᩬᨦᩉᩱᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᩍᨯᩩᩃᩢ᩠ᨦ
นี้ผู้ข้าเหล่านี้ยายถามอุปปายตามเหดเทเวดเจ้าสุชชาดา ฝูงหมู่เทวดาไหย่น้อยบ่ได้ทุกยากห้อยหัวใจแดก็ข้าลือ ปาสาโท อันว่าหอผาสาดยามเมื่อพระบาสลงมาหนีฝูงหมู่นางเทวีบ่มีคำอันฮ้องไห้เหดว่าอิดูลัง

ᨻᩕᨸᩣ᩠ᨯᨴᩱᨾᩮᩥᩬᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨣᩴ᩠ᨡᩣᩃᩧ ᩋᩢ᩠ᨶᨶᩧ᩠ᨦᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨴᩮᩅᩥᩃᩩᩢᨠᩯ᩠ᩅᩋᩢ᩠ᨶᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨯᩱᩌᩢ᩠ᨠᩃᩯ᩠ᩅᨠᩮᩥ᩠ᨶᨲᩣᨲᩫ᩠ᨶ ᨡᩮᩫᩣᨸᩴᩈᩫ᩠ᨶᩃᩅᩫ᩠ᨶᨸᩴᩌᩬᩙᩉᩱᨿᩣ᩠ᨾᨾᩮᩥᩬᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨴᩱᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨣᩴ᩠ᨡᩣᩃᩧ ᨣᩋᩢᨣ᩠ᨣᩥᨶᩉᩴᩋᩢ᩠ᨶᨹᩩᨡᩣᩀᩩᨯᩫ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩣᨶᩱᩈ᩠ᨮᩣ᩠ᨶ
พระบาดไท้เมื่อลงมาก็ข้าลือ อันนึงฝูงหมู่เทวีลูกแก้วอันพระบาสได้ฮักแล้วเกินตาตน เขาบ่สนละวนบ่ฮ้องไห้ยามเมื่อพระบาสไท้ลงมาก็ข้าลือ ก็อัคคีนะหออันผู้ข้าอยู่ดงหน้าในสฐาน

ᨲᩯᨠᩮᩫᩣᨸᩴᩋᩣ᩠ᨯᩉᩮᩢ᩠ᨶᨿᩢ᩠ᨦᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨯᩩᩙᨯᩮᩥ᩠ᨶᨾᩣᩀᩣ᩠ᨾᨹᩩᨡᩣᨧᩢᨴᩮᩥᩬ ᨸᩢ᩠ᨯᨶᩥᨹᩩᨡᩣᨡᩴᩈᩫ᩠ᨾᨾᩣᨳᩣ᩠ᨾᨠᩣ᩠ᨶᨻᩕᨶᩴᩃᩥ᩠ᨶᨹᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣ ᨲᩢ᩠ᨦᨲᩯᨣᩮᩫᩣᨩᩋᩢ᩠ᨯᨳᩮᩥ᩠ᨦᨸᩣ᩠ᨿᨲᩣ᩠ᨾᨶᩥᨿᩣ᩠ᨿᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᩅᩣᨧᩢᨿᩫ᩠ᩅᩁᨿᩣ᩠ᨯᨯᩩᩙᩉ᩠ᨶᩣᨸᩱ
แต่เก่าบ่อาดเห็นยังพระบาสเจ้าดุงเดินมาอยามผู้ข้าจักเทื่อ บัดนี้ผู้ข้าขอสมมาถามกานพระหน่อลิ้นผู้เป็นเจ้า ตั้งแต่เค้าซอดเถิงปายตามนิยายพระบาสว่าจักยัวรยาดดูงหน้าไป

ᩈᨠ᩠ᨡᩣᨶᨠᩣᩁᩮᩣ ᨾᩮᩥᩬᨹᩩᨡᩣᨳᩣ᩠ᨾᩉᩣᨿᩢ᩠ᨦᨣ᩠ᩃᩡᩋᩢ᩠ᨶᩈᩫ᩠ᨾᩋᩢ᩠ᨶᨣ᩠ᩅᩁᨠᩯᩁᩫᨾ᩠ᨾᨶᩡ ᨡᩴᨠᩯᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨸᩣᩢᨡᩱᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨾᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩈᩩᩃᩥᨶ᩠ᨴᨧᩮᩫᩣᨼᩣᩋ᩠ᩅ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᩣᨲᩴᨺᩩᨦᨳᩯ᩠ᨶ ᨧᩣᨹᩯ᩠ᨶᨣᩣᩴᨳᩣ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᩅᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᨾᩉᩣᩁᩣ᩠ᨯᨲᩫ᩠ᨶ
สกฺขานกาโร เมื่อผู้ข้าถามหายังคละอันสมอันควนแก่รมมนะ ขอแก่พระบาสเจ้าปากไขความเท่าวันเทิน ส่วนดังพระยาอินสุลินทเจ้าฟ้าอวยหน้าต่อฝูงแถน จาแผนคำถามข่าวกล่าวว่า ดูรามหาราดตน

ᨸᩮᩢ᩠ᨶᩋᩣ᩠ᩈᨠᩯᨧᩣᨲᩩᨾ᩠ᨾᩉᩣᩁᩣ ᨧᩮᩫᩣᨻᩣᨠᩢ᩠ᨶᨼᩢ᩠ᨦᨻᩣᩴᨻᩬᨾ ᩁᩮᩫᩣᨧᩢᨶᩬᨾᩉ᩠ᨶᩣᨧᩮᩫᩣᨲᩯᩉᩫ᩠ᩅᨴᩥ ᨲᩣ᩠ᨾᨠᩣ᩠ᨶᨾᩥᩉ᩠ᨶᩢᨠᩉᩮ᩠ᨶᩥ᩠ᨿ ᨸᩢ᩠ᨦᨠᩮᩥ᩠ᨯᨾᩧ᩠ᨶᨸᩮᩥ᩠ᨿᩉᩫ᩠ᩅᨧᩱ ᨣᩧᨯᩀᩣᩢᨸᩱᨴ᩠ᨿᩅᩉᩮᩖᩢᩁᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨧᩱᨲᩫ᩠ᨶᨿᩣ᩠ᨾ᪑ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨸᩱᩉᩮᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᩁᩮᩫᩣᨧᩢᨲᩣ᩠ᩅᨣᩧ᩠ᨶᨾᩣ
เป็นอาสแก่จาตุมมหารา เจ้าพากันฟังพ่ำพ้อม เราจักน้อมหน้าเจ้าแต่หัวที่ ตามกานมีหนักเหนื่อย บังเกิดมึนเปยหัวใจ คึดอยากไปเที่ยวเหล้นในเมืองคน ด้วยใจตนยาม ๑ คั้นว่าไปเห็นแล้วเราจักต้าวคืนมา

ᨸ᩠ᨾᩥᩉᩱᨯᩩᨶᩣ᩠ᨶᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩫ ᨾᩮᩥᩬᩅᩣᩁᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨸᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᩉᩣᩢᩀᩩᩁᩭᨸᩥᩉᩯ᩠ᨦᨩᩩᨾ᩠ᨻᩩᨴ᩠ᨿᩅᨶᩢ᩠ᨸᨸᩮᩢ᩠ᨶᨸᩦᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁ ᩁ᩠ᨿᨠᩅᩣᨿᩣ᩠ᨾᨻᩬᩙᨦᩣ᩠ᨿᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩤᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨠᩖᩣ᩠ᩅᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᩈ᩠ᩅᩢᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨳᩮᩥ᩠ᨠᨲᩫ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶ
บ่มิให้ดุนานแท้ดีหลีแล เมื่อว่าเราหากไปเมืองคนหากอยู่ร้อยปีแห่งชุมพูเที่ยวนับเป็นปีในเมืองสวัน เรียกว่ายามพ่องง่ายนั้นแล คั้นว่าพระยาอินกล่าวดังนั้น ส่วนดังพระยาแถนเถิกตนเป็น

ᨧᩮᩫᩣᨠᩯᨳᩯ᩠ᨶᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᨳᩭᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩅᩤᨧᩢᨸᩱᨴ᩠ᨿᩅᩉᩮᩖᩢᩁᨶᩱᨾᨶᩩᩔᩣᩃᩰ᩠ᨠᩉᩯ᩠ᨦᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩫ᩠ᨶᨣ᩠ᨾᩥᨧᩱᩋᩢ᩠ᨶᨸ᩠ᩅᨯᨠᩡᩈᩢ᩠ᨶ ᨣᩧ᩠ᨯᩀᩣᩢᨸᩱᩉᩮᩢ᩠ᨶᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨶᩣᩴᨻᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨸᩕ
เจ้าแก่แถนทั้งหลาย สุตวา ได้ยินแล้วยังถ้อยคำแห่งพระยาอินว่าจักไปเที่ยวเหล้นในมนุสสาโลกแห่งเมืองคนดังนั้น พระยาแถนก็มีใจอันปวดกะสัน คึดอยากไปเห็นเมืองคนนำพะจอมทันตนประ-

ᩈᩮᩢᨯ ᩃᩬᨯᨸᩢ᩠ᨦᨠᩮᩥ᩠ᨯᨿᩥ᩠ᨶᨯᩥ ᩋᩮᩥ᩠ᨶᩉᩣᨶᩣ᩠ᨦᨴᩮᩅᩥᨹᩩᨣᩮᩫᩣ ᨡᩭᨧᩢᨯᩱᩈᩢ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨶᩣ᩠ᨦᩈ᩠ᨶᩫᨾ ᨣᩭᩀᩩᨯᩥᨿᩮᩥᩡ ᩈᩣ᩠ᩅᨣᩣᩴᨻᩫ᩠ᨾ ᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᩈᩣ᩠ᩅᨠᩥᩃᩣ ᩃᩫᩈᩣ᩠ᩅᩋᩬᩁᨩᩭᩋᩢ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᩃᩩᩢᨶᩭ ᨻᩥᨻᩮᩥ᩠ᨦᨧᩱᨣᩴᨣᩭᩀᩩᨯᩥᨿᩮᩥᩡ ᩈᩣ᩠ᩅᨠᩣᩴᩃᩩᩢᨠᩯ᩠ᩅᨻᩴᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣ ᪙ ᨧᩮᩫᩣ
เสิด ลอดบังเกิดยินดี เอิ้นหานางเทวีผู้เค้า ข้อยจักได้สั่งเจ้าฝูงหมู่นางสนม คอยอยู่ดีเยอ สาวคำพม กับทั้งสาวกิลาแล สาวอ่อนช้อยอันเป็นลูกน้อย พิเพิงใจก็คอยอยู่ดีเยอ สาวกำลูกแก้วพ่อเอย คั้นว่า ๙ เจ้า

๑๐

manuscript #11

ᩃᩬᩙᨣᩬᩙᨳᩣᨻᩴᨩᩥᨾᩣᨣᩭᩀᩩᨯᩥᨿᩮᩥᩡ ᩈᩩᨸᩩᩁᨴᩣᨶᩭᨾᩮᩢ᩠ᨿᨡ᩠ᩅᩢᩁᩏᨸ᩠ᨸᨳᩣᩢᨡᩭᨧᩢᨯᩱᨻᩢ᩠ᨯᨻᩣᩢᨧᩮᩫᩣᨿᩣ᩠ᨾᨶᩥᨸᩴᩈᩫ᩠ᨶᨣᩭᩀᩩᨯᩥᨿᩮᩥᩡ ᩈᩣ᩠ᩅᨣᩣᩴᨸᩬᩙᨹᩥᨸᩬᩙᩏᩫᩣᨩᩩᨻᩮᩥ᩠ᨶᨻᩴᨧᩢᩉ᩠ᨶᩥᨧᩣᩢᨧᩮᩫᩣᨿᩣᩈᩰ᩠ᨠᩈᩮᩫᩣᨦ᩠ᩅᨾᩉᩮ᩠ᨦᩫᩣᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩫᩣᨣᩭᩀᩩᨯᩥᨿᩮᩥ ᨶᩣ᩠ᨦᨣᩣᩴᩋᩬᩁᨹᩩ
ลองคองถ้าพ่อซิมาคอยอยู่ดีเยอ สุบุนทาน้อยเมียขวันอุปปถากข้อยจักได้พัดพากเจ้ายามนี้บ่สนคอยอยู่ดีเยอ สาวคำบองผิบองเอาชูเพิ่นพ่อจักหนีจากเจ้าอย่าโสกเส้าง่วมเหงาเท่าวันเท่าคอยอยู่ดีเยอ นางคำอ่อนผู้

ᨸᩮᩢ᩠ᨶᩃᩢᨠᩮᩫᩣᨻᩴᩈᩢ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨣᩭᩀᩩᩈᩥᩬᨯᩈᩥ᩠ᨯᨣᩴᨻᩴᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨲᩴᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣᨾᩉᩣᩈᨲ᩠ᨲᩮᩣᨸᩥᨲ᩠ᨲᩁᩈᨴᩥᨩᩁᨸᨲ᩠ᨲᩣᩍᨾᩴ ᨳᩮᩫᩣᩈ᩠ᩅᩢᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕᨽᩩᨸᩣ᩠ᨶᨩᩱ᩠ᨩᩡᨩᩮᩢ᩠ᨯᨲᩫ᩠ᨶᨴᩕ᩠ᨦᨠᩮᩢ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨾᩉᩮᩈᩥ ᨠᩢ᩠ᨷᨴᩢ᩠ᨦᨸᩩᨲ᩠ᨲᩥᩃᩫᩃᩩᩢᨠᩯ᩠ᩅ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩤ
เป็นลักเก่าพ่อสั่งเจ้าคอยอยู่สิสอดสิดก็พอเทิน ต่อสุตวามหาสัตโตปิตฺตรสทิชรปัตตาอิมํ เถาสวันดังพระภูบานไชชะเชดตนทรงเกดเป็นมเหสี กับทั้งบุตตีแลลูกแก้ว คั้นว่า

ᨧᩮᩫᩣᩈᩢ᩠ᨦᩃᩫ᩠ᩅᨸᩴᩁᨸ᩠ᩅᩁᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᨸ᩠ᩅᩁᨾᩣᩁᩋ᩠ᨦᩉᩱᩉᩣ᩠ᨾᨻᩕᨠᩯ᩠ᨶᨴᩱ ᩀᩣᨯᩱᨯᩩᩙᨯᩩᩙᨯᩮᩥ᩠ᨶᨸᩱᨠᩴ᩠ᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨡᩴᨠᩯᨻᩕᨧᩬᨾᩉᩫ᩠ᩅᨧᩮᩫᩣᨼᩣ ᨺᩩᨦᨡᩣᨶᩭᨣᩴᩉᩣᩢᨸᩣ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨿ ᨡᩴᨠᩯᨻᩕᨶᩥᩈᩱᨲᩫ᩠ᨶᨻᩴᩀᩣᨯᩱᩁᩡᩃᩩᩢᩉ᩠ᨶᩴᨠᩈᨲ᩠ᨲᩥ
เจ้าสั่งแล้วบอรบวนเอากันบวนมาร้องไห้ห้ามพระแก่นไท้ อย่าได้ดุงดุงเดินไปก็ข้าเทิน ขอแก่พระจอมหัวเจ้าฟ้า ฝูงข้าน้อยก็หากปานตาย ขอแก่พระนิไสตนพ่ออย่าได้ระลูกหน่อกสัตติ

ᨡᩴᩉᩱᨻᩴᨸᩣᨶᩥᨿᩢ᩠ᨦᨹᩩᨡᩣ ᨿᩣᨯᩱᩃᩡᩉᩱᨸᩮᩢ᩠ᨶᨠᩣᩴᨻᩣᩀᩩᨾᩮᩥ᩠ᨦᨳᩯ᩠ᨶ ᨹᩱᨧᩢᨾᩣᨾᩯ᩠ᨶᩌᩯ᩠ᨦᩈᩬᩁᩈᩢ᩠ᨦᨶᩥᨧᩣᨶᩴ ᨹᩱᨧᩢᨸᩣᨶᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨧᩣ᩠ᨿᨶᩥᨴᩣ᩠ᨶᨶᩥᨧᩣᨶᩥᨧᩣᨶᩴ ᨹᩩᨧᩢᨾᩣᩁᩢ᩠ᨠᨲᩣ᩠ᨦᨻᩴᨣᩴᨸ᩠ᨾᩥᨣᩨᨧᩮᩫᩣ ᨹᩱᨧᩢᨾᩣᨠᩥ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨶᩣᩴᩁ᩠ᩅᨾᨻᩣᩁᩯ᩠ᨦᨶᩥ
ขอให้พ่อปานียังผู้ข้า อย่าได้ละให้เป็นกำพ้าอยู่เมืองแถน ไผจักมาแม้นแฮงสอนสั่งนิจานอ ไผจักปานั้นเจ้าจ่ายนิทานนิจานิจานอ ผู้จักมารักต่างพ่อก็บ่มีคือเจ้า ไผจักมากินข้าวนำร่วมพาแรงนี้

ᨧᩣᩴᨶᩴᨹᩱᨧᩢᨾᩣᨶᩬᩁᨿᩯ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᨾᩯᩉᩯ᩠ᨦᨡᩭ ᩉ᩠ᨶᩣᨲᩣᩴᨣᩭᩈᩮᩣᩈᩮᩢ᩠ᨿᩈᩥᨿᩣ᩠ᨾᨾᩮᩥᩬᨻᩴᨸᩕᩡᩉ᩠ᨶᩥ ᨡᩮᩫᩣᨧᩢᨾᩣᩌᩣᩅᩥᨠᩩᨾᨠᩬᨯᩋᩩᨾᨴᩬᨯᩅᩱᩉᩮ᩠ᨶᩨᩋᩋᩫ᩠ᨠ ᨺᩩᨦᨡᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᨲᩫ᩠ᨠᨧᩱᨠᩫ᩠ᩅᨣᩴᨸ᩠ᨾᩥᨸᩣᩢᨯᩱᩃᩫᨶᩣ ᨿᩣ᩠ᨾᨾᩮᩥᩬᨶᩬᩙᨡᩭᩉᩱᩀᩩᨧᩭᪧᨣᩭᨴᩣ᩠ᨦᩉᩖ᩠ᨿᩅ ᩉᩣᨠ
จำนอไผจักมานอนแยงยังแม่แห่งข้อย หน้าต่ำคอยเส้าเสียสียามเมื่อพอประหนี เขาจักมาฮาวีกุมกอดอุ้มทอดไว้เหนืออก ฝูงข้าทั้งหลายตกใจกัวก็บ่มีปากได้แลนา ยามเมื่อน้องข้อยไห้อยู่จ้อย ๆ คอยทางเหลียว หาก

ᨣᩴᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨻᩴᨧᩢᨿᩣ᩠ᨾᩃᩫᨶᩋ ᨳᩣᨶᩱᨣ᩠ᩃᩡᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨻᩴᩉᩮᩢ᩠ᨶᩃᩩᩢᨠᩯ᩠ᩅᩉ᩠ᨶᩴᨸᩩᨯᨲᩣᨠᩢ᩠ᨸᨴᩢ᩠ᨦᨽᩡᩃᩥᨿᩣᨾᩣᨡᩣᨧᩢ᩠ᨷᨧᩬᩙ ᩃᩣ᩠ᨦᨻᩬᩙᨠᩬᨯᨿᩢ᩠ᨦᨣᩴ ᩃᩣ᩠ᨦᨻᩬᩙᨾᩣᨩᩮᩣᩡᨩᩯᩡᨧᩢ᩠ᨷᨧᩯ᩠ᨦᨹᩣᩀᩩ
ก็บ่อาสพ้อจักยามแลนอ ถ้าในคละเมื่อนั้น ส่วนดังพระยาแถนตนพ่อเห็นลูกแก้วหน่อบุดตากับทั้งภะลิยามาข้าจับจอง ลางพ่องกอดยังคอ ลางพองมาเซาะแซะจับแจงผ้าอยู่

ᨩᩯ᩠ᩅᪧ ᩃᩣ᩠ᨦᨻᩬᩙᨾᩣᨠᩬᨯᩋᩯ᩠ᩅᨸᩣ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩣᩢᩉᩭᨧᩢ᩠ᨷᩀᩩᨶᩴ ᩃᩣ᩠ᨦᨻᩬᩙᨾᩣᨶᩢ᩠ᨦᩉᩃᩬᨾᨠᩯ᩠ᩅᨦᩅᩥᩀᩮᩢ᩠ᨶ ᩃᩣ᩠ᨦᨻᩬᩙᨾᩣᩀᩩᨸᩢᨲᩩᨲᩬᩁᨲᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᩃᩩᩢᪧ᪕ᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩣ᩠ᨦᨻᩬᩙᨧᩢ᩠ᨷᨡᩯ᩠ᨶᨠᩢ᩠ᨶᩃᩯ᩠ᨶᩅᩯᨯᩃᩬᨾᨩᩡᨠᩢ᩠ᨶᨻᩬᨾᩉᩮᩖᩨᩋᩉᩖᩣ᩠ᨿᩀᩣ᩠ᨿᨠᩢ᩠ᨶ
แซว ๆ ลางพ่องมากอดแอวปานหมากหอยจับอยู่นอ ลางพ่องมานั่งหล้อมแกว่งวีเย็น ลางพ่องมาอยู่ปักตูต้อนตันหน้า ส่วนดังลูก ๆ ๕ แห่งพระยาบางพ่องจับแขนกันแล่นแวดล้อมซะกันพ้อมเหลือหลายอยายกัน

ᨶᩮᩥ᩠ᨦᩁᩋ᩠ᨦᩉᩱ ᨸᩢᨯᨶᩥᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨣᩴᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᩀᩩᨾᩢ᩠ᨠᨣᩱᨸᩱᨴ᩠ᨿᩅᩉᩮᩖᩢᩁᨸᩮᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩩᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶ ᨸ᩠ᨾᩥᨶᩣ᩠ᨶᨴᩮᩫᩣᨯᩱᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨸᩕᩈᩮᩥ᩠ᨯᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨸᩢ᩠ᨦᨠᩮᩥ᩠ᨯᩅᩣᨺᩣᩢᨳᩣ᩠ᨾᨿᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨶᩱᨾᨶᩮᩣᩒᨸᩩᨿᩥᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨳᩮᩥ᩠ᨠᨲᩬᩙᩁᩥᨴᩣ᩠ᨶᨧᩢᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᩉᩮᩖᩢᩁᨾᩮᩥ᩠ᨦ
เนืองร้องไห้ บัดนี้พระยาแถนก็บ่อาสจักอยู่มักใค่ไปเที่ยวเหล้นเป็นหมู่พระยาอิน บ่มินานเท่าใดพระยาอินตนประเสิดเจ้าก็บังเกิดว่าฝากถามยังพระยาแถนในมโนโอปุยิตวา ดูราพระยาแถนเถิกต้องอันว่าท่านจักลงไปเหล้นเมือง

๑๑

manuscript #12

ᩃᩩᨾᨩᩩᨾ᩠ᨻᩩᨴᩥ᩠ᨸᨠᩢ᩠ᨸᨯᩬᨾᩁᩮᩫᩣ ᨹᩥ᩠ᩅᩣᨴᩣ᩠ᨶᨧᩢᨸᩱᨴᩣ᩠ᨦᨸᩫ᩠ᨶᩁᩁᩩᩅᩣᨧᩢᨡᩥᨩᩣ᩠ᨦᨸᩥ᩠ᨠᨶᩥᨧᩣ ᨹᩥ᩠ᩅᩣᨴᩣ᩠ᨶᨧᩣᩢᨸᩱᨿᩢ᩠ᨦᨧᩢᨯᩱᨾᩣᨾᩡᨶᩥᨠᩣ᩠ᨸᨲᩫ᩠ᩅᨾᩥᩃᩥᨴ᩠ᨵᩥᨶᩢ᩠ᨶᩃᩧ ᨹᩥ᩠ᩅᩣᨴᩣ᩠ᨶᨧᩢᨸᩱᨠᩢ᩠ᨸᨯᩬᨾᩁᩮᩫᩣᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯᩱᨴᩣ᩠ᨶᩉᩣᩢᨧᩢᨸᩱᨯᩱᨶᩥᨧᩣ ᨲᨴᩣ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨳᩯ᩠ᨶᨳᩮᩥ᩠ᨠᨲᩫ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶ
ลุ่มชุมพูทีบกับดอมเรา ผิว่าท่านจักไปทางบนรรุวาจักขี่ช้างปีกนี้จา ผิว่าท่านจากไปยังจักได้ม้ามะนีกาบตัวมีลิทธินั้นลือ ผิว่าท่านจักไปกับดอมเราเหดใดท่านหากจักไปได้นี้จา ตทา ในเมื่อนั้นบั้นแถนเถิกตนเป็น

ᨻᩕ᩠ᨿᩣ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩈᩩᩁᩥᨶ᩠ᨴᩣᨴᩥᨸᨲ᩠ᨲᩥᩁᩣ᩠ᩈ ᨧᩥ᩠ᨦᩁᩢ᩠ᨷᨸᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨴᩩᩁᨳ᩠ᩅ᩠ᨿᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨶᩱ᩠ᨿᩡᨣ᩠ᨳᩣᩅᩣ ᨴᩮᩅᨡᩣᨯᩯᨾᩉᩣᩁᩣᨩᩣᨧᩮᩫᩣ ᨡᩴᨡᩣ᩠ᨷᨠᩮᩫᩣᨴᩩᩁᨳ᩠ᩅᩣ᩠ᨿᨠᩩᩔᩮᨾᩥ ᨹᩩᨡᩣᨡᩴᨡᩧ᩠ᨶᨡᩥᨻᩢ᩠ᨦᨧᩢᨯᩬᨾᨻᩕ
พระยา สุตวา ได้ยินคำแห่งพระยาอินสุรินทาทิปัตติราส จิงรับบาสเจ้าทูนถวยด้วยไนยะคาถาว่า เทวข้าแดมหาราชาเจ้า ขอขาบเก้าทูนถวายกุเสสมิ ผู้ข้าขอขึ้นขี่พังจักดอมพระ

ᨸᩣ᩠ᩈᨡᩴᩉᩱᨹᩩᨡᩣᨡᩧ᩠ᨶᨡᩥᨩᩬᩁᩋᩣ᩠ᩈᨧᩮᩫᩣᨧᩬᨾᩉᩫ᩠ᩅᨣᩴ᩠ᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨲᩴᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨣᩣᩴᨸᩢ᩠ᨦᩋᩣ᩠ᩈ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨡᩴᨡᩧ᩠ᨶᨡᩥᨻᩢ᩠ᨦᨧᩢᨯᩬᨾᨲᩫ᩠ᨶᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨠᩰᨯᨣ᩠ᨿᨯᨯᩢ᩠ᨦᨼᩱᩉᩱ᩠ᨾᩉᩫ᩠ᩅᨧᩱᩉᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶ ᨧᩮᩫᩣ
บาสขอให้ผู้ข้าขึ้นขี่ซ้อนอาสเจ้าจอมหัวก็ข้าเทิน ตํสุตวา ส่วนดังพระยาอินได้ยินคำบังอาส เหดว่าพระยาแถนขอขึ้นขี่พังจักดอมตนว่าดังนั้น เจ้าก็โกดเคียดดังไฟไหม้หัวใจแห่งตน เจ้า

ᨣᩴᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᨵᩕᩫ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶᩀᩩᨯᩱ ᨶᩥᩃᩮᩣᨸᩮᨲᩫ᩠ᩅᨣᩴᨣᩣᩴᩁᩣ᩠ᨿᨶᩣ᩠ᨿᨯᩣᨿᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩣᩴᩈᩥᩉᩣᨶᩣ᩠ᩈᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨠᩣᨡᩯ᩠ᨦᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨹᩩᨳᩭᩁᩣ᩠ᨿᨶᩣ᩠ᨾᨹᩥᩈᩩᨠ᩠ᨡᩥᨲᩫ᩠ᩅᨹᩩᩉᩣᨣᩣᩴᩈᩩᩢᨸᩴᨯᩱ ᨲ᩠ᩅᩴ ᨾᩧ᩠ᨦᨴᩣ᩠ᨶᩋᩣᨾᩔᩮᨣᩴᨸᩴᩁᩩ ᨾᩧ᩠ᨦᨶᩥᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨼᩣᨳᩯ᩠ᨶ
ก็บ่อาสจักธรงตนอยู่ได้ นิโลเปตัวก็คำร้ายนายด่ายังพระยาแถนด้วยคำสิหานาสด้วยกาแขงกล่าวว่า ดูราพระยาแถนผู้ถ่อยร้ายนามผิสุกขีตัวผู้หาคำสุกบ่ได้ ตวํ มึงทานอามสฺเสก็บ่รู้ มึงนี้เป็นผีฟ้าแถน

ᨴᩯᩁᩨ ᨸᩩᩃᩖᩮᩣ ᩁᩥᨸᩩᩃᩥᨹᩩᨯᩱᨸᩮᩢ᩠ᨶᨿᩫ᩠ᨯᨲᩣᩴᩉᩥᨶᨩᩣ᩠ᩈ ᨴᨾ᩠ᨾᨩᩣ᩠ᩈᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩦᨣᩥ᩠ᨶᨴᩩᩃᩥᨡᩋ᩠ᨦᨶᩮᩫᩣᩁᩣ᩠ᨿ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯᩱᩃᩮᩫᩣᨾᩣᨡᩴᨡᩥᩁ᩠ᩅᨾᨿᩢ᩠ᨦᨻᩢ᩠ᨦᨧᩢᩉᩯ᩠ᨦᨠᩩᩈᩢ᩠ᨶᨶᩥ ᨳᩣᨾᩧ᩠ᨦᨸᩴᩁᩩᩅᩣᨾᩧ᩠ᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨲᩫ᩠ᩅᨳᩭ ᩉᩣᩢᨾᩦᨿᩫ᩠ᨯᩋᩢ᩠ᨶᨲᩣᩴᨣᩭ ᨩᩥ᩠ᩅᩣᨹᩥᨳᩯ᩠ᨶᨣᩮᩥ᩠ᨿᩅ᩠ᨿ᩠ᨶᨠᩥ᩠ᨶᨲᩯᨩᩣᩢᨶᩮᩫᩣ
แท้รือ ปุลโล อันว่าปุลิผู้ได้เป็นยดต่ำหินชาส ทัมมะชาสเกิดเป็นผีกินทุลีของเน่าร้าย เหดใดเล่ามาขอขี่ร่วมยังพังจักแห่งกูสันนี้ ถ้ามึงบ่รู้ว่ามึงเป็นผีตัวถ่อย หากมียดอันต่ำคอย ชื่อว่าผีแถนเคยเวียนกินแต่ซากเน่า

ᨲᩣ᩠ᨿᨹᩫ᩠ᨦᨹᩮᩫᩣᨴ᩠ᨿᩅᨣᩬᨸᩈᩫ᩠ᨦᩣ᩠ᨶ ᩉᩮ᩠ᨯᨯᩱᨾᩧ᩠ᨦᨧᩢᨡᩧ᩠ᨶᨡᩥᨴᩮᩥ᩠ᨦᩅᩥᨾᩣ᩠ᨶᩁ᩠ᩅᨾᨠᩩᨯᩱᨶᩥᨧᩣ ᨣᩢᨶ᩠ᩅᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨠᩖᩣ᩠ᩅᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅ ᨣᩴᨡᩧ᩠ᨶᨡᩥᨻᩢ᩠ᨦᨧᩢᨯᩰ᩠ᨿᨻᩖᩢᩁᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᩒᨲᩁᩥᨲ᩠ᩅᩣ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨧᩣᩢᨾᩮᩥ᩠ᨦᨳᩯ᩠ᨶᨧᩣᨲᩩᨾ᩠ᨾᩉᩣᩁᩣ
ตายผงเผาเที่ยวคอบสงสาน เหดใดมึงจักขึ้นขี่เทิงวิมานร่วมกูได้นี้จา คั้นว่าพระยาอินกล่าวดังนั้นแล้ว ก็ขึ้นขี่พังจักโดยพลันหั้นแล โอตริตวา เจ้าก็ลงมาจากเมืองแถนจาตุมมหารา

ᨸᩴᨴᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨶᨸᩕᩉ᩠ᨾᩣ᩠ᨶᩅᩣᨯᩱ ᪕ ᨿᩰ᩠ᨯ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᨣ᩠ᨿᨯᩉᩮᩖᩨᩋᨧᩱᨶᩱᨸᩕᨴᩱ ᩁᩬᨦᩉᩱᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣ ᩋᩥ᩠ᨶᨴᩣᨴᩥᩁᩣ᩠ᩈᨴᩱ ᩉᩣᩢᨧᩢᨲᩣ᩠ᨿᩀᩣᩢᨩᩯᩖᩡᨠᩩᨣᩴᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᩅᩱᨩᩥᩅᩥ᩠ᨯᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨾᩢ᩠ᨶᨿᩥ᩠ᨶᨴᩣᩅᩣᨠᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶ
บ่ทันนานประหมานว่าได้ ๕ โยด ส่วนดังพระยาแถนอันเคียดเหลือใจในผะไท ร้องไห้กล่าวว่า อินทาทิราสไท้ หากจักตายอยากชะแลกูก็บ่อาสจักไว้ชีวิดแห่งพระยา เหดว่ามันยินทาว่ากูเป็น

ᨹᩥᨣᩭᩁᩣ᩠ᨿ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯᩱᨶᩥᨧᩣᨣᩧ᩠ᨯᩅᩣᨠᩩᩉᩣᩢᨸᩮᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨶᩱᨯᩯ᩠ᨶᨯᩭ ᨴᩩᩢᩉᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨠᨲᩯ᩠ᨦᩉᩱᨿᩢ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᩁᩢᨠ᩠ᩈᩣᨶᩱᨩᩩᨾ᩠ᨻᩩᨴᩥ᩠ᨸ ᨡᩮᩫᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᩉᩣᩢᨯᩱᨶᩫ᩠ᨷᨶᩬᨾᩉᩱ᩠ᩅᩉᩣᨣᩩᨯᩢ᩠ᨦᩃᩨ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨶᩥᩉᩱᩈᨬᩣᩅᩣᨠᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨲᩫ᩠ᩅᨳᩭᩁᩣ᩠ᨿᩈᩢ᩠ᨶᨶᩥᨶᩱ᩠ᨿᩡᨣ
ผีคอยร้าย เหดใดนิจาคึดว่ากูหากเป็นพระยาแถนในแดนดอย ทุกแห่งตกแต่งให้ยังคนรักสาในชุมพูทีบ เขาทั้งหลายหากได้นบน้อมไหว้หาคูดังลือ พระยาอินตนนี้ให้สัญญาว่ากูเป็นผีตัวถ่อยร้ายสันนี้ไนยะค

๑๒

manuscript #13

ᨸᩩᨣ᩠ᨣᩡᩃᩮᩣ ᩁᩥᨸᩩᨣᩖᩡᨹᩩᨯᩱᨧᩢᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨲᩯᨼᩣᨲᩣᩅᨲᩥᩴᩈᩣ ᩅᩣᨧᩢᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᩏᩫᩣᨠᩣᩴᩃᩃᩮᩥ᩠ᨯᨶᩱᨴᩬᩙᩉᩯ᩠ᨦᨹᩩᨿᩥ᩠ᨦᨶᩱᨾᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶ ᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨧᩫ᩠ᨶᨶᩱᨴᩥᨶᩥ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨠᩩᨸᩴᨯᩱᩉᩖᩴᨣᩩᨾᨾᩮᩥᩬᨯᩱᨣᩴᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᨯᩱᨸᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩫ᩠ᨶ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨯᩱᨸᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨣᩴᨾᩥᩁᩩ᩠ᨸ
ปุคคะโล อันว่าปุคละผู้ใดจักลงมาแต่ฟ้าตาวติงสา ว่าจักลงมาเกิดเอากำลเลิดในท้องแห่งผู้ยิงในมเมืองคน ลงมาจนในที่นี้ คั้นว่ากูบ่ได้หลอคุมเมื่อใดก็บ่อาสจักได้ไปเกิดเป็นคน แม้นว่าได้ไปเกิดก็มีรูป

ᩋᩢ᩠ᨶᨹᩣ᩠ᨦᩁᩣ᩠ᨿᨿᩥ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩢᨠᩉ᩠ᨶᩣ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯᩢ᩠ᨦᩃᩨᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨾᩣᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣᨠᩩᨯᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨲᩫ᩠ᩅᨳᩭᩁᩣ᩠ᨿᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯᩱ ᩋᩣᩉᩴ ᩁᩥᨠᩩᨣ᩠ᩅᩁᨧᩢᨡᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨶᩥᨸ᩠ᨾᩥᩉᩱᨾᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᩁᩬᨯᨻᩣᩢᨻᩨ᩠ᨶᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶ ᩋᨩ᩠ᨩᩡ ᨶᩱᩅᩢ᩠ᨶᨶᩥᩃᩫ ᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᨶᩥᨣ᩠ᩅᩁ
อันผางร้ายยิ่งหนักหนา เหดดังลือพระยาอินมากล่าวว่ากูได้เกิดเป็นผีตัวถ่อยร้ายเหดใด อาหํ อันว่ากูควนจักข้าพระยาอินตนนี้บ่มิให้มันลงไปรอดพากพื้นเมืองคน อชฺชะ ในวันนี้แล คำอันนี้ควน

ᨣ᩠ᨿᨯᨠᩫ᩠ᩅᩉᩮᩢ᩠ᨯᨠᩣ᩠ᨶᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᨶᩱᨾᩮᩨᩬᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨳᩮᩥ᩠ᨠᩁᩫ᩠ᨾᨻᩮᩥ᩠ᨦᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅ ᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨲᩥᨣᩬᩙᩁᩬᩙᨸᩣ᩠ᩅ ᩋᩮᩥ᩠ᨶᩁ᩠ᨿᨠᨸᩣ᩠ᩅᩈᩮ᩠ᨶᩣ ᩉᩱᨾᩣᩁᩬᨯᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᨠᩩᩙᨴᩩᩢᨣᩫ᩠ᨶ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨣᩣᩴᩅᩣᩉᩱᩈᩩᨴ᩠ᩃᩢᩣᨾᩣᨧᩯ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨯ ᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩏᨸ᩠ᨸᨴᩮᩢ᩠ᨯᩋᩢ᩠ᨶᨧᩢᨯᩱᨡᩣᨿᩢ᩠ᨦᨿᩰ
เคียดกั่วเหดกานทั้งหลาย ในเมื่อพระยาแถนเถิกรมเพิงดังนั้นแล้ว เจ้าก็ตีค้องร้องป่าว เอิ้นเรียกบ่าวเสนา ให้มารอดมาเถิงยังกุงทุกคน ด้วยคำว่าให้สูทั้งหลายมาแจ้งเหด ด้วยอุปปเทดอันจักได้ข้ายังโย

ᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩋᩫ᩠ᨦᨶᩥᩉᩱᨾᩢ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨿᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᨳᩣ᩠ᨿᨩᩯᩖᩡ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᩈᩮ᩠ᨶᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨸᩣ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨡᩮᩫᩣᨣᩴᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᨾᩣᨻᩣᩴᨻᩬᨾᩋᩬᨾᨸᩮᩢ᩠ᨶᨸᩕᩁᩥᩅᩣ᩠ᨶ ᨾᩥᨳᩯ᩠ᨶ ᪖ ᨠᩰ᩠ᩈᨳᩨᨣᩮᩥᩋ᩠ᨦᩈᩰ᩠ᨯᩁᩩᩙᩁᩮᩥ᩠ᨦᨯᩥ ᨾᩥᩁᩔ᩠ᨾᩥᩈᩱᨩᩣ᩠ᨿᨯᩢ᩠ᨦᩉ᩠ᨶ᩠ᩅ᩠ᨿᨠᩫ᩠ᩅ
พระยาอินองนี้ให้มันตายด้วยถ่ายชะแล เมื่อนั้น เสนาทั้งหลาย สุตวา ได้ยินแล้วยังคำป่าวแห่งพระยาแถนดังนั้น เขาก็เอากันมาพ่ำพ้อมอ้อมเป็นประริวาน มีแถน ๖ โกสถือเคื่องโสดรุงเรืองดี มีรัสสมีใสชายดังหน่วยแก้ว

ᨠᩯ᩠ᩅ ᨡᩮᩫᩣᨣᩴ᩠ᨾᩣᩃᩫ᩠ᩅᨡᩣ᩠ᨸᩅᩢ᩠ᨶᨴᩣᩅᩣᨡᩣᩉᩱ᩠ᩅᨾᩉᩣᩁᩣᨩᨧᩮᩫᩣᩋᩫ᩠ᨦᨹᩣ᩠ᨶᩉᩮ᩠ᨦᩫᩣᨩᨾ᩠ᨻᩩ ᩈᩩᨧᩫ᩠ᨦᨼᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨠᩩᨧᩢᨠᩖᩣ᩠ᩅ ᨿᩢ᩠ᨦᨾᩥᨩᩮᩨᩬᩉ᩠ᨶᩴᨴᩣ᩠ᩅᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁᩅᩣᨧᩢᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩃᩥᨴ᩠ᨵᩥᨾᩥᨠᩫ᩠ᨦᨧᩢᨡᩥᨹᩢ᩠ᨶᨹᩣ᩠ᨿ ᨴᩬᩙᩅᩣᩌᩮᩫᩣᨹᩩᩌᩣ᩠ᨿᨸᩮᩢ᩠ᨶᨩᩣ᩠ᩈᨶ᩠ᨿ᩠ᨾᨹᩥ ᨸᩴᩅᩣᩌᩮᩫᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨯᩥᩈᩢ᩠ᨠᩀᩣ᩠ᩈ ᨴᩣᩴᨾᨩᩣ᩠ᩈ
แก้ว เขาก็มาแล้วขาบวันทาว่าข้าไหว้มหาราชเจ้าองผ่านเหง้าชมพู สูจงฟังคำกูจักกล่าว ยังมีเชื้อหน่อท้าวเมืองสวันว่าจักลงไปเมืองคนด้วยลิทธิมิกงจักขี่ผันผาย ท่องว่าเฮาผู้ฮ้ายเป็นชาสเนียมผี บ่ว่าเฮาเป็นดีสักอยาส ทำมชาส

ᨴᩣ᩠ᨶᩉᩣᩢᨾᩣᨶᩧ᩠ᨠᩃᩣ᩠ᨿᩉ᩠ᨾᩣ᩠ᨿᨡ᩠ᩅᩢᩁ ᨹᩥ᩠ᩅᩣᨲᩣ᩠ᨾᩈᩩᨼᩢ᩠ᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᨣ᩠ᩅᩁᨣ᩠ᨿᨯᨸᩴᨧᩣᩈ᩠ᩅᩢᩁᨯᩢ᩠ᨦ ᩈᩮ᩠ᨶᩣᨣᩫ᩠ᨶᩉᩣ᩠ᨶᨺᩩᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨸᩕᩁᩥᩅᩣ᩠ᨶ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨣᩣᩴᩅᩰᩉᩣ᩠ᨶᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᨠᩰ᩠ᨯᨣ᩠ᨿᨯᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨡᩮᩫᩣᨣᩴᨧᩥ᩠ᨦᨠᩫ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᨸᩉᩱ᩠ᩅᩅᩢ᩠ᨶᨴᩣ
ท่านหากมานึกล้ายหมายขวัน ผิว่าตามสูฟังเป็นคำอันควนเคียดบ่จาสวันดัง เสนาคนหานฝูงเป็นประริวาน สุตวา ได้ยินคำโวหานแห่งพระยาแถนอันโกดเคียดดังนั้น เขาก็จิงก้มขาบไหว้วันทา

ᨺᩩᨦᨡᩣᨡᩴᩈᩫ᩠ᨾᨾᩣᨴᩩᩁᨠᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨾᩣᨠᩖᩣ᩠ᩅᩉ᩠ᨿᩴᩉ᩠ᨿᩢᩁᨿᩢ᩠ᨦᨻᩕᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨸᩩᩁᨾᩣᩢ ᨣᩢ᩠ᨶᨯᩱᩋᩬᩢᨸᩣᩢᩅᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨴᩯᨯᩥᩉᩖᩥᩃᩫᨶᩣ ᩋᩉᩴ ᩁᩥᨺᩩᨦᨡᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣᩁᩫ᩠ᨾᨻᩮᩥ᩠ᨦᨻᩥᨶᩣ᩠ᨯᨶᩱᨾᨶ᩠ᨶᩣᨴᩬᩁᩅᩣᨧᩢᨣ᩠ᩅᩁᨡᩣᨴᩯ ᨸᩴᩋᩣ᩠ᩈᨧᩢᨻᩯ᩠ᨦᩅᩱ
ฝูงข้าขอสมมาทูนเกดว่าพระยาอินมากล่าวหย้อหยันยังพระจอมทันบุนมาก คั้นได้ออกปากว่าเป็นผีแท้ดีหลีแลนา อหํ อันว่าฝูงข้าทั้งหลายรมเพิงพินาดในมันนาทอนว่าจักควนข้าแท้ บ่อาสจักแพงไว้

ᩉᩱᨾᩢ᩠ᨶᩈᩨ᩠ᨷᨩᩥᩅᩥᨯᨿᩨ᩠ᨶᨿᩣ᩠ᩅᨲᩴᨸᩱᨣᩴ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᨲ᩠ᨳᩣᩁᩴ ᩁᩥᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨲᩫ᩠ᨠᨲᩯ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᩉᩩᩁᨿᩫ᩠ᨶᩉᩱᨸᩮᩢ᩠ᨶᩁᩩ᩠ᨸᨣᩫ᩠ᨶᨸᩴᨩᩣ ᨸᩬᩢᩉᩱᨳᩨᨯᩣ᩠ᨸᨠᩣᨣᩨ᩠ᩅᩣᨣᩢ᩠ᨶᨩᩱᩈᩥᩉᩱᩁᩥ᩠ᨸᨸᩱᨲᩢ᩠ᨯᩈᩮᩢ᩠ᨿᩈᩥᩈᩴᨿᩢ᩠ᨦᩉᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨯᩰ᩠ᨿᨻᩕᩢᩁ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨲᩢᨯᨡᩣ᩠ᩈᩃᩫ᩠ᩅᩁᩥ᩠ᨸᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ
ให้มันสืบชีวิดยืนยาวต่อไปก็ข้าแล ตถารํ อันว่าพระยาแถนเจ้าก็ตกแต่งยังหุ่นยนให้เป็นรูบคนบ่ช้า บอกให้ถือดาบก้าคือว่าคันไชสีให้รีบไปตัดเสียสีสํยังหัวแห่งพระยาอินโดยพรัน คั้นว่าตัดขาดแล้วรีบคืนมาเท่าวันเทิน

๑๓

manuscript #14

ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨧᩮᩫᩣᨠᩖᩣ᩠ᩅᩃᩫ᩠ᩅᨿᩫ᩠ᨶᨠᩯ᩠ᩅᨹᩣ᩠ᨿᨹᩢ᩠ᨶᨸᩱᩉᩮ᩠ᨾᩦᩁᨯᩢ᩠ᨦᨯᩣ᩠ᩅ ᩈᩕᨯᩮᩢᨯᨼᩢ᩠ᨦᨼᩣ᩠ᩅᩃᩮᩥ᩠ᨿᩃᩮᩫᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨴᩬᩁᨴᩣ᩠ᩅᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣᨸ᩠ᨾᩥᨻᩫ᩠ᨶ ᨿᩫ᩠ᨶᨣᩴᨸᩣ᩠ᨿᨲᩣ᩠ᨿᩣ᩠ᩅᨲ᩠ᩅᨯᨠᩯ᩠ᩅᨦᨸᩯ᩠ᨶᨸᩯ᩠ᨦᨲᩢ᩠ᨯᨻ᩠ᨿᩙᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᩋᨽᩥᩈᩥᨴ᩠ᨵᩥᨲᩫ᩠ᩅᩣ ᩈ᩠ᩅᩢᩁᨯᩢ᩠ᨦᨣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨣᩴᩃᩬᨯᨡᩣ᩠ᩈᨸᩱᨸᩢᨯᨯ᩠ᨿᩅᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣ
คั้นว่าเจ้ากล่าวแล้วยนแก้วผายผันไปเหมือนดังดาว สระเด็ดฟังฟ้าวเลยเล่าเถิงทอนท้าวสักโกบ่มิพ้น ยนก็ปายตายาวตวดแกว่งแปนแปงตัดเพียงหั้นแล อภิสิทธิตวา ส่วนดังคอแห่งพระยาอินก็ลอดขาสไปบัดเดียวหั้นแล คั้นว่า

ᨿᩫ᩠ᨶᨾᩣᩁᩬᨯᩃᩫ᩠ᩅᨡᩣ᩠ᨷᨴᩩᩁᨳ᩠ᩅ᩠ᨿᩅᩣ ᨡᩣᨯᩯᨾᩉᩣᩁᩣᨩᨧᩮᩫᩣᨲᩫ᩠ᨶᩀᩩᨠᩮᩫᩣᨺᩣ᩠ᨿᩃᩮᩣᨠᩣ ᩋᩢ᩠ᨶᩅᩣᨧᩮᩫᩣᨠᩩᩉᩣᩢᩋᩣᨶᩢ᩠ᨯᩉᩱᨸᩱᨲᩢ᩠ᨯᨿᩢ᩠ᨦᨣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨹᩩᨡᩣᨣᩴᨯᩱᨸᩱᨲᩢ᩠ᨯᨴᩯᨲᩣ᩠ᨾᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᨠᩩᩋᩢ᩠ᨶᨸᩬᩢᨶᩢ᩠ᨶ
ยนมารอดแล้วขาบทูนถวยว่า ข้าแด่มหาราชเจ้าตนอยู่เก้าฝ่ายโลกา อันว่าเจ้ากูหากอานัดให้ไปตัดยังคอแห่งพระยาอินว่าดังนั้น ผู้ข้าก็ได้ไปตัดแท้ตามคำแห่งเจ้ากูอันบอกนั้น

ᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᨳᩣᩁᩮᩈᩣᩁ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨣᩴᨩᩫ᩠ᨾᨩᩧ᩠ᨶᨿᩥ᩠ᨶᨯᩥᨯᩣ᩠ᨿᨣᩣᩴᨠᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩣᨧᩱ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨣᩴᩃᩬᨯᩃᩨ᩠ᨷᩈᩮᩢ᩠ᨿᨯᩣ᩠ᨿᩉᩩᩁᨿᩫ᩠ᨶᩉᩱᩃᩫ᩠ᩅ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨯᩱᨯᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨾᩢ᩠ᨠᩉᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶᨿᩣ᩠ᨾᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨸᩢ᩠ᨯᨶᩥᨧᩢᨧᩣᨾᩮᩥᩬᨻᩣ᩠ᨿ
ก็ข้าแล ถาเรสาร สวนดังพระยาแถน สุตวา ได้ยินแล้วก็ชมชื่นยินดีดายคำพันหนาใจ พระยาแถนก็ลอดลืบเสียดายหุ่นยนให้แล้ว เหดว่าได้ดังคำมักแห่งตนยามนั้นแล บัดนี้จักจาเมื่อพาย-

ᨴᩮᩥ᩠ᨦᨳᩮᩥ᩠ᨦᨲᩣᩅᨲᩥᩴᩈᩣᨩᩢ᩠ᨶᨼᩣᨳ᩠ᩅᩁᩉ᩠ᨶᩣᨩᩧ᩠ᩅᩣᨶᩣᩙᩈᩩᨴ᩠ᨵᨯᩣ ᩉᩖᩥ᩠ᨦᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᩉᩮᩢ᩠ᨶᨹᩫ᩠ᩅᨾᩥ᩠ᨦᨲᩣ᩠ᨿᨠᩮᩥ᩠ᨠᨠᩥ᩠ᨦᨸᩴᨾᩦᩉᩫ᩠ᩅᨶᩢ᩠ᨶ ᨧᩥ᩠ᨦᨾᩮᩫᩣᨾᩫ᩠ᩅᩀᩩᩁᩬᨦᩉᩱᨶᩩᨾᨠᩬᨯᨠᩯ᩠ᩅᨯᩱᩃᩫ᩠ᩅᩁᩥ᩠ᨸᨲᩰ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨯᩰ᩠ᨿᨻᩖᩢᩁ ᨹᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᩁᩬᨯᩉᩱᨾᩣᩁᩬᨯᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨴᩱᨹᩫ᩠ᩅᨡᩢ᩠ᩅᩁ ᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᨲᩦᩋᩫ᩠ᨠᨲᩫ᩠ᨶᩁᩬᨦ
เทิงเถิงตาวติงสาชั้นฟ้าถ้วนหน้าชื่อว่านางสุทธดา หลีงลงมาเห็นผัวมิ่งตายเกิกกิ้งบ่มีหัวนั้น จิงเมามัวอยู่ร้องไห้นุมกอดแก้วได้แล้วรีบโตนลงมาโดยพลัน ผันลงมารอดให้มารอดเจ้าหน่อไท้ผัวขวัน นางจิงตีอกตนร้อง-

ᩉᩱᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣ ᩋᩰᨶᩴᩈᩣ᩠ᨿᨧᩱᩌᩮᩥ᩠ᨿᨧᩮᩫᩣᨡᩭᩉᩣ᩠ᨾᨧᩭᪧᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨸ᩠ᨾᩥᨼᩢ᩠ᨦ ᩋᩰᨶᩴᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁᨡᩭᨴᩕ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁᩌᩢ᩠ᨠᨿᩥ᩠ᨦᩌ᩠ᨿ᩠ᨾᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨸᩢᨯᨶᩥᨹᩱᨧᩢᨾᩣᨸᩣᩢᩅᩮᩫᩣᨲᩣ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨧᩥᨩᩥᨣᩨᨧᩮᩫᩣᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᩋᩰᨶᩴᨧᩮᩫᩣᨶᩥᩃᩮᩫᩣᨾᩣᨲᩣ᩠ᨿᨸᩴᩁᨶᩣᨧᩱᨡᩣ᩠ᩈᩃᩫ᩠ᩅᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨩᩥᩈᩣᨶᩴ ᨹᩥ᩠ᩅᨡᩭᩉᩣ᩠ᨾᨧᩮᩫᩣᨼᩢ᩠ᨦᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨾᨸ᩠ᨾᩥᨲᩣ᩠ᨿ
ไห้กล่าวว่า โอ้นอสายใจเอยเจ้าข้อยห้ามจ้อย ๆ เจ้าก็บ่มิฟัง โอ้นอผัวขวันข้อยทรงสวันฮักยิ่งเฮียมเอย บัดนี้ไผจักมาปากเว้าต้านเจ้าจิซิคือเจ้าเอย โอ้นอเจ้านี่เล่ามาตายบ่รนาใจขาสแล้วเป็นผีชีสานอ ผิว่าข้อยห้ามเจ้าฟังความบ่มิตาย

ᨾᩩᨯᨾᩬᨯ ᨸᩢ᩠ᨯᨶᩥᨶᩣᩙᨣᩴᨠᩬᨯᩋᩩᨾᩏᩫᩣᨹᩫ᩠ᩅᨸ᩠ᨾᩥᩅᩣ᩠ᨦ ᨶᩣᩙᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᩁᩬᨦᩉᩱᩃᩮᩥ᩠ᨿᩃᩮᩫᩣᨠᩬᨯᨯᩱᨲᩯᩃᩮᩫᩣᨣᩥ᩠ᨦ ᨾᩮᩥᩬᨳᩮᩥ᩠ᨦᩉᩬᩙᩉᩴᨸᩣ᩠ᨶᨡᩬᩙᨠᩮᩫᩣᩋᩩᨾᨠᩬᨯᨧᩮᩫᩣᩉᩥ᩠ᩅᩉᩱᨸᩴᩅᩣ᩠ᨦ ᩋᩰᨶᩴᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨲᩣ᩠ᨿᨸ᩠ᨾᩥᨹᩱᩉᩱ ᨸᩢ᩠ᨯᨶᩥᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴ
มุดมอด บัดนี้นางก็กอดอุ้มเอาผัวบ่มิวาง นางจอมทันร้องไห้เลยเลากอดได้แต่เลาคิง เมื่อเถิงห้องหอบ้านของเก่าอุ้มกอดเจ้าหิวไห้บ่วาง โอ้นอเจ้าหากตายบ่มีไผไห้ บัดนี้เจ้าหน่อ-

ᨴᩱᨿᩢ᩠ᨦᩌᩩᨾᩮᩨᩬᨣᩥ᩠ᨦᨸᩴᨶᩴ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᩃᩩᩢᩋᩬᩁᨶᩭᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨡᩮᩫᩣᨠᩴᩏᩫᩣᨠᩢ᩠ᨶᨾᩣᩌᩬᩙᩉᩱ ᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨶᩣᩙᩉ᩠ᨶᩴᨴᩱᨾᩮᩢ᩠ᨿᨲᩫ᩠ᨶ ᪓ ᨻᩢ᩠ᨶᨣᩫ᩠ᨶᨼᩢ᩠ᨦᨼᩣ᩠ᩅᨾᩣᩌᩬᨯᨴᩣ᩠ᩅᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣᨸ᩠ᨾᩥᩉᩫ᩠ᩅᨾᩥᨲᩫ᩠ᩅᨯᩣ᩠ᨿᨸᩮᩫᩣᩈ᩠ᨿᩙᩉᩱᩋᩮᩫᩣᨲᩮᩢ᩠ᨾᩈ᩠ᩅᩢᩁ
ไท้ยังฮู้เมื่อคิงบ่นอ เมื่อนั้นลูกอ่อนน้อยฝูงหมู่เทวบุดเขาก็เอากันมาฮ้องไห้ ฝูงหมู่นางหน่อไท้เมียตน ๓ พันคนฟั่งฟ้าวมาฮอดท้าวสักโกบ่มีหัวมีตัวดายเบาเสียงไห้เอ้าเต็มสวัน

ᨴᩢ᩠ᨶᨠᩢ᩠ᨶᨾᩣᩉ᩠ᨾᩫᨯᩉ᩠ᨾᩩᨩᩡᨽᩩᨻᩬᨾ᪖ᩈᩯ᩠ᨶᨣᩯ᩠ᨶᨧᩱᩉᩥ᩠ᩅᩉᩱ᩠ᨴᨯᨡᩮᩫᩣᨠᩱᩃᩫ᩠ᨾᨴᩣ᩠ᩅᨲᩣ᩠ᨿᨶᩮᩥ᩠ᨶ ᨶᩣᩙᨧᩬᨾᨾᩮᩥ᩠ᨦᩃᩫ᩠ᨾᨴᩣ᩠ᩅᨯᩥ᩠ᨶᨯᩣ᩠ᩅᪧᨲᩣ᩠ᨿᨣᩨ᩠ᨶ ᩃᩫ᩠ᨾᨴᩢ᩠ᨦᩀᩧ᩠ᨶᨯᩮᩢ᩠ᨿᩁᨯᩣ᩠ᩈᩃᩫ᩠ᨾᨴᩯ᩠ᩃᨴᩱᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣ ᩈ᩠ᨿᩙᩉᩱᩌᩰᨲᩮᩢ᩠ᨾᩈ᩠ᩅᩢᩁᨾᩮᩥ᩠ᨦᨼᩣ ᩉᩮ᩠ᨦᩥᩉᩱᩖᩋᩣ᩠ᨷᨿᩭ
ทันกันมาหมดหมู่ชะภูพ้อม ๖ แสนแค้นใจหิวไห้ทดเข้าไก้ล้มทาวตายเนิน นางจอมเมืองล้มทาวดิ้นด่าว ๆ ตายคืน ล้มทั้งยืนเดียรดาสล้มแท้แลไท้สักโก เสียงไห้โฮเต็มสวันเมืองฟ้า เหงื่อไหลอาบย้อย

๑๔

manuscript #15

ᩌᩣᨲᩫ᩠ᨶᨻᩕᨴᩢᩔᩣᨻᩫ᩠ᨶᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᩈᩢ᩠ᨦᩃᩮᩫᩣᨾᩣᩅᩣ᩠ᨦᨣᩥ᩠ᨦᨲᩣ᩠ᨿ ᩋᩣ᩠ᩈᩉᩖᩣ᩠ᨿᩅᩣᨾᩯ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨧᩱᨡᩣ᩠ᩈ ᩈᩢ᩠ᨦᨾᩣᩉᩮᩢ᩠ᨶᨣᩣ᩠ᨿᨧᩮᩫᩣᩀᩩᩋᩮᩥᩬᩃᩮᩥᩬ ᩅᩣᩒᨶᩴᨠᩣᨠᩥ᩠ᨶᩃᩩᩢᩉ᩠ᨾᩣᩢᨡᩮᩥᩬᩉᩮᩖᩥᩋᨧᩱᨯᩮ ᩒᨶᩴᨧᩮᩫᩣᨣᩣ᩠ᩈᨲᩯᨼᩣ ᨧᩥ᩠ᨦᨯᩱᨯ᩠ᩅᩁᩃᩫ᩠ᨦᨧᩱᨲᩣ᩠ᨾᩅᩱᩈᩱᩉᩯ᩠ᨦ
ราตนพระทัสสาพนเอย หน่อฟ้าสังเล่ามาวางคิงตาย อาสหลายว่าแม้นเจ้าใจขาส สังมาเห็นกายเจ้าอยู่เอื้อเลื้อ ว่าโอ้นอกากินลูกหมากเขือเหลือใจเด โอ้นอเจ้าคาสแต่ฟ้า จิงได้ด่วนลงใจตามไวไสแห่ง

ᨠᩣᩴᩅᩮᩢ᩠ᨶ ᨹᩱᨾᩣᨸ᩠ᨾᩥᩁᩩᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨲᩣ᩠ᨿᩅᩣᨸᩴᨯᩱᩈᩢ᩠ᨦᨡᩭ ᩉᩱᨧᩮᩫᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣᩈᩣᪧᪧᨿᩮᩥᩡ ᨸᩩᩁᨲᩯᨣᩮᩫᩣᨡᩴᩉᩱᨾᩣᨶᩣᩴᩅᩢ᩠ᨶ ᨸᩩᩁᨲᩯᩉᩖᩢᨦᨡᩴᩉᩱᨾᩣᨶᩣᩴᩁᩬᨯ ᨡᩴᩉᩱᩏᩫᩣᨧᩮᩫᩣᨿᩬᨯᨴᩱᨲᩣ᩠ᩅᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣ ᨲᨴᩣᨶᩱᩉᩖᩡ
กำเวนไผมาบ่มิรู้ เจ้าหากตายว่าบ่ได้สั่งข้อย ให้เจ้าเกิดคืนมาสาๆๆ เยอ บุนแต่เค้าขอให้มานำวัน บุนแต่หลังขอให้มานำรอด ขอให้เอาเจ้ายอดไท้ต้าวคืนมา ตทาในหละ

ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨶᩣᩙᨠᩬᨯᨣᩣ᩠ᨿᨹᩫ᩠ᩅᨸᩴᨾᩥᩅᩣ᩠ᨦ ᩅᩣᩒᨶᩴᨹᩱᨧᩢᨾᩣᨾᩥᨸᩫ᩠ᩅ ᩏᩫᩣᨹᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨠᩩᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣᨯᩢ᩠ᨦᨠᩮᩫᩣ ᨲᩣ᩠ᨿᨠᩮᩥ᩠ᨯᩃᩫ᩠ᩅᩃᩮᩫᩣ᪒ᨴᩥ ᨿᩢ᩠ᨦᨩᩥᨯᩱᨸᩴᨯᩮᨶᩴ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕᩈᩣ᩠ᨿᨣᩴᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨡᩭᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᩈᩴᨾᩣᨲᩣ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᩥᨧᩣᩢ
เมื่อนั้นบั้นนางสุชชดานางกอดกายผัวบ่มิวาง ว่าโอ้นอไผจักมามีปัวเอาผัวแห่งกูคืนมาดังเก่า ตายเกิดแล้วเล่า ๒ ที ยังซิได้บ่เดนอ เมื่อนั้นพระสายคอหน่อฟ้าข้อยเอย สังมาตายหนีจาก

ᩃᩣᩴᨸᩣᩢᨧᩮᩫᩣᨸᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩦᨶᩢ᩠ᨶᩃᩨ ᨹᩱᨧᩢᨾᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨠᩥ᩠ᨶ ᪒ ᩈ᩠ᩅᩢᩁᨩᩢ᩠ᨶᨼᩣᨯᩮᨶᩴ ᨧᩮᩫᩣᩉᩯᩖᨦᩉᩖᩣᨸᩱᨠᩮᩥ᩠ᨯᨶᩱᨸᩣᨸᩱᨴᩣ᩠ᨦᨯᩱᨯᩮᨶᩣᩴ ᨸᩢ᩠ᨯᨳᩮᩣᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨲᩮᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨹᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᩃᩩᩢᨩᩣ᩠ᨿᨡᩬᩙᨠᩮᩫᩣᨾᩣᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᨡᩴᩅᩬᩁ ᨸᩢᨯᨶᩥᨹᩩᨡᩣᨡᩴᨳ᩠ᩅ᩠ᨿ
ลำบากเจ้าไปเกิดเป็นผีนั้นลือ ไผจักมาเป็นพระยาอินกิน ๒ สวันชั้นฟ้าเดนอ เจ้าแหล่งหล้าไปเกิดในป่าไปทางได้เดนอ ปัดโถเทวปุดโต ส่วนดังเทวบุดผู้เป็นลูกชายของเก้ามาขาบไหว้ขอวอนบัดนี้ผู้ข้าขอถวย

ᨻᩬᩁᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈ ᨡᩴᩉᩱᨾᩯ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨧᩫ᩠ᨦᩋᩣᨶᩩᨿᩣ᩠ᩈᩉᩱᨠᩯᨹᩩᨡᩣᩉᩖᩣ᩠ᨿᪧ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨣᩣ᩠ᨿᨹᩥᨲᩣ᩠ᨿᨸᩴᩉ᩠ᩅᩁᨯᩱᨣᩨᨾᩣ ᪒ ᨲ᩠ᩅᩣ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨸᩕᩅᩱᨯᩱᩉᩣᩢᨧᩣᩢᩉᩮ᩠ᨶᩢᩣᩉᩮ᩠ᨾᩢᩁᨡᩫ᩠ᨶᨣ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᩋᩢ᩠ᨿᨸᩥᨧᩣᨸᩕᨠᩣ᩠ᨶ ᪑ ᨡᩴᨠᩯᨾᩯ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᩀᩣᨯᩱᩋᩩᨾᨠᩬᨯ
พอนพระบาส ขอให้แมนเป็นเจ้าจงอานุยาสให้แก่ผู้ข้าหลายๆ ส่วนดังกายผีตายบ่ห่อนได้คือมา ๒ ตวา แม้นว่าประไวได้หากจากเหน้าเหม็นขนก็ข้าแล อัยปิจาประกาน ๑ ขอแก่แมนเป็นเจ้าอย่าได้อุ้มกอด

ᩅᩱᩉᩱᨸᩭᩅᩣ᩠ᨦᩈᩮᩢ᩠ᨿᨣᩴ᩠ᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨸᩢᨧ᩠ᨧᨸᨶ᩠ᨶᩮᨸᩕᨠᩣ᩠ᨶ ᪑ ᨾᩯ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨧᩫ᩠ᨦᩉᩱᨹᩩᨡᩣᩏᩫᩣᨸᩱᨾ᩠ᨿ᩠ᨶᩈᩱᩉ᩠ᨿᩴᨣᩣᩴᨯᩅ᩠ᨿᨧᩣᩴᨶᩣᩴᨣᩣ᩠ᨿᩁᩣ᩠ᨿᩉᩣᩢᨧᩢᨯᩱᨸᩱᨧᩩᨯᨹᩮᩫᩣᨹᩥᨣᩴ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱ
ไว้ให้ป่อยวางเสียก็ข้าเทิน ปัจฺจปนฺเนประกาน ๑ แมนเป็นเจ้าจงให้ผู้ข้าเอาไปเมี้ยนใส่หยอคำด้วยจำนำกายรายหากจักได้ไปจุดเผาผีก็ข้าแล เมื่อนั้นบั้นนางสุชชดา สุตวา ได้-

ᨿᩥ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᩃᩩᩢᨠᩯ᩠ᩅᨾᩣᩅᩬᩁᨡᩴᨻᩬᩁᨳ᩠ᩅ᩠ᨿᨶᩩ᩠ᩈᨣᩣ᩠ᨿᨶᩣᩙᩉᩱᨶᩣ᩠ᩈᨣᩣᩴᨡᩯ᩠ᨦ ᩈᩩᨶᩥᨲᩥ ᩉᩣᩢᨧᩱᨻᩣᩃᩮᩣᨳᩭᩁᩣ᩠ᨿᩅᩣᨧᩢᨾᩣᨿᩣ᩠ᩈᨯᩱᨿᩢ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅᩋᩬᩢᨧᩣᩢᨾᩨᩉᩯ᩠ᨦᨠᩩᨾᩮᩥᩬᨯᩱ ᨠᩩᨸᩴᩅᩣ᩠ᨦᨣᩣ᩠ᨿᨹᩫ᩠ᩅᨠᩩᨧᩢᨺᩣ᩠ᨯᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨹᩱ
ยินแล้วยังลูกแก้วมาวอนขอพอนถวยนุสกายนางไห้นาสคำแขง สุนิติ หากใจพาโลถ่อยร้ายว่าจักมายาสได้ยังผัวออกจากมือแห่งกูเมื่อใด กูบ่วางกายผัวกูจักฝาดแม้นว่าไผ

ᨾᩣᨿᩣ᩠ᩈᩋᩬᩢᨧᩣᩢᨾᩨᩉᩯ᩠ᨦᨠᩩᩉᩣᩢᨧᩢᨲᩣ᩠ᨿᨯᩅ᩠ᨿᨯᩣ᩠ᨷᨣᩢ᩠ᨶᨩᩱᩈᩥ ᨠᩩᨧᩢᨼᩢ᩠ᨶᨸᩴᩀᩣᨸᩣ᩠ᩈᨩᩣ᩠ᩅᨹᩣᩉᩫ᩠ᩅᨾᩢ᩠ᨶᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨺᩩᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨸᩕᩁᩥᩅᩣ᩠ᨶᨡᩬᩙᨠᩮᩫ᩠ᩅᨠᩮᩫᩣ ᨾᩣᨡᩣ᩠ᨷᨠᩮᩫᩣᨴᩩᩁᨳ᩠ᩅ᩠ᨿ ᨺᩩᨦᨡᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ᪕ᩁᩭᨡᩴᨾ᩠ᨿ᩠ᨶᨩᩭᨩᩬᨾᨾᩮᩥ᩠ᨦᨠᩴ᩠ᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬ
มายาสออกจากมือแห่งกูหากจักตายด้วยดาบคันไชสี กูจักฟันบ่อย่าปาสซาวผ่าหัวมันหั้นแล ส่วนดังเทวบุดฝูงเป็นประริวานของแก้วเก้า มาขาบเก้าทูนถวย ฝูงข้าทั้งหลาย ๕ ร้อยขอเมี้ยนช่อยชอมเมิงก็ข้าแลเทิน เมื่อ-

๑๕

manuscript #16

ᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨾᨡᩮᩫᩣᨠᩖᩣ᩠ᩅ ᨳᩬᨯᨯᩣ᩠ᨷᨠᩣᨯ᩠ᩅᩙᩈᩯ᩠ᨶᨾᩥᩃᩥᨴ᩠ᨵᩥᩌᩯᨸᩣ᩠ᨶᨼᩣᩉᩮᩖᩥᨾ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨴᩮᩅᨸᩩᨯᨴ᩠ᩃᩢᩣᨠᩫ᩠ᩅᨣᩣᩴᨲᩣ᩠ᨿᩉᩱᩉ᩠ᨶᩥᨼᩢ᩠ᨦᨼᩣ᩠ᩅᨡᩮᩫᩣᨲᩣ᩠ᩅᩉ᩠ᨶᩣᨣᩨ᩠ᨶᨾᩮᩨᩬᨳᩮᩥ᩠ᨦᩉᩴᨣᩣᩴᩃᩥᩀᩩᨩᩋ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩣᨿᩥ᩠ᨶᨠᩫ᩠ᩅᨣ᩠ᨾᩥᩃᩯ ᨸᩢᨯᨶᩥᨧᩢᨠᩖᩣ᩠ᩅᨳᩮᩥ᩠ᨦᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨠᩯ᩠ᨶ
นั้นนางสุชชดาได้ยินความเขากล่าว ถอดดาบก้าดวงแสนมีลิทธิแฮปานฟ้าเหลิม คั้นว่าเทวบุดทั้งหลายกัวคำตายไห้หนีฟังฟ้าวเข้าต้าวหน้าคืนเมือเถิงหอคำลี้อยู่ช่องหน้ายินกัวก็มีแล บัดนี้จักกล่าวเถิงนางสุชชดาแก่น

ᨴᩱᩋᩩᨾᨠᩣ᩠ᨿᩉᩱᨸ᩠ᨾᩥᩅᩣ᩠ᨦᨠᩬᩁᩃᩫ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨦᨧᩬᨾᨠᩯ᩠ᨶᨯᩥ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᩈ᩠ᨿᩙᩉᩱᨯᩥ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶᨶᩮᩥ᩠ᨦ ᨺᩩᨦᨩᩣ᩠ᩅᨴᩱᨸᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁᨸ᩠ᨾᩥᨹᩱᨧᩢᨸᩣᩢᨯᩱ ᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨠᩫ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᨧᩮᩫᩣᩉᩱ᩠ᨶᩴᨴᩱᨶᩣᩙᨾᩮᩥ᩠ᨦᩉᩢ᩠ᨶᩃᩯ ᨲᨴᩣ ᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᨶᩣᩙᨣᩴᩋᩩᨾᨣᩣ᩠ᨿᨹᩫ᩠ᩅ ᨠᩩᨧᩢ
ไท้อุ้มกายไห้บ่มิวางก่อนแล เมื่อนั้นบั้นนางจอมแก่นดิ้นดังเสียงไห้ดิ้นดังนั้นเนิง ฝูงชาวไท้เมืองสวันบ่มีไผจักปากได้ เหดว่ากัวยังเจ้าหน่อไท้นางเมื่อหั้นแล ตทา ในกลาเมื่อนั้น นางก็อุ้มกายผัว กูจัก

ᨸᩱᩉᩣᩉᩫ᩠ᩅᨾᩣᨲᩴᨠᩬᩁᩃᩫ ᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᩋᩩᨾᨠᩬᨯᩃᩫ᩠ᩅᩃᩬᨯᩏᩫᩣᨸᩱ ᨶᩣᩙᨣᩴᨻᩣᨹᩫ᩠ᩅᨡᩧ᩠ᨶᩅᩮᩉᩣᩋᩣᨠᩣ᩠ᩈᨻᩣ᩠ᨿᨲᩴᨴᩮᩫᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨾᩉᩣᨻᩫ᩠ᨾ ᨶᩣᩙᨣᩴᩏᩫᩣᨡᩮᩫᩣᨸᩱᨸᩮᩥ᩠ᨦᨹᩣᩈᩣ᩠ᨯᨻᩕᨾ᩠ᨾᩃᩣ᩠ᨯᩃᩮᩫᩣᩃᩮᩥ᩠ᨿᩉᩮᩢ᩠ᨶ ᩒᨶᩴᨶᩣᩙᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨸᩮᩢ᩠ᨶ
ไปหาหัวมาต่อก่อนแล เจ้าหน่อแก้วอุ้มกอดแล้วลอดเอาไป นางก็พาผัวขึ้นเวหาอากาสภายต่อเท่าเถิงมหาพม นางก็เอาเข้าไปเบื้องผาสาดพรมมลาดเลาเลยเห็น โอ้นอนางเอย เป็น-

ᩈᩢ᩠ᨦᨯᩱᨧᩧ᩠ᨦᩋᩩᨾᩏᩫᩣᨠᩣ᩠ᨿᨹᩥᨲᩣ᩠ᨿᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨡᩭᨯᩢ᩠ᨦᨶᩦᨶᩴ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᨸᩢ᩠ᨦᩅᩱᨿᩢ᩠ᨦᨣᩣ᩠ᨿᨹᩥᨴ᩠ᨿ᩠ᨾᨡᩢ᩠ᩅᩣ᩠ᨦᨴ᩠ᨿ᩠ᨾᨲᩫ᩠ᨶᩈᩫ᩠ᨶᩁᩅᩫ᩠ᨶᨡᩣ᩠ᨸᩉᩱ᩠ᩅᨡᩴᨠᩯᨻᩕᨾ᩠ᨾᩃᩣ᩠ᩈᨴᩱ ᨧᩮᩫᩣᨧᩥ᩠ᨦᨠᩩᨶᩣᨹᩩᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᩁᩥᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨲᩮᩣᨧᩢ᩠ᨦᩁᩱᨹᩩᨳᩭᨲᩢ᩠ᨯᩉᩫ᩠ᩅᨹᩫ᩠ᩅᨡᩭᨶᩭᩉᩱᨡᩣ᩠ᩈᨾᩴᩁᨶᩣ ᨡᩴᨠᩯ
สังใดจิงอุ้มเอากายผีตายมาเถิงข้อยดังนี้นอ เมื่อนั้นนางนาสน้อยบังไว้ยังกายผีเทียมขวางเทียมตนสนรวนขาบไหว้ขอแก่พรมมลาสไท้ เจ้าจิงกุนาผู้ข้าเทิน อันว่าพระยาแถนโตจังไรผู้ถ่อยตัดหัวผัวข้อยน้อยให้ขาสมอรนา ขอแก่

ᨻᩕᩁᩣᨩᩣᨹᩣ᩠ᨿᨹᩰ᩠ᨯ ᨡᩴᩉᩱᨻᩫ᩠ᨶᨴᩰ᩠ᨯᩁᩣ᩠ᨿᩃᩮᩫᩣᪧᨴᩥᩉᩣᩉᩫ᩠ᩅᨯᩥᨾᩣᨲᩴᨡᩭᨶᩭᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᨻᩫ᩠ᨾᨧᩥ᩠ᨦᨳᩣ᩠ᨾᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨧᩮᩫᩣᨯᩱᩉᩫ᩠ᩅᨠᩮᩫᩣᨳᩨᨾᩣᨻᩣᩴᨻᩬᨾᨸᩴᨧᩣ ᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᨠᩫ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᨷᩃᩫ᩠ᩅᩅᨶ᩠ᨴᩣ ᨹᩩᨡᩣᨸᩴᨯᩱᨳᩨᩉᩫ᩠ᩅᨾᩣᨻᩣᩴᨻᩬᨾ
พระราชาผายโผด ขอให้พ้นโทดร้ายเลาๆที่หาหัวดีมาต่อข้อยน้อยเทิน เมื่อนั้นบั้นพระยาพมจิงถามว่า ดูรานางสุชชดาเอย เจ้าได้หัวเก่าถือมาพ่ำพ้อมบ่จา นางสุชชดาหน่อแก้วก้มขาบแล้ววันทา ผู้ข้าบ่ได้ถือหัวมาพ่ำพ้อม

ᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᨡᩴᩉᩱᨻᩕᨸᩣ᩠ᨯᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩉᩫ᩠ᩅᩉᩱ᩠ᨾᨾᩣᨲᩣ᩠ᨾᨠᩴ᩠ᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨻᩕᨾ᩠ᨾᩃᩮᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨾᩉᩣᨻᩕ᩠ᨾ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨣᩣᩴᩉᩯ᩠ᨦᨶᩣᩙᨧᩮᩫᩣᨣᩴᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣ ᨯᩩᩕᩣᨶᩣ᩠ᨦ ᩌᩮᩫᩣᨣᩴᨸᩴᩋᩣ᩠ᨯᨧᩢᩉᩣᨯᩱᩉᩫ᩠ᩅᩉᩱ᩠ᨾᨾᩣᨲᩣ᩠ᨾ ᨹᩥ᩠ᩅᩣᨶᩣᩙᩉᩣᩢᨸᩴᩏᩫᩣᩉᩫ᩠ᩅᨡᩬᩙ
ก็ข้าแล ขอให้พระบาดเจ้าหาหัวใหม่มาตามก็ข้าเทิน พรมมโล ส่วนดังมหาพรม สุตวา ได้ยินคำแห่งนางเจ้าก็กล่าวว่า ดูรานางเฮาก็บ่อาดจักหาได้หัวใหม่มาตาม ผิว่านางหากบ่เอาหัวของ

ᨠᩮᩫᩣᨾᩣᩁᩬᨯᩉᩱᨠᩯᩌᩮᩫᩣᨲᩢ᩠ᨯᨲᩴᩀᩣᨯᩱᩅᩮᩫᩣᩃ᩠ᨿ᩠ᩅᩃᩫ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩥᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᩅᩣᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨹᩩᩉᩣᨴᩥᨻᩮᩥ᩠ᨦᨸᩴᨯᩱ ᩁᩬᨦᩁᩣᩴᩉᩱᨠᩬᨯᩏᩫᩣᨹᩫ᩠ᩅᩃᩣᩃᩫ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩥᨼᩣ᩠ᩅᨼᩢ᩠ᨦᨸ᩠ᨾᩥᨶᩢᩣ᩠ᨶ ᨶᩣ᩠ᨦᨣᩴᨴᩡᨿᩣ᩠ᨶᨡᩧ᩠ᨶᨾᩮᩥᩬᩈᩩᩋᩣᨠᩣ᩠ᨯ ᨦᩣ᩠ᨾᨻᩥᩁᩣ᩠ᨯᩉᩮ᩠ᨾᩥᩁ
เก่ามารอดให้แก่เฮาตัดต่ออย่าได้เว้าเลี้ยวลงหนีเท่าวันเทิน ส่วนดังว่านางสุชชดาผู้หาที่เพิ่งบ่ได้ ร้องร่ำไห้กอดเอาผัวลาลงหนีฟ้าวฟังบ่มินาน นางก็ทะยานขึ้นเมือสู่อากาด งามพิราดเหมือน

ᨯᩢ᩠ᨦᩉᩫ᩠ᨦᨣᩣᩴ ᨶᩣ᩠ᨦᨣᩴᨶᩣᩴᩅᩣᨿᩮᩣᩉ᩠ᨾᩩᩃᩫ᩠ᨾᨣ᩠ᩅᩢᩁᨺᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨠ᩠ᨿᩅᨼᩣᨻᩣ᩠ᨿᨸᩫ᩠ᨶ ᨲᩣ᩠ᨾᩅᩮᩢ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨧᩢᨿᩣᩢᩃᩮᩥ᩠ᨿᩃᩮᩫᩣᩃᩣᩴᨸᩣᩢ ᩒᨶᩴᨶᩥᨧᩣᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨠᩢ᩠ᨶᩃᩡᨿᩣᩁᩬᩙᩉᩱᨸᩱᨧᩱᪧᨸᩴᩉᩖ᩠ᨿᩅᨣᩧ᩠ᨶ ᨴᩣᩴᨻ᩠ᨿ᩠ᨶᨸᩥ᩠ᨶᨸᩩᩉ᩠ᨾᩋᩢᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᨡᩬᨸᩋᩢᨠ᩠ᨠᩣᨶᩥᨮᩣᨻᩕ᩠ᨾ ᨶᩣᩙᨯᩫ᩠ᨾᨸᩱᩁᩬᨯᨳᩮᩥ᩠ᨦ
ดังหงคำ นางก็นำวาโยหมู่ลมควันฝ่าเถิงเกี้ยวฟ้าพายบน ตามเวนตนจักยากเลยเลาลำบาก โอนอนิจานางสุชชดากันละยาร้องไห้ไปไจ้ๆ บ่เหลียวคืน ทำเพียนบินปุหมอกไปเถิงขอบอักกานิฐาพรม นางดมไปรอดเถิง

๑๖

manuscript #17

ᩈᩖᩣᩀᩮᩢ᩠ᨶᨴᩯ᩠ᨶᨠᩯ᩠ᩅ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨸᩱᩁᩬᨯᩃᩫ᩠ᩅ ᨶᩣᩙᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᨣᩴᨩᩮᩫᩣᩀᩩᨾᩥᩁᩯ᩠ᨦᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᨧᩬᨾᨻᩯ᩠ᨦᩁᩬᩙᩉᩱᨸᩫ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅᩅᩱᨠᩣ᩠ᨦᨲᩮᩫᩣᩈᩫ᩠ᨾᩈᩮᩖᩫᩣᨩᩮᩫᩣᨶᩬᩁᨻᩢ᩠ᨠᩉᩮ᩠ᨶᩥ᩠ᨿᩉᩣ᩠ᨿᨾᩮᩥ᩠ᨿᩃᩫ᩠ᩅᨠᩬᨯᩏᩫᩣᨹᩫ᩠ᩅᨠᩯ᩠ᩅᩃᩮᩫᩣᩃᩮᩥ᩠ᨿᨸᩱ ᩉᩖ᩠ᨿᩅᨾᩮᩨᩬᨼᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣ᩠ᩅᩢᩁᩉᩖ᩠ᨿᩅᨾᩮᩨᩬᩉᩖᩢᨦᨸᩮᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩋᩢ
สาลาเย็นแท่นแก้ว คั้นว่าไปรอดแล้ว นางหน่อแก้วก็เซาอยู่มีแรงหั้นแล เมื่อนั้นนางจอมแพงร้องไห้ปงผัวไว้กางเตาสมสเลาเซานอนพักเหนื่อยหายเมื่อยแล้วกอดเอาผัวแก้วเลาเลยไป เหลียวเมือฟ้าเป็นควันเหลียวเมือหลังเป็นหมอก

ᩉᩮ᩠ᨾᩥᩁᨯᩢ᩠ᨦᩋᩬᩢᨶᩬᩢᨼᩣᩌᩮᩁᩫ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨾᨸᩩᩁᨲᩫ᩠ᨶᨴᩩᩢᨿᩣᩢᨶᩣ᩠ᨶ ᨣᩴᨸᩣᩢᩋᩣ᩠ᩅᩉᩣᨣᩩᩃᩦ ᨡᩴᩉᩱᨹᩩᨾᩥᨸᩩᩁᩈᩫᨾ᩠ᨻᩣ᩠ᨶᨠᩯᨠᩣᨾᩢ᩠ᨠᨣᩱᩀᩣᩢᩉᩱᨴᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣᩋᩦ᩠ᨠᪧᨴᩦ ᩒᨶᩴᨡᩴᨠᩯᨸᩣᩁᨾᩦᩋᩢ᩠ᨶᨯᩱᩈᩣ᩠ᨦᨾᩣᨩᩭᨣᩣᩴᨩᩩᨯᩯᨴᩬᩁᨸᩴᨩᩣ
เหมือนดังออกนอกฟ้าเฮรนตามบุนตนทุกยากนาน คอปากอ้าวหาคู่ลี้ ขอให้ผู้มีปุนสมพานแก่ก้ามักใค่อยากให้เท้าหน่อฟ้าคืนมาอีกๆที โอนอขอแก่ปารมีอันได้ส้างมาซ่อยค้ำชูแดทอนบ่ช้า

ᩅᩣᨩᩥᩉᩱᨡᩭᨶᩦᨸᩮᩢ᩠ᨶᨾᩯᩌᩣ᩠ᨦᨾᩯᩉ᩠ᨾᩣ᩠ᨿᩀᩩᩉᩮᩥᨦᨶᩣ᩠ᨶᨴᩯᨸᩴ ᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᨠᩯ᩠ᩅᩋᩢ᩠ᨶᩉᩮᩖᩥᨾᨻᩣ᩠ᨿᪧᨶᩢ ᨧᩥ᩠ᨦᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᨯᩣ᩠ᩅᨲᩕᨠᩣ᩠ᨿᩋᩢ᩠ᨶᩉᩮᩖᩥᨾᨾᩣ᩠ᩈᪧ ᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨶᨯᩣ᩠ᩅᨻᩣ᩠ᨯᨣᩬᩙᩃ᩠ᨿ᩠ᨦᩀᩩᩈᩬᩁᩃᩬᩁ ᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨶᨯᩣ᩠ᩅᨧᩢ᩠ᨦᨠᩬᩁᨸᩣ᩠ᨶᨦᩣ᩠ᨾᩋᩭ
ว่าซิให้ข้อยนี้เป็นแม่ฮ้างแม่หม้ายอยู่เหิงนานแท้บ่ นางจิงเหลียวเห็นแก้วอันเหลื้อมพายๆ นัก จิงเหลียวเห็นดาวตระกายอันเหลื่อมมาสๆ นางจิงเห็นดาวพาดคองเลียงอยู่สอนหลอน นางจิงเห็นดาวจังก่อนบานงามอ้อย-

ᩉᩭ ᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨶᨯᩣ᩠ᩅᨩᩣ᩠ᨦᨶᩭᨶᩋ᩠ᨦᩀᩩᩋᩭᨩᩭᨳᩣᨾᩯᨠᩥ᩠ᨶᨶᩫ᩠ᨾᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᩋᨮᩣ ᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨡᩧ᩠ᨶᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᩋᨠ᩠ᨠᨶᩥᨳᩣᨾᩉᩣᨻᩕ᩠ᨾᩃᩬᨯᩃᩫ᩠ᩅᩋᩩᨾᨣᩣ᩠ᨿᨠᩯ᩠ᩅᨹᩫ᩠ᩅᨲᩫ᩠ᨶᨡᩧ᩠ᨶᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᨹᩣᩈᩣ᩠ᩈ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᨡᩣ᩠ᨷᩅᩢ᩠ᨶᨴᩣᨡᩴᨠᩯᨻᩕ
ห้อย นางจิงเห็นดาวช้างน้อยนองอยู่อ้อยซ่อยถ้าแม่กินนมหั้นแล อฐา ในกลาเมื่อนั้น นางนาสน้อยสุชชดาขึ้นไปเถิงอกฺกนิถามหาพรมลอดแล้วอุ้มกายแก้วผัวตนขึ้นไปเถิงผาสาส เมื่อนั้นนางนาสน้อยขาบวันทาขอแก่พระ

ᩁᩣᨩᩣᨲᩫ᩠ᨶᩀᩩᨠᩮᩫᩣᨲᩫ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᨠᩯᩋᨠ᩠ᨠᩣᨶᩥᨳᩣ ᨹᩩᨡᩣᨡᩴᩈᩫᨾ᩠ᨾᩣᩋᩫ᩠ᨯᨴᩕ᩠ᨯᨡᩴᩉᩱᨹᩰ᩠ᨯᨡᩭᨶᩭᩃᩮᩫᩣᪧᨴᩥᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨲᩴᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕᨾ᩠ᨾᩃᩮᩫᩣᨸᩢ᩠ᨶᨾᩉᩣᨻᩕ᩠ᨾ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨿᩢ᩠ᨦᨣᩣᩴᨶᩣᩙᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᨡᩣ᩠ᨷᩅᨶ᩠ᨴᩣ ᨧᩥ᩠ᨦᨠᩖᩣ᩠ᩅᨸᩮᩢ᩠ᨶᨶᩱ᩠ᨿᩡᨣ᩠ᨳᩣᩅᩣ ᨽᨴ᩠ᨵᩮ ᨯᩩᩕᩣᨶᩣᩙᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᩈᩫ᩠ᨾᨩᩣ᩠ᨾ
ราชาตนอยู่เก่าตนเป็นเจ้าแก่อักกานิถา ผู้ข้าขอสมมาอดโทดขอให้โผดข้อยน้อยเลาๆที่เท่าวันเทิน ตํสุตฺวา เมื่อนั้นพรมมเลาบั้นมหาพรม สุตฺวา ได้ยินแล้วยังคำนางหน่อแก้วขาบวันทา จิงกล่าวเป็นไนยะคาถาว่า ภทฺเธ ดูรานางหน่อฟ้าสมซาม

ᨻᩴᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨸᩩᩔᩥᨲ᩠ᩅᩣ ᨻᩴᨧᩢᨳᩣ᩠ᨾᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨾᨲᩯᨣᩮᩫᩣ ᨸᩮᩢ᩠ᨶᩈᩢ᩠ᨦᨯᩱᨧᩮᩫᩣᨧᩥ᩠ᨦᩋᩩᨾᩏᩫᩣᨣᩣ᩠ᨿᨹᩥᨲᩣ᩠ᨿᨲᩣ᩠ᨾᨶᩥᨿᩣ᩠ᨿᩁᩬᩙᩉᩱ ᩅᩣᨾᩯ᩠ᨶᨹᩫ᩠ᩅᨠᩯ᩠ᨶᨴᩱᩁᩢ᩠ᨠᨻᩮᩥ᩠ᨦᨲᩣᨲᩫ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶ ᩃᩨᩁᩩᩅᩣᨾᩯ᩠ᨶᨠᩢᩔᩣᨻᩫ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨻᩴᨶᩢ᩠ᨶ ᩂᩁᩩᩅᩣᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᨹᩩ
พ่อเอย ปุสฺสิตวา พ่อจักถามความแต่เค้า เป็นสังใดเจ้าจิงอุ้มเอากายผีตายตามนิยายร้องไห้ ว่าแม่นผัวแก่นไท้รักเพิ่งตาตนนั้น ลือรู้ว่าแม่นกัสสาพนตนเป็นพ่อนั้น ฤรู้ว่าเจ้าหน่อแก้วผู้

ᩅᩣ᩠ᨦᨲᩣ᩠ᨿ ᩉᩣᩢᨾᩯ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨻᩥᨩᩣ᩠ᨿᨠᩮᩥ᩠ᨯᩁ᩠ᩅᨾᨴᩋᩙᨶᩢ᩠ᨶ ᩂᩁᩩᩅᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨻᩥᨶᩬᩙᩃᩩᩢᩋᩣ᩠ᩅᨶᩢ᩠ᨶ ᩃᩨᩁᩩᩅᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨡᩩᩁᨡᩯ᩠ᨶᨻᩴᨳᩮᩫᩣᨴᩩᩁᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨴᩱᨧᩥ᩠ᨦᨯᩱᩋᩩᨾᨸᩯ᩠ᨠᩏᩫᩣᨾᩣᨶᩥᨧᩣ ᨲᨴᩣ ᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱ
วางตาย หากแม้นเป็นพี่ชายเกิดร่วมท้องนั้น ฤรู้ว่าเป็นพี่น้องลูกอาวนั้น ลือรู้ว่าเป็นขุนแขนพ่อเถ้าทูนเจ้าหน่อไท้จึงได้อุ้มแบกเอามานี้จา ตทา ในกลาเมื่อนั้นบั้นนางสุชชดา สุตฺวา ได้-

ᨿᩥ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᩉᩱ᩠ᩅᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᨾᩉᩣᨻᩕ᩠ᨾᨸᩡᨶᩫ᩠ᨾᨾᩨᨶᩫ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅ ᨴᩩᩁᨠᩯᨻᩕᨸᩣ᩠ᩈᨴᩱᨠᩖᩣ᩠ᩅᨸᩬᩢᩈᨬᩅᩣ ᨴᩮᩅᨡᩣᨯᩯᨾᩉᩣᩁᩣᨩᩣᨧᩮᩫᩣᨲᩫ᩠ᨶᩀᩣᨠᩮᩫᩣᨠᩖᩣ᩠ᩅᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁ ᨸᩢᨯᨶᩥᨡᩭᨶᩭᨧᩢᩃᩮᩫᩣᩉᩱ᩠ᩅᨻᩕᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨧᩯ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨯᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩏᨸ᩠ᨷᨴᩮᩢᨯᨲᩯᨻᩣ᩠ᨿᩉᩖᩢᨦᨠᩬᩁᨶᩮᩥᩡ
ยินแล้วนางจิงไว้หน่อแก้วมหาพรมปะนมมือนบไหว้ ทูนแก่พระบาสไท้กล่าวบอกสัญญาว่า เทวข้าแด่มหาราชาเจ้าตนอย่าเก่ากล่าวเมืองสวัน บัดนี้ข้อยน้อยจักเล่าไหว้พระจอมทันแจงเหดด้วยอุปปเทดแต่พายหลังก่อนเนอ

๑๗

manuscript #18

ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨡᩭᨶᩭᨸᩩᩁᨲᩣᨣᩭᩉᩮᩢ᩠ᨯᩈᩢ᩠ᨶᨯᩱᨸᩴᩁᩩᨯᩱᩃᩫ ᨿᩢ᩠ᨦᨾᩦᨶᩱᩅᩢ᩠ᨶ᪑ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨡᩭᨶᩭᨹᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨾᩮᩢ᩠ᨿᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᩉᩮᩥᩬᩉᩱᩖᩋᩣ᩠ᨸᨶᩮᩥᩬᨩᩩ᩠ᨷᨩᩣ᩠ᨷᨲᩫ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᩏᨸ᩠ᨷᩣ᩠ᨿᩈᩰ᩠ᨠᩈᩮᩫᩣ ᨶᩮᩥᩬᨠᩣᩴᩈᩮᩫᩣᨿᩥ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩋ᩠ᨦ ᩃᩮᩥ᩠ᨿᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩬᩙᩋᩢ᩠ᨶᨯᩩ
ส่วนดังพระยาอินตนเป็นผัวแห่งข้อยน้อยบุนตาคอยเหดสันใดบ่รู้ได้แล ยังมีในวัน ๑ ส่วนดังข้อยน้อยผู้เป็นเมียเหลียวเห็นเหื่อไหลอาบเนื้อซุบซาบตนพระยาอินเป็นอุบบายโสกเส้า เนื้อกำเส้ายินหมอง เลยเป็นคองอันดู

ᨲᩣ᩠ᨦᨧᩢᩅᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᩉᩮᩢ᩠ᨯᨲᩣ᩠ᨦᨠᩣᩴᩅᩮᩢ᩠ᨶᨸᩴᩁᩩᩃᩫ ᨿᩢ᩠ᨦᨾᩦᨶᩱᩅᩢ᩠ᨶ ᪑ ᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨠᩖᩣ᩠ᩅᩋᩮᩥ᩠ᨶᨡᩭᨶᩭᩅᩣᨾᩮᩥ᩠ᨿᨣᩣ᩠ᩈᨣᩭᨶᩱᨾᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩢᩁᨲᩢ᩠ᨦᨲᩯᩅᩢ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨿᩉᩖᩢᨦᨸᩴᩉ᩠ᩅᩁᩅᩮᩫᩣ ᨸᩢᨯᨶᩥᨧᩮᩫᩣᩅᩣᩀᩣᨸᩱᨴ᩠ᨿᩅᩉᩖᩥᩁᨴᩦ᩠ᨸᩃᩩᨾᨾᩮᩥ᩠ᨦᨣᩫ᩠ᨶ ᨡᩭᨶᩭ
ต่างจักว่าเป็นเหดต่างกำเวนบ่รู้แล ยังมีในวัน ๑ พระยาอินกล่าวเอิ้นข้อยน้อยว่าเมียคาสคอยในเมืองสวันตั้งแต่วันตายหลังบ่หวนเว้า บัดนี้เจ้าว่าอย่าไปเที่ยวหลิ้นทีปลุ่มเมืองคน ข้อยน้อย

ᩉᩣ᩠ᨾᨹᩫ᩠ᩅᨲᩫ᩠ᨶᨸᩴᩀᩩ ᨧᩱᨴᩩᨯᨴᩩᩉᩫ᩠ᨶᩉ᩠ᩅᩣ᩠ᨿᩉᩣ᩠ᨾᩉᩖᩣ᩠ᨿᨴᩥᨴᩩᩢᨣᩭ ᨡᩭᨶᩭᩉᩣ᩠ᨾᨧᩭ᪒ᨸᩣᨴᩣ᩠ᩅᨣᩴᨸᩴᨼᩢ᩠ᨦᩃᩫᨡᩴᩃᩮᩥ᩠ᨿᩃᩮᩫᩣᩃᩫ᩠ᨦᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᨧᩣᨲᩩᨸ ᩃᩮᩥ᩠ᨿᩁᩬᨯᨳᩮᩥ᩠ᨦᨿᩬᨯᨴᩱᨳᩯ᩠ᨶᩉᩖ᩠ᩅᩙ ᨧᩢᩅᩣᨹᩥᨯᨩ᩠ᨿᩙᨠᩢ᩠ᨶᩃᩮᩥ᩠ᨿᩁᩣ᩠ᨿᨲᩬᨸᨠᩯᨠᩢ᩠ᨶᨣᩣᩴᨯᩱᨸᩴᩁᩩᨯᩱᩃᩫ
ห้ามผัวตนบ่อยู่ ใจทุดทู้หนหวยห้ามหลายทีทุกคอย ข้อยน้อยห้ามจ้อย ๆ บาท้าวก็บ่ฟังแลขอเลยเล้าลงไปเถิงจาตุบ เลยรอดเถิงยอดไท้แถนหลวง จักว่าผิดเชียงกันเลยร้ายตอบแก่กันคำใดบ่รู้ได้แล

ᨳᩁᩔᩣ ᩁᩥᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨸᩴᨩᩣᨸᩣ᩠ᨿᨯᩣ᩠ᨸᨠᩣᨹᩣᨲᩢᨯᨣᩴᨧᩢᩅᩣᨲᩰᨸᩱᨴᩣ᩠ᨦᨯᩱᨣᩴᨸᩴᩁᩩᨯᩱᩃᩫ ᨡᩴᨠᩯᨾᩉᩣᨻᩕ᩠ᨾᨹᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᩏᩫᩣᩉᩫ᩠ᩅᩉᩱ᩠ᨾᨡᩮᩫᩣᨾᩣᨴᩯ᩠ᨶᨠᩴᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨾᩉᩣᨻᩕ᩠ᨾ ᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣ ᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨦᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣᨧᩢᩉᩱᩉᩣᩉᩫ᩠ᩅᩋᩢ᩠ᨶᩉᩱ᩠ᨾᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ
ถรสฺสา อันว่าพระยาแถนบ่ช้าบายดาบก้าผาตัดคอจักว่าโตไปทางใดก็บ่รู้ได้แล ขอแก่มหาพรมผู้เป็นเจ้าเอาหัวใหม่เข้ามาแทนก็ข้าเทิน เมื่อนั้นบั้นมหาพรม สุตวา ได้ยินคำอันต่างกล่าวว่าจักให้หาหัวอันใหม่ว่าดังนั้น

ᩈᩣ᩠ᨿᩈ᩠ᨾᩋ᩠ᨶᩌᩮᩦ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨧᩮᩫᩣᨧᩥ᩠ᨦᨳᩣᨡᩭᨶᩭᨻᩴᩉᩱᨡᩬᩙᨶᩣᩴᩉᩖᩢᨦᨠᩬᩁᨾᩯ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨦᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᨣᩴᨸᩴᨳᩣᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᩉᩣᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᨧᩢᨩᩫ᩠ᨾᨩᩧ᩠ᨶᨿᩥ᩠ᨶᨯᩦᨸᩴᨯᩱ ᨧᩮᩢ᩠ᨷᩈᩯ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᨾᩉᩫ᩠ᩅᨧᩱᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁᨲᩣ᩠ᨿᨻᩢ᩠ᨯᨻᩣᩢᨴᩩᩢᨿᩣᩢᩃᩫ᩠ᨾᨶᩣᩴᨲᩣᩋᩣ᩠ᨷᩌᩣ
สายสมอนเอยหน่อฟ้าเจ้าจิงถ้าข้อยน้อยพอให้ข้องนำหลังก่อนแม่ เมื่อนั้นนางสุชชดาก็บ่ถ้าเหดว่าหาคำอันจักชมชื่นยินดีบ่ได้ เจ็บแสบไหม้หัวใจเหดว่าผัวขวันตายพัดพากทุกยากล้มน้ำตาอาบหน้า

ᩋᩫ᩠ᨠᩅᩣᩒᨶᩴᨻᩮᩥ᩠ᨶᨹᩩᩈᩩᩢᩃᩮᩫᩣᨾᩣᩉᩮᩖᩥᨾᨿᩢ᩠ᨦᨠᩩᨹᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨴᩩᩢᩈᩢ᩠ᨶᨶᩥᨧᩣᨶᩴ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨯ᩠ᩅᩙᨯᩬᩢᨾᩱᨸᩣ᩠ᨶᩀᩩᨠᩱᨠᩴᨿᩢ᩠ᨦᩉᩬᨾᨻᩴᨯᩱᨳᩥ᩠ᨠᨠᩥ᩠ᨶ ᨹᩩᨻᩮᩥ᩠ᨶᩈᩩᩢᨼᩣᩢᨶᩣᩴᨿᩢ᩠ᨦᨩᩦᩁᩩᩌᩬᨯᩌᩮᩣᨸᩴᨶᩴ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨦᩌᩣᩴᩉᩱᨲᩥᩋᩫ᩠ᨠ ᨲᩣᩅᩢ᩠ᨶ
อกว่าโอนอเพิ่นผู้สุกเลามาเหลิ่มยังกูผู้เป็นทุกสันนิจานอ แม้นว่าดวงดอกไม้บานอยู่ไกก็ยังหอมพอได้ถึกกิ่น ผู้เพิ่นสุกฟากน้ำยังซิรู้ฮอดเฮาบ่นอ เมื่อนั้นนางฮ่ำไห้ตีอก ตาวัน

ᨲᩫ᩠ᨠᩃᩢ᩠ᨷᨸᩣᩃᩫ᩠ᩅ ᨧᩮᩫᩣᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᨠᩬᨯᩏᩫᩣᨹᩫ᩠ᩅᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨲᩥ᩠ᨶᨯᩭᨯᩮᩥ᩠ᨠᨯᩧ᩠ᨶ ᩉ᩠ᨶᩣᨸᩴᨩᩧ᩠ᨶᩉᩮ᩠ᨦᩫᩣᨩᩫ᩠ᨦ ᨶᩣᩙᨸᩫ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅᨴᩬᨯᩅᩱᨠᩱᨡᩬᩢᩣ᩠ᨦᨴ᩠ᨿ᩠ᨾᨲᩫ᩠ᨶ ᨶᩣᩙᨣᩴᩈ᩠ᨶᩫᩁᩅᩫ᩠ᨶᩀᩣᩢᨶᩬᩁᨩᩥᨩᩭᪧ ᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩃᩬᨯᩃᩮᩫᩣᩃᩮᩥ᩠ᨿᨶᩬᩁ ᨯᩮᩥ᩠ᨠᩋᩬᩁᨩᩬᩁᨾᩥᩌᩯ᩠ᨦ
ตกลับป่าแล้ว เจ้าหน่อแก้วกอดเอาผัวลงมาเถิงตีนดอยเดิกดื่น หน้าบ่ชื่นเหงาซง นางปงผัวทอดไว้ไก้ขอกข้างเทียมตน นางก็สนระวนอยากนอนซิซ่อย ๆ นางนาสน้อยลอดเล้าเลยนอน เดิกออนซอนมีแฮง

ᩃᩯ᩠ᩅᨠᩬᨯ ᨣᩣ᩠ᨦᩀᩩᨿᩬᨯᨯᩭᩈᩩᩙᩉᩢ᩠ᨶᩃᩯ ᩋᨮᩣ ᨶᩱᨠ᩠ᩃᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᩉ᩠ᨾᩣᨧᩬᩢᩃᩣ᩠ᨦᨾᩣᩃᩮᩫᩣ ᨶᩫ᩠ᨠᨣᩮᩫᩣᨠᩩᩢᨯᩮᩫᩣᨡ᩠ᩅᩢᩁᩈ᩠ᨿᩙᨻᩣ᩠ᨿᨲᩬᩙᩌᩬᩙᩁᩬᩁ ᨶᩫ᩠ᨠᨸᩮᩢ᩠ᨯᨸᩬᩙᩌᩬᩙᨩᩯ᩠ᩅᪧ ᨶᩫ᩠ᨠᨿᩩᩙᨩᩯ᩠ᩅᩉᩣᨣᩩᨩᩡᨽᩩᨻᩬᨾᨶᩫ᩠ᨠᩋᩩᨾᩃᩫ᩠ᩅᩌᩬᩙᨩᩫ᩠ᨾᨩᩫ᩠ᩅᨠᩯ᩠ᨾᨸᩣ ᨶᩣᩙᨸᩴᩀᩣ᩠ᨶᨣᩭᨻᩮ᩠ᨿ᩠ᨶᨶᩬᩁᨠᩬᨯᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁᩌᩬᩙᩉᩱ ᨠᩱᩌᩩᩙᩃᩯ᩠ᩅᨯᩣ᩠ᩅ
แล้วกอด ค้างอยู่ยอดดอยสูงหั้นแล อฐา ในกลาเมื่อนั้น ฝูงหมู่หมาจอกลางมาเลา นกเค้ากุกเดาขวันเสียงพายตองฮ้องฮอน นกเป็ดป้องฮ้องแซว ๆ นกยูงแซวหาคู่ซะอูพ้อมนกอุ้มลัวฮ้องซมซัวแกมป่า นางบ่ย่านคอยเพียนนอนกอดผัวขวันฮ้องไห้ ไก้ฮุ่งแล้วดาว

๑๙

manuscript #19

ᨩᩣ᩠ᨦᨦᩬᨯᨦᩮᩥ᩠ᨿ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᩈᩭᨧᩢ᩠ᨷᩃᩫ᩠ᨾᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᨲᩦ᩠ᨶᨹᩣᨣᩫ᩠ᨾᨸᩣ᩠ᨶᨹᩯ᩠ᨦᨸᩣ ᨶᩣᩙᨠᩣᩴᨻᩣᩀ᩠ᨿ᩠ᨾᨹᩴᩉᩖᩥᨦᨯᩩᩉᩫ᩠ᩅᨽᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣ᩠ᩅᩢᩁᨸᩮᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩋᩢ ᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᨯᩬᩢᨩᩬᩁᨶᩭᨸᩣ᩠ᨶᩃ᩠ᨿᨸᨲᩥ᩠ᨶᨹᩣᨠᩢ᩠ᨸᨴᩩᩢᨯᩢ᩠ᨦᨸᩣᩃᩥᨠᩣᨸᩣ᩠ᨶᨾᩯ᩠ᨶᩈᩭᨿᩭᩉᩭᩀᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨳᩢ᩠ᨶ
ช้างงอดเงย เมื่อนั้นนางสุชชาดานาสน้อยเหลียวเห็นส้อยจับลมเหลียวเห็นตีนผาคมบานแผงป่า นางกำพ้าเยี่ยมผ่อหลีงดูหัวภูเป็นควันเป็นหมอก เหลียวเห็นดอกซ้อนน้อยบานเลียบตีนผากับทุกดังปาลิกาปานแม่นส้อยย้อยห้อยอยู่เป็นถัน

ᨶᩣᩙᨣᩴᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨶᨧᩫ᩠ᨶᨯᩱᨦᩣ᩠ᨾᩋᩮᩥᩬᨡᩮᩥᩬ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᩉᩖ᩠ᨿᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᩈᩯ᩠ᨦᩈᩩᩁᩥ᩠ᨿᩡᩈᩯ᩠ᨦᩁᩬᩙᨡᩣ᩠ᨾᨼᩩᩙᨻᩫ᩠ᨶᨸᩬᨾᨹᩣ ᨲᨴᩣ ᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᨶᩣ᩠ᨦᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩴᨴᩱᨠᩬᨯᨣᩣ᩠ᨿᩁᩣ᩠ᨿᨴ᩠ᨿᩣ᩠ᨶᨸᩱᨲᩣ᩠ᨾᨶᩥᩈᩱᩃᩣᩴᨸᩣᩢᨳᩮᩥ᩠ᨦᨻᩣᩢᨻᩨ᩠ᨶᨯᩭᩈᩩᩙ ᩈᩣ
นางก็เหลียวเห็นตนจนได้งามเอือเขือ เมื่อนั้นนางนาสน้อยสุชชดาเหลียวเห็นแสงสุริยะแสงฮองข้ามฟุ้งพ้นป้อมผา ตทา ในคลาเมื่อนั้น นางจอมทันหน่อไท้กอดกายร่ายทยานไปตามนิไสลำบากเถิงพากพื้นดอยสูง สา-

ᨸᩢᨻ᩠ᨻᩡᨲᩮᩣ ᩁᩥᨯᩭᩈᩥᩃᩅᩢᨶᩣ᩠ᨶᩋᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᨯᩅ᩠ᨿᩉᩥ᩠ᨶᨴᩢ᩠ᨦᨴᩯ᩠ᨦᩋᩢ᩠ᨶᩃᩰ᩠ᨠᩉᩣᩢᨲᩢ᩠ᨦᨲᩯ᩠ᨦᩅᩱᨲᩯᨸᨭ᩠ᨮᩫᨾ᩠ᨾᩉᩫ᩠ᩅᨴᩥᨣ᩠ᨾᩥᩃᩯ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᩈᩢ᩠ᨯᨴ᩠ᩃᩢᩣᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨡᩮᩫᩣᩀᩩᨶᩱᨯᩭᩈᩢ᩠ᨯᨸᩣᩉᩖᩥᨦᩃᩣᩴᨶᩣ᩠ᨦᨠᩣᩴᨻᩣᩋᩢ᩠ᨶᩁᩬᨦᩁᩣᩴᩉᩣᨹᩫ᩠ᩅᨡᩮᩫᩣᨣᩴ᩠ᨾᩣᨩᩫ᩠ᨾᨩᩨ᩠ᨶᨻᩬᨾ
ปัพพะโต อันว่าดอยสิลวกนานอันแล้วด้วยหินทั้งแท่งอันโลกหากตั้งแต่งไว้แต่ปัฏฐมหัวทีก็มีแล ในเมื่อสัดทั้งหลายฝูงหมู่เข้าอยู่ในดอยสัดป่าหลิงลำนางกำพาอันร้องร่ำหาผัวเขาก็มาชมชื่นพ้อม

ᨠᩢ᩠ᨶᨳᩣ᩠ᨾᩉᩮᩢ᩠ᨯᨴᩮᩅᩮᩢᨯᨧᩮᩫᩣᨧᩬᨾᩈ᩠ᩅᩢᩁ ᨺᩩᨦᨡᩣᨡᩴᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᨠᩯᨶᩣ᩠ᨦᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨳᩣ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᩅᩉᩣᩢᨾᩯ᩠ᨶᨹᩫ᩠ᩅᨧᩯ᩠ᨾᨧᩮᩫᩣᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶᩃᩨ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᩈᩩᨩ᩠ᨩᨯᩣᩈᩩᨲ᩠ᩅᩣᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᩉᩯ᩠ᨦᩈ᩠ᨿᩙᨹᩥᩃᩫᩈᩢᨯᨸᩣᨴ᩠ᩃᩢᩣ ᨶᩣᩙᨧᩥ᩠ᨦᨲᩣ᩠ᨶᨧᩣᩁᨧᩣᨠᩢ᩠ᨷᨯᩬᨾᩈᩢ᩠ᨯᩃᩫᨹᩥᨸᩣ
กันถามเหดเทเวดเจ้าจอมสวัน ฝูงข้าขอขาบไหว้แก่นางจอมทันถามข่าวหากแม้นผัวแจ่มเจ้าจอมทันนั้นลือ เมื่อนั้นนางหน่อฟ้าสุชชดาสุตวาได้ยินแห่งเสียงผีแลสัดป่าทั้งหลาย นางจิงต้านจารจากับดอมสัดแลผีป่า

ᩅᩣᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨲᩣ᩠ᨿᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨶᩫ᩠ᨠᨿᩣ᩠ᨦᩉᩱᨧᩮᩫᩣᨣᩧ᩠ᨯᩌᩬᨯᨡᩭᨯᩯᨶᩮᩥ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨲᩣ᩠ᨿᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨸᩣᨾᩱᩉᩱᨧᩮᩫᩣᩀ᩠ᨿ᩠ᨾᨹᩴᨸᩣᨶᩥᨡᩭᨯᩯᨶᩮᩥ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨶᩣ᩠ᨦᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣᩌᩬᩙᩉᩱᩀᩩᨧᩮ᩠ᩅᪧᨣᩴᨸ᩠ᨾᩥᨶᩬᩁᩉᩖᩢᨸ ᨶᩣ᩠ᨦᨠᩣᩴᨻᩣᨾᩣᩈᩢ᩠ᨦᩃᩮᩫᩣᨾᩥᨲᩯᩉᩫ᩠ᩅᩋᩢ᩠ᨶᨡᩣ᩠ᨯᨣᩴᨸᩴᩉᩮᩢ᩠ᨶᩉᩫ᩠ᩅᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨸᩣ᩠ᨯᨧᩮᩫᩣ ᩈᩮᩢ᩠ᨿᨯᩣ᩠ᨿ
ว่าเจ้าหากตายเป็นผีนกยางให้เจ้าคึดฮอดข้อยแดเนอ คั้นว่าเจ้าหากตายเป็นผีป่าไม้ให้เจ้าเยี่ยมผ่อปานีข้อยแดเนอ ส่วนดังนางสุชชาดาฮ้องไห้อยู่เจวๆก็บ่มินอนหลับ นางกำพ้ามาสังเลามีแต่หัวอันขาดก็บ่เห็นหัวแห่งพระยาบาดเจ้า เสียดาย

ᩃᩫᨶᩴ ᨸᩢ᩠ᨯᨶᩥᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨸᩮᩢ᩠ᨶᨴᩮᩅᨸᩩᨯᩋᩫ᩠ᨯᨾᩣᨣᩭᩀᩩᩅᩮᩉᩣ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨯᩱᨸᩮᩢ᩠ᨶᨴᩮᩅᨯᩣᩋᩫ᩠ᨯᩉᩱᨧᩮᩫᩣᩃᩫ᩠ᨦᨾᩣᨣᩭᩀᩩᨯᩥᩋᩣᨻᩣ᩠ᩈ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨲᩣ᩠ᨿᨸᩮᩢ᩠ᨶᨠᩯ᩠ᩅᨼᩣᩀᩣ᩠ᨯᩉᩱᨧᩮᩫᩣᩃᩣᩴᩃᩫᨡ᩠ᩅᩢᩁᨶᩬᩙᨯᩯᨶᩮᩥ ᩋᨮᩣ ᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬ
แลนอ บัดนี้เจ้าหากเป็นเทวบุดอดมาคอยอยู่เวหา คั้นว่าเจ้าหากได้เป็นเทวดาอดให้เจ้าลงมาคอยอยู่ดีอาพาส คั้นว่าเจ้าหากตายเป็นแก้วฟ้าอยาดให้เจ้าลำแลขวันน้องแดเนอ อฐา ในคลาเมื่อ-

ᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨩᩮᩥᨸᨶᩬᩁᩉᩖᩢᨸᨶᩭ᪑ᨸ᩠ᨾᩥᨶᩣᩢ᩠ᨶ ᩈᩩᨸᩥᨶᩴ ᨶᩥᩁᩡᨾᩥ᩠ᨯᨠᩣᩴᨺᩢ᩠ᨶᨾᩣᨲᩣ᩠ᨦᪧ ᨺᩢ᩠ᨶᩅᩣᨹᩫ᩠ᩅᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᨣᩧ᩠ᨶᨾᩣ ᨺᩢ᩠ᨶᩅᩣᩉᩮᩢ᩠ᨶᩈᩖᩣᨳᩮᩥ᩠ᨦᨶᩣᩴᨸᩴ ᨺᩢ᩠ᨶᩅᩣᨯᩱᨠᩮᩣᩡᩈᩣ᩠ᨦᨧᩮᨯᩥ ᨺᩢ᩠ᨶᩅᩣᨲᩰᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩫ᩠ᨶᩉᩫ᩠ᩅᨸᩮᩢ᩠ᨶᨩᩣ᩠ᨦ ᨺᩢ᩠ᨶᩅᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨾᩯ᩠ᨦᩌᩣ᩠ᨦᩃᩫ᩠ᩅᨲᩣ᩠ᩅᨣᩧ᩠ᨶᨾᩣ ᨺᩢ᩠ᨶ
นั้นบั้นนางหน่อฟ้าเซิบนอนหลับน่อย ๑ บ่มินาน สุปินํ นิระมิดกำฝันมาต่างๆ ฝันว่าผัวหน่อฟ้าเกิดคืนมา ฝันว่าเห็นสาลาเถิงน้ำบ่อ ฝันว่าได้เกาะส้างเจดี ฝันว่าโตเป็นคนหัวเป็นช้าง ฝันว่าเป็นแมงฮ้างแล้วต้าวคืนมา ฝัน-

ᩅᩣᨣᩮᩥ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨦᩅᩣ᩠ᨶᨠᩮᩥ᩠ᨯᨸᩮᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨦᨺᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅᩃᩮᩥ᩠ᨿᩃᩬᨯᩃᩮᩫᩣᨩᩡᨯᩮᩥᨯᨲᩧ᩠ᨶᨲᩥᩋᩫ᩠ᨠ ᨻᩴᨿᩣ᩠ᨾᨳᩯᨠᩱᩁᩬᩙᩉᩱᩃᩫ᩠ᨾᨻᩢ᩠ᨯᨾᩱᨩᩯ᩠ᩅᪧ ᨸᩯ᩠ᩅᩃᩫ᩠ᨾᩉ᩠ᨶᩣ᩠ᩅᨯᩮᩥ᩠ᨶᨿᩥ ᨶᩣ᩠ᨦᨣᩴᨣᩧ᩠ᨯᨶᩣᩴᨳᩥᨳ᩠ᩅᩁ ᨾᩯ᩠ᨶᨠᩣᩴᩅᩮᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨾᩦᩁᨯᩢ᩠ᨦᨾᩉᩣᨳᩮᩢ᩠ᨶᨯᩮᩥ᩠ᨶᨴᩣ᩠ᨦᨸᩥ᩠ᨶᨴᩥᨸᩣ᩠ᩈᨣ᩠ᩅᩣ᩠ᨿᩉᩣᩢᨩᩣ᩠ᩈᨩᩫ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨿᩉᩱᩉ᩠ᨦᩣ᩠ᨿᩅᩱᩉᩫ᩠ᨶᨴᩣ᩠ᨦᩃᩮᩥ᩠ᨿᩃᩬᨯᩅᩣ᩠ᨦ
ว่าเคิงสังวานเกิดเป็นหน่อแก้ว เมื่อนั้นนางฝันแล้วเลยลอดเล้าซะเดิดตื่นตีอก พอยามแถไก่ร้องไห้ลมพัดไม้แซวๆ แป้วล้มหนาวเดือนยี่ นางก็คึดนำถี่ถ้วน แม้นกำเวนหมิ่นดังมหาเถนเดินทางบินทิบาสควายหากชาสชนตายให้หงายไว้หนทางเลยลอดวาง

๒๗

manuscript #20

ᨸᩣ᩠ᨯᨹᩣᨩᩣ᩠ᩈᨲᩥᨹᩫ᩠ᩅᨠᩩᨲᩣ᩠ᨿᨧᩣᩢᨼᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᩈᩥ᩠ᨦᨲᩣ᩠ᨿᩉᩖᩢᨦ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᩅᩮᩢ᩠ᨶᨶᩣᩴᨴᩢ᩠ᨶᨸ᩠ᨾᩥᨹᩩᨯᩱᨧᩢᨳ᩠ᨿᩙᨲᩬᨸᨯᩱ ᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨶᩣᩙᨿᩬᨯᨴᩱᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣᨣᩧᨯᩌᩣᩴᨻᩮᩥ᩠ᨦᨸᩱ᩠ᨾᩣᩀᩩᨣᩥᩅᩭᪧᩋᩭᨸᩴᨩᩣ ᩈᩯ᩠ᨦᨻᩩᩙᨻᩫ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨿᩩᨣᨶ᩠ᨴᩬᩁ ᨿᩣ᩠ᨾᨶᩢ᩠ᨶᨣᩬᩁᪧᨶᩫ᩠ᨠᨠᩣᩅᩮᩫᩣᨾᩣᩌᩣᩴᩌᩴᨡᩣᨶᩥ ᨸᩮᩢᨲᩮ᩠ᨲᩋᩣᩈᩘᨡᩮᨿᩮᩋᩣ
ปาดผาชาสตีผัวกูตายจากฟ้าเป็นสิ่งตายหลัง แม้นว่าเวนนำทันบ่มีผู้ใดจักเถียงตอบได้ ในเมื่อนางยอดไท้สุชชาดาคึดฮำเพิงไปมาอยู่คีวอยๆ ออยบ่ซา แสงพุ่งพ้นเขายุคันทอน ยามนั้นคอนๆ นกกาเว่ามาร่ำรอข้านี้ เปตฺเตอาสงฺเขเยอา-

ᨿ᩠ᨿᩡᩁᩣᨩᩮᩣᩈᩣᨶᩥᨾᩣ ᨴᩢ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᩅᨲᨲᩮᩣᨸᨮᩣᨿ᩠ᨿᩡ ᨲᩢ᩠ᨦᩁᩯ᩠ᨠᨲᩯᨶᩥᨾᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩣ ᩈ᩠ᩅᩁᩅᩣᨶᩣᩙᩈᩫᨾ᩠ᨻᩣ᩠ᨶᩉᩯᩖᨦᩉᩖᩣᨠᩬᨯᩏᩫᩣᨹᩫ᩠ᩅᨠᩣᩴᨻᩣᨹᩥᨲᩣ᩠ᨿᨲᩣ᩠ᨾᨶᩥᩈᩱᨡᩮᩫᩣᨡᩮᩢ᩠ᨯᨴᩮᩅᩮᩢ᩠ᨯᨧᩮᩫᩣᩉᩱᩉᩫ᩠ᨶᨴᩣ᩠ᨦ ᨸᩴᨶᩣ᩠ᨶᨴᩮᩫᩣᨯᩱᨶᩣᩙᩈᩥᩅᩱᨸᩩᨶᨾᩣᩢᨳᩮᩥ᩠ᨦᨻᩣᩢ
ยยะราโชสานิมา คั้นตัวตโตปฐายยะ ตั้งแรกแต่นี้เมื่อหน้า ส่วนว่านางสมพานแหล่งหล้ากอดเอาผัวกำพ้าผีตายตามนิไสเข้าเขดเทเวดเจ้าให้หนทาง บ่นานเท่าใดนางสีไวบุนมากเถิงพาก-

ᨻᩨ᩠ᨶᨧᩣᩢᨩᩢ᩠ᨶᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᩉᩴᨹᩣᩈᩣ᩠ᨯᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩱᩈ᩠ᩅᩁ ᨧᩫ᩠ᨾᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁᨡᩧ᩠ᨶᩈᩩᩌᩬᨯᨩᩡᨿᩩᨻᩩᨩᩣ᩠ᨶ ᨾᩫ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨸᩱᨧᩫ᩠ᨶᨸᩢᨲ᩠ᨲᩩᩏᨴᩬᩁᨹᩣᩈᩣ᩠ᨯ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨻᩕᨸᩣ᩠ᨯᨧᩮᩫᩣᩋᩱᩈ᩠ᩅᩁᨧᩮᩫᩣᨠᩴᩈᩱᨿᩣᨶᩬᩁᨲᩧ᩠ᨶᨡᩧ᩠ᨶ ᩃᩯ᩠ᩅᩉᩮᩢ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩴᨠᩯ᩠ᩅᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᨳᩮᩥ᩠ᨦ
พื้นจากชั้นไปเถิงหอผาสาดแห่งพระยาไอสวน จ่มผัวขวันขึ้นสู่ฮอดชะยุพุชาน มนเข้าไปจนปัตตูอุทอนผาสาด เมื่อนั้นพระบาดเจ้าไอสวนเจ้าก็ไสยานอนตื่นขึ้น แล้วเห็นหน่อแก้วสุชชาดาขาบไหว้เถิง

ᨠᩯ᩠ᨶᨴᩱᨡᩮᩫᩣᩈᩩᨸᩣ᩠ᩈᨲᩥ᩠ᨶ ᨶᩣᩙᨣᩴᨿᩴᩏᩫᩣᨻᩥ᩠ᨶᨲᩥ᩠ᨶᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩱᨸᩯᩡᩈᩱᨠᩮᩫᩣᨶᩫ᩠ᨷᨸᩣ᩠ᨯᨧᩮᩫᩣᩃᩮᩥ᩠ᨿᨳᩣ᩠ᨾᩅᩣ ᨣᩭᩀᩩᨯᩥᩃᩧᨻᩕᨽᩩᨴᩬᩁᨧᩮᩫᩣᨼᩣ ᨹᩩᨡᩣᨴᩩᩢᨿᩣᩢᨯ᩠ᩅ᩠ᨿᩃᩣᩴᨸᩣᩢᨹᩫ᩠ᩅᨲᩫ᩠ᨶ ᨡᩴᩉᩱᨻᩕᨶᩥᩈᩫ᩠ᨶᩉ᩠ᨶᩴᨼᩣᨡᩭᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨡᩴᩉᩱᨹᩰᨯᨡᩣᨶᩭᨠᩩᨶᩣᨯᩯᨠᩴ᩠ᨡᩣᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨲᩴᩈᩩ
แก่นไท้เข้าสู่บาสตีน นางก็ยอเอาพื้นตีนแห่งพระยาไอแปะใส่เก้านบบาดเจ้าเลยถามว่า คอยอยู่ดีลือพระภูทอรเจ้าฟ้า ผู้ข้าทุกยากด้วยลำบากผัวตน ขอให้พระนิสนหน่อฟ้าข้อยเอย ขอให้โผดข้าน้อยกุนาแดก็ข้าเทิน ต่อสุ

ᨹᩩᨧᩢ᩠ᨦᨡᩭᩈᩫ᩠ᨾᨣ᩠ᩅᩁᨻᩴᨩᩥᨯᩱᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩩᨸᩴᨯᩱᨶᩣᩴᩁᩩᩅᩣᩈᩫ᩠ᨾᩈᩥ᩠ᨦᩋᩣ᩠ᩈᨩᩥᨶᩣᩴᨠᩫ᩠ᨶᨠᩫ᩠ᩅᩀᩣ᩠ᨶᩀ᩠ᨿᨸᩁᩭᨶᩢ᩠ᨶᩁᩧ ᨲᨴᩣ ᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᨶᩣ᩠ᨦᨠᩯ᩠ᨶᨴᩱᨯᩱᨿᩥ᩠ᨶᨣᩣᩴᨿᩢ᩠ᨠᨠᩖᩣ᩠ᩅᨸᩮᩢ᩠ᨶᨣᩣᩴᩋᩢ᩠ᨶᩈ᩠ᩅᩢᩈᩱ ᩃᩮᩥ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᩥᨸᩱᨼᩢ᩠ᨦᨼᩣ᩠ᩅᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨲᩣᩅᩢ᩠ᨶᩉᩖ᩠ᩅᩙᨠᩱᨴ᩠ᨿᩙ ᨼᩣᨹ᩠ᨿᩙᩉᩮᩖᩥᨾᨾᩧ᩠ᨯᨾᩮᩫᩣᨾᩫ᩠ᩅ ᩋᩢ᩠ᨶᩋᩫ᩠ᩅᨺᩫ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨠ
ผู้จังข้อยสมควนพอซิได้เป็นคูบ่ได้นำรู้ว่าสมสิ่งอาสซินำก่นกัวอย้านเหยียบรอยนั้นรือ ตทา ในคลาเมื่อนั้น นางแก่นไท้ได้ยินคำยักกล่าวเป็นคำอันสวกใส่ เลยหนีไปฟังฟ้าวในเมื่อตาวันหลวงไก้เที่ยง ฟ้าเผี่ยงเหลิ่มมืดเมามัว อันอัวฝนตก

ᩃᩫ᩠ᨦ ᩃᩫ᩠ᨾᨸᩢ᩠ᨶᨻᩧ᩠ᨶᨶᩮᩥ᩠ᨶᨶᩢ᩠ᨶ ᨶᩣᩙᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨸᩴᩀᩣ᩠ᨶᨼᩣᩌᩬᩙᨸᩢ᩠ᨶᨸᩱ᩠ᨾᩣ ᨶᩣᩙᩉᩖᩢᨸᨲᩣᨶᩢ᩠ᨶᩉᩱᨠᩬᨯᨻᩣᨣᩣ᩠ᨿᩅᩱᩌᩮᩌᩫ᩠ᨶ ᨻᩕᨴᩢᩔᩅᩮᩥ᩠ᨿᨧᩮᩫᩣᨼᩣᩉᩱᨹᩩᨡᩣᩅᩮᩫᩣᨶᩣᩴᨹᩱ ᨶᩥᨧᩣᨶᩴ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨺᩫ᩠ᨶᨲᩫ᩠ᨠᩌᩯ᩠ᨦᩌᩣᩴᨾᩣ ᩈ᩠ᨿᩙᨼᩣᨹᩣᨸᩮᩢ᩠ᨶᨳᩯ᩠ᩅ ᩃᩫ᩠ᨾ
ลง ลมปั่นพื้นเนินนั้น นางจอมทันบ่อย้านฟ้าฮ้องปั่นไปมา นางหลับตานั้นไห้กอดพากายไว้เฮฮน พระทัสสเวยเจ้าฟ้าให้ผู้ข้าเว้านำไผ นิจานอ เมื่อนั้นฝนตกแฮงฮ่ำมา เสียงฟ้าผ่าเป็นแถว ลม

ᨯᩯ᩠ᨦᨹᩯ᩠ᩅᨠᩫ᩠ᨯᨯᩣ᩠ᨶᨾᩱᩃᩫ᩠ᨾᨹᩣ᩠ᨶᩈ᩠ᩅᩁᨠᩢ᩠ᨶ ᨶᩣᩙᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨶᩫ᩠ᨸᨶᩬᨾᩉᩱᩁᩬᨯᨻᩧ᩠ᨶᨴᩴᩁᨶᩥ ᨠᩢ᩠ᨷᨴᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᩈ᩠ᩅᩁᩃᩫᨣᩩᨯᨶᩣᩢᩀᩩᨼᩣᩢᨻᩧ᩠ᨶᨴᩣ᩠ᨦᨠᩱᨶᩱᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᨸᩢ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᩃᩫ᩠ᨾᨠᩢ᩠ᨷᨴᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨺᩫ᩠ᨶᩃᩮᩥ᩠ᨿᩌᩥ᩠ᨸᩋᩮᩥ᩠ᨶᨲᩢ᩠ᨦᩁᩯ᩠ᨠᨲᩯᨶᩥᨾᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩣ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣ
แดงแผ่วกดดานไม้ลมผ่านสวนกัน นางจอมทันนบน้อมไห้ฮอดพื้นทอรนี กับทั้งพระยาอินสวนแลคุดนากอยู่ฟากพื้นทางไกในเมื่อนั้น บั้นพระยาลมกับทั้งพระยาฝนเลยฮีบเอิ้นตั้งแรกแต่นี้เมื่อหน้า คั้นว่า

ᨯᩯ᩠ᨯᨩᩬᩙᨧᩯ᩠ᨦᩈᩩᩁᩥ᩠ᨿᩡᨾᩮᩥᩬᨿᩣ᩠ᨾᨲᩩᨯᨩᩣ᩠ᨿ ᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᨿᩣ᩠ᨿᨲᩱᨲᩥ᩠ᨶᨯᩭᩅᩭᪧᩃᩫ᩠ᨦᩉᩖᩣ᩠ᨿᨳᩣ᩠ᨦᨡᩧ᩠ᨶᩈᩩᩁᩣ᩠ᨦᩉ᩠ᨶᩥᩃᩫ᩠ᨾᨶᩣᩴᨴᩰ᩠ᨾᪧᩉᩱᩖᨹᩣ ᨶᩣᩙᨣᩣᩴᨲᩣᨸᩯ᩠ᨠᨹᩫ᩠ᩅᨣᩭᩃᩭᨣᩭᨾᩮᩥᩬᩅᩢ᩠ᨶᩉᩮᩢ᩠ᨶᨾᩮᩢ᩠ᨠ ᩈ᩠ᩅᩁᩅᩣᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣᨠᩯ᩠ᨶᩉᩮ᩠ᨦᩫᩣᩋᩩᨾᨧᩯ᩠ᨾᨧᩮᩫᩣᨹᩫ᩠ᩅᨲᩫ᩠ᨶᨡᩮᩫᩣᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᩈ᩠ᩅᩁ
แดดซ่องแจ้งสุริยะเมื่อยามตุดซ้าย นางนาสน้อยยายใต้ตีนดอยวอยๆ ลงหลายถางขึ้นสู่รางหนีลมน้ำโทมๆ ไหลผ่า นางทำตาแบกผัวค่อยลอยคอยเมื่อวันเห็นเมก ส่วนว่านางสุชชาดาแก่นเหง้าอุ้มแจ่มเจ้าผัวตนเข้าไปเถิงสวน

๒๖

manuscript #21

ᨯᩬᩢᨾᩱᨡᩮᩫᩣᨴᩯ᩠ᨷᨠᩱᩈ᩠ᩅᩁᩉᩖᩅᩙᨶᩣᩙᨣᩴᩅᩣ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁᩁᩬᩙᩉᩱᨩᩮᩫᩣᩀᩩᩈ᩠ᩅᩁᨯᩬᩢᨾᩱᨲᩮᩥᩬᩁᩰ᩠ᨿᩁᩯ᩠ᨦ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨲᩣᩅᩢ᩠ᨶᨯᩯ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨠᨲᩣᩴᩃᩮᩥ᩠ᨿᨾᩧ᩠ᨯᨣᩣᩴᩋᩬᩁᨩᩬᩁᨶᩬᩁᨶᩱᩈ᩠ᩅᩁᩁᩬᩙᩉᩱ ᨶᩣᩙᨻᩯ᩠ᨦᨴᩱᨠᩬᨯᨹᩫ᩠ᩅᨡ᩠ᩅᩢᩁᨳᩮᩥ᩠ᨦᩁᩣᨲᩥᨯᩮᩥ᩠ᨠᨯᩧ᩠ᨶᨼᩣᩁᩬᨦᩁᩨ᩠ᨶᩈ᩠ᨿᩙᨶᩢ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨸᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᨧᩬᨾᨴᩢ᩠ᨶᨣᩧ᩠ᨯᩁᩬᨯᨽᩡᨿᩬᨯᨠᩯ᩠ᩅ
ดอกไม้เข้าแทบไก้สวนหลวงนางก็วางผัวขวันร้องไห้เซาอยู่สวนดอกไม้เตือโรยแรง เมื่อนั้นตาวันแดงตกต่ำเลยมืดค่ำออนซอนนอนในสวนร้องไห้ นางแก่นไท้กอดผัวขวันเถิงราตีเดิกดื่นฟ้าร้องฮืนเสียงนั้น เมื่อนั้นบั้นนางจอมทันคึดรอดภะยอดแก้ว

ᩈᨠ᩠ᨠᩮᩣᩅᩣᩒᨶᩴᩉᩮᩖᩥᩋᨧᩱᨯᩮ ᨽᩡᨸᩮᩢ᩠ᨶᨧᩮᩫᩣᩃᩮᩫᩣᨾᩣᨲᩣ᩠ᨿᨶᩥᨶᩴ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨶᩫ᩠ᨠᨣᩮᩫᩣᩁᩋ᩠ᨦᨠᩯ᩠ᨾᩉ᩠ᨾᩩᨠᩣᨯᩣᩴ ᨣᩢ᩠ᨶᩅᩣᨹᩱᨧᩢᨶᩣᩴᩉᩣᩉᩫ᩠ᩅᨣᩨ᩠ᨶᨾᩣᨾᩱᨶᩥᨯᩮ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨸᩣᨯᩩᩢᨸᩋ᩠ᨦᨠᩣ᩠ᨦᩉᩣ᩠ᨯᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨸᩣᩉᩖᩣ᩠ᨯᨸᩋ᩠ᨦᨠᩣ᩠ᨦᩅᩢ᩠ᨶᩅᩮᩢ᩠ᨶᨶᩣᩴᨴᩢ᩠ᨦᩃᩮᩫᩣᨿᩢ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨶ
สักโกว่าโอนอเหลือใจเด ภะเป็นเจ้าเลามาตายนี้นอ แม้นว่านกเค้าร้องแกมหมู่กาดำ คั้นว่าไผจักนำหาหัวคืนมาไหม่นี้เด แม้นว่าปาดุกปองกางหาดแม้นว่าปาหลาดปองกางวันเว้นน้ำทั้งเล้ายังสัน

ᨶᩥ ᩒᨶᩴᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᩉ᩠ᨾᩣᨠᩥ᩠ᨶᨩᩣ᩠ᨦᨸ᩠ᨾᩥᨹᩱᩉᩖᩥᨦᩉᩮᩢ᩠ᨶᨸᩣᩢᨾᩢ᩠ᨶᩃᩫ᩠ᩅ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᩈᩮᩥᩬᨣᩰ᩠ᨦᨠᩥ᩠ᨶᩃᩩᩢᨸᩯᩡᨸ᩠ᨾᩥᨠᩯᨲᩴᨼᩣ᩠ᨶᩅᩣᨯᩢ᩠ᨦᨶᩢ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᩉᩣᩢᨾᩯ᩠ᨶᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨶᩢᨶᩃᩫᨸᩯᩡᨶᩢᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᩋᩥ᩠ᨶᨶᩢᨶᩃᩫᨼᩣ᩠ᨶᨶᩢᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨯᩢ᩠ᨦᨲᩫ᩠ᨶᨠᩩᨹᩩᨸᩮᩢ᩠ᨶᨾᩮᩢ᩠ᨿᨶᨾ᩠ᨾᨩᩣ᩠ᩈ
นี้ โอนอแม้นว่าหมากินช้างบ่มีไผหลิงเห็นปากมันแล้ว แม้นว่าเสือโค่งกินลูกแบ้บ่มีแก้ต่อฟานว่าดังนั้น เมื่อนั้นหากแม้นพระยาแถนนั้นแลแบ้นั้นเป็นดังพระยาอินนั้นแลฟานนั้นเป็นดังตนกูผู้เป็นเมียนัมม์ชาส

ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᨶᩣᩙᨶᩣ᩠ᩈᨶᩭᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣᨶᩢ᩠ᨶᩃᩫᨶᩴᩒᨶᩴ ᨾᩯ᩠ᨶᩅᩣᩉᩴᨹᩣᩈᩣ᩠ᩈᨠ᩠ᩅᩣ᩠ᨦᨲᩴᨠ᩠ᩅᩣ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨦᨾᩣᨯᩱᨶᩋ᩠ᨶᨠᩮᩥ᩠ᨠᨯᩥ᩠ᨶᨯᩣ᩠ᨿᩃᩫᨶᩴ ᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨾᩣᨾᩬᨯᨾ᩠ᨿ᩠ᨶᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩦᩃᩫᨶᩴ ᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨲᩣ᩠ᨿᩉ᩠ᨶᩥᨠᩱᨸᩮᩢ᩠ᨶᨻᩮᩥ᩠ᨶᩃᩫᨶᩴ ᨧᩮᩫᩣᩉᩣᩢᨲᩣ᩠ᨿᨸᩮᩢ᩠ᨶᨹᩥᨶᩫ᩠ᨠᨣᩮᩫᩣᩉᩱᨧᩮᩫᩣᨣᩧ᩠ᨯᩁᩬᨯᨶᩣᩙᨯᩯᨶᩯᩥᩡ ᨣᩢ᩠ᨶ
แม้นว่านางนาสน้อยสุชชาดานั้นแลนอโอนอ แม้นว่าหอผาสาดกว้างต่อกว้างสังมาได้นอนเกือกดินดายแลนอ เจ้าหากมามอดเมี้ยนเป็นผีแลนอ เจ้าหากตายหนีไกเป็นเพิ่นแลนอ เจ้าหากตายเป็นผีนกเค้าให้เจ้าคึดฮอดนางแดเนอ คั้น-

ᨠᩖᩣ᩠ᩅᩅᩣᨹᩫ᩠ᩅᨠᩣᩴᨻᩣᩉᩯ᩠ᨦᨣᩩᨲᩣ᩠ᨿᩉᩮᩢ᩠ᨯᩅᩣᨻᩕ᩠ᨿᩣᨳᩯ᩠ᨶᨲᩣ᩠ᨿᩅᩣ᩠ᨿᨠ᩠ᨴᩣᩴᨴᩰ᩠ᨯᨡᩣᨿᩢ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅᨲᩢ᩠ᨯᩉᩫ᩠ᩅᩉᩱᨣᩴᨡᩣ᩠ᨯᨸᩩᨣᩖᩡᩈᩩᨿᩢ᩠ᨦᩉᩮᩢ᩠ᨶᩈᩣᨸᩣ᩠ᨯᨹᩩᨯᩱᨧᩢᨹᩰ᩠ᩈᨲᩴᨣᩧ᩠ᨶᨾᩣᨸᩴᨧᩣ ᨲᨴᩣ ᨶᩱᨠᩖᩣᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶ ᩈᩢ᩠ᨯᨴᩢ᩠ᨦᨾ᩠ᩅᩁᩃᩫᨹᩥᨸᩣᨣᩴ᩠ᨾᩣᨠᩫ᩠ᨾᨡᩣ᩠ᨷᩉᩱ᩠ᩅᨡᩴᨻᩬᩁᨠᩯᨽᩡᨽᩩᨴᩬᩁᨲᩫ᩠ᨶ
กล่าวว่าผัวกำพ้าแห่งกูตายเหดว่าพระยาแถนตายวายกะทำโทดข้ายังผัวตัดหัวให้คอขาดบุคละสู่ยังเห็นสาปาดผู้ใดจักโผสต่อคืนมาบ่จา ตทา ในคลาเมื่อนั้น สัดทั้งมวนแลผีป่าก็มาก้มขาบไหว้ขอพอนแก่ภะภูทอนตน

ᨸᩕᩈᩮᩢ᩠ᨯ ᨲᩯᨾᩮᩥᩬᨹᩩᨡᩣᨠᩮᩥ᩠ᨯᨾᩣᨩᩣ᩠ᨯᨶᩥᨿᩢ᩠ᨦᨸᩴᨹᩣᨠᩫ᩠ᨯᨠᩴ᩠ᨡᩣᩃᩫ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣ᩠ᨦᨧᩥ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦᩈᩢ᩠ᨯᨴ᩠ᨿᩢᩣᩅᩣ ᨣᩭᩀᩩᨯᩦᨿᩮᩥᨹᩥᨸᩣᨾᩱᨺᩩᨦᩉ᩠ᨾᩩᨯᩮᩢ᩠ᨿᩁᩈᩣ᩠ᨶᨡᩭᩌᩮᩥ᩠ᨿ ᨸᩢ᩠ᨴᨶᩥᨡᩭᨧᩢᩋᩣᩴᩁᩣᩉ᩠ᨶᩥᨩᩩᨲᩫ᩠ᩅᨿᩣᩈᩮᩫᩣᨴᩮᩫᩣᩅᩢ᩠ᨶᨴᩮᩥ᩠ᨶ ᨾᩮᩥᩬᨶᩢ᩠ᨶᨶᩣᩙᩈᩢ᩠ᨦᩃᩫ᩠ᩅ
ประเสิด แต่เมื่อผู้ข้าเกิดมาชาดนี้ยังบ่ผากดก็ข้าแล เมื่อนั้นนางจิงสั่งยังสัดทั้งหลายว่า คอยอยู่ดีเยอผีป่าไม้ฝูงหมู่เดียรสานข้อยเอย บัทนี้ข้อยจักอำราหนีซุตัวยาเสาเท่าวันเทิน เมื่อนั้นนางสั่งแล้ว

ᨣᩭᨲ᩠ᨿ᩠ᨶᨸᩬᩙᨿᩯ᩠ᨦᨡᩮᩫᩣᨴᩋ᩠ᨦᨠᩱᩖ᩠ᨿᩡᨾᩣ᩠ᩈ ᩉᩫ᩠ᨶᨴᩣ᩠ᨦᨿᩣᩢᩉᩮᩢ᩠ᩅᨩᩢ᩠ᨶ ᨽᩩᨹᩣᨲᩢ᩠ᨦᨲᩮᩢ᩠ᨦᨩᩬᩙᩁᩣᩢᨾᩱᨺᩣᩢᩋᩙᨹᩣᩈᩩᩙ ᨻᩩᨡᩮᩫᩣᩅᩫ᩠ᨶᨲᩢ᩠ᨶᨩᩋᩙᨺᩣᩉᩱᩖᩁᩴᨸᩫ᩠ᨶᨴᩫ᩠ᨶᨸᩯ᩠ᩅᩃᩫ᩠ᨾᨠᩱ᩠ᩅᨻᩢ᩠ᨯᨾᩮᩢ᩠ᨠ ᨶᩣ᩠ᨦᩋᩮᩢ᩠ᨠᨠᩮᩫᩣᨣᩭᨿᩴᨸᩱᩉᩢ᩠ᨶᩃᩫ ᨸᩢᨭ᩠ᨮᩣᨿ᩠ᨿᩡ ᨲᩢ᩠ᨦᩌᩯ᩠ᨠᨲᩯ
คอยเตียนป่องแยงเข้าท้องไกลยะมาส หนทางยากเหวชัน ภูผาตั้งเต็งช่องรากไม้ฝากองผาสูง พูเขาวนตันช่องฝาไหลรอบนทนแปวลมไกวพัดเมก นางเอกเก่าค่อยยอไปหั้นแล ปัฏฐายยะ ตั้งแรกแต่

ᨶᩥᨾᩮᩥᩬᩉ᩠ᨶᩣ ᨶᩣᩙᨠᩣᩴᨻᩣᨸᩴᩅᩣ᩠ᨦᨹᩫ᩠ᩅ ᨶᩣ᩠ᨦᨣᩴᨴᩣᩴᨻ᩠ᨿᩁᨸᩱᨸ᩠ᨾᩥᨣᩧ᩠ᨶᨡᩋᩙᨠᩮᩫᩣ ᨲᩣ᩠ᨸᨲᩴᨴᩮᩫᩣᨯᩱ᪓ᨯᩮᩥᩋ᩠ᨶᨸᩣ᩠ᨿ ᨣᩴᨧᩥ᩠ᨦᨸᩱᨳᩮᩥ᩠ᨦᨾᩮᩥᩋ᩠ᨦᨧᩩᨸᩢ᩠ᨶᨾᩥᨣ᩠ᨣᩡᩁᩣ᩠ᩈᨴᨾ᩠ᨾᩡᨩᩣ᩠ᩈᨾᩯ᩠ᨶᨾᩮᩥᩋ᩠ᨦᩉᩯ᩠ᨦᨻᩕ᩠ᨿᩣᨠᩩᨯ ᩈ᩠ᩅᩁᨯᩢ᩠ᨦᨶᩣᩙᩈᩩᨩ᩠ᨩᩣᨯᩣᩋᩣᨣᩡᩈᩢ᩠ᨶᨲᩥᨣᩴᨸᩱᩌᩬᨯᨧᩬᨯᨳᩮᩥ᩠ᨦᨿᩢ᩠ᨦ
นี้เมื่อหน้า นางกำพ้าบ่วางผัว นางก็ทำเพียนไปบ่มิคืนของเก่า ตาบต่อเท่าได้ ๓ เดือนปาย ก็จิงไปเถิงเมืองจุปันมิคคะราสทัมมะชาสแม่นเมืองแห่งพระยากุด ส่วนดังนางสุชชาดาอาคะสันติก็ไปฮอดจอดเถิงยัง

manuscript #22

manuscript #23

manuscript #24

ที่มา: Southeast Asia Digital Library


ข้อสังเกตอักขรวิธี

คำศัพท์

ผู้ปริวรรต